ดีเอสไอ เผยนำเข้ารถหรูหนีภาษี สูงถึง 1.8 พันล้านบาท

กทม.1ส.ค.-เปิดผลการปราบปรามนำเข้ารถยนต์หรูเลี่ยงภาษีของ ‘ดีเอสไอ-กรมศุลฯ-กรมการค้าต่างประเทศ’ ประเมินภาษีส่วนที่ขาดจากรถยนต์หรูที่ตรวจสอบ 2 ล็อตจำนวน 124 คัน ถึง 1,838 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ดีเอสไอพบเบาะแสขบวนการนำเข้ารถหรูผ่านนักเรียนไทยในต่างประเทศ


พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีเอสไอ นายชัยยุทธ  คำคูณ  รองอธิบดีกรมศุลกากร และนายกีรติ  รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ  ร่วมกันแถลงผลการปราบปรามการนำเข้ารถยนต์หรูเลี่ยงภาษี 


พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ขณะนี้กรมศุลกากรได้ประเมินภาษีส่วนที่ขาดของรถยนต์หรูลอต 2 จำนวน 91 คัน พบภาษีอากรขาด 1,165 ล้านบาท รวมการตรวจสอบรถยนต์ 2 ลอต จำนวน 124 คัน รวมมูลค่าภาษีที่ขาดไป 1,838 ล้านบาทในส่วนผู้ซื้อที่ครอบครองรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ที่นำรถเข้ามาให้ดีเอสไอตรวจสภาพ 59 คัน ดีเอสไอได้ส่งคืนรถให้กลับดูแลรักษาโดยไม่เรียกเงินประกัน และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น มีเพียงให้ทำสัญญาประกันเพื่อรับรองว่าพร้อมจะนำรถเข้ามาให้ดีเอสไอตรวจสอบได้ตลอดเวลา ยืนยันว่าดีเอสไอเน้นดำเนินคดีกับผู้ประกอบการนำเข้า  หาก ผู้ซื้อไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าจะถือเป็นผู้เสียหาย 


หลังจากนี้ดีเอสไอจะมีหนังสืออย่างเป็นทางการเพื่อนัดนำรถเข้าตรวจสภาพ ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มคนที่แอบอ้างว่าสามารถเคลียร์คดีให้ได้เพราะคดีดังกล่าวดำเนินการตามพยานหลักฐาน และร่วมกันตรวจสอบหลายหน่วยงาน   โดยจุดเริ่มต้นการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวมาจาก ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ศุลกากรบางกลุ่มว่ามีส่วนรู้เห็นกับการสำแดงนำเข้าราคาเป็นเท็จ  จนนำไปสู่การขอเอกสารหลักฐานราคารถยนต์จากประเทศต้นทางซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างประเทศ  

ทั้งนี้ยืนยันการสอบสวนไม่มีเจตนากลั่นแกล้งใคร แต่ต้องการเรียกคืนภาษีที่ชำระไว้ไม่ครบถ้วนกลับมาพัฒนาประเทศ คนที่มีเงินซื้อซุปเปอร์คาร์  เชื่อว่าทุกคนอยากจ่ายภาษี เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจไม่รับรู้ข้อเท็จจริงว่ามีการหลบเลี่ยงขั้นตอนนำเข้า ซึ่งดีเอสไอจะดำเนินการกับผู้นำเข้าทุกราย  เบื้องต้นลอตแรก 32 คัน มาจากการบริษัทนำเข้า 3  ราย และลอต 2 จำนวน 91 คัน มีผู้นำเข้า 5 ราย โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะแบ่งหน้าที่กันทำหลายบริษัท ทั้งนำเข้า นำรถออกจากด่านศุลกากร  และจัดจำหน่าย   ความเชื่อมโยงทั้งหมดของผู้เกี่ยวข้องปรากฎตามพยานเอกสาร โดยบริษัทผู้เกี่ยวข้องทุกรายจะถูกเรียกเข้ารับทราบข้อกล่าวหาอย่างครบถ้วนทุกราย ไม่สามารถละเว้นดำเนินการกับรายหนึ่งรายใดได้

             

ด้านนายชัยยุทธ  กล่าวว่า  สำหรับรถยนต์ลอตที่ 2 ดีเอสไอ ส่งให้ประเมินภาษีรวม 302 คันได้ทยอยประเมินเสร็จสิ้นแล้ว 91 คัน มี19 คันอยู่ระหว่างการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนอีก 200 คันกำลังเร่งประเมินภาษีให้แล้วเสร็จ ทั้งนี้ ขั้นตอนการประเมินจะยึดหลักฐานในราคาจากดีเอสไอนำไปเปรียบเทียบกับใบขนสินค้า และใบอินวอนซ์ที่ผู้นำเข้านำมาแสดงเพื่อผ่านพิธีศุลกากร ซึ่งพบว่าราคาสำแดงทุกคันต่ำกว่าราคาจริง จึงต้องประเมินภาษีที่ขาดจากราคาที่แท้จริง  ในส่วนลอตแรกได้แจ้งให้ผู้นำเข้า 3 บริษัท  เข้ามาชี้แจงเพื่อให้โอกาสโต้แย้งหากไม่สามารถชี้แจงได้จะเรียกให้นำเงินมาชำระภาษีส่วนที่ขาดพร้อมเบี้ยปรับโดยกรมศุลกากรสามารถเรียกค่าปรับได้สูงสุด 4 เท่าของราคาที่แท้จริง   

สำหรับการสอบสวนเอาผิดทางวินัยเจ้าหน้าที่ที่รับราคา  จะต้องรอขั้นตอนการสอบสวนคดีอาญาประกอบกันด้วย อย่างไรก็ตามขอชี้แจงกรณีคำสั่งที่ 317 ว่าไม่ใช่การกำหนดราคาของกรมศุลกากร แต่เป็นเกณฑ์ประเมินความเสี่ยงผู้นำเข้ามีหน้าที่ต้องสำแดงราคานำเข้าที่แท้จริง ซื้อมาเท่าไหร่ต้องสำแดงเท่านั้น เพื่อใช้เป็นฐานพิจารณาภาษี  ที่ผ่านมาผู้นำเข้าอาจคิดว่าศุลกากรไม่รู้ราคาที่แท้จริง   แต่ปัจจุบันมีช่องทางความร่วมมือที่ทำให้ได้ราคาที่แท้จริงของรถยนต์ ดังนั้น จึงขอเตือนไปยังผู้นำเข้าไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทใด ให้สำแดงราคาที่แท้จริง ป้องกันปัญหาที่จะเกิดกับผู้นำเข้าได้ในภายหลัง

          

ขณะที่นายกีรติ  กล่าวว่า  ปกติจะมีการนำเข้ารถยนต์เก่า หรือรถยนต์ใช้แล้ว ตามที่ให้สิทธิกับนักเรียน  หรือคนไทยที่ทำงานในต่างประเทศที่อาจผูกพันธ์กับรถยนต์ที่ใช้งานระหว่างอยู่ต่างประเทศให้สามารถนำรถกลับมาใช้ในประเทศได้ ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องอยู่ในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 1 ปีครึ่งและต้องมีใบขับขี่ในต่างประเทศ เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้ใช้งานจริง   โดยขั้นตอนนำเข้าจะพิจารณาจากเอกสารเนื่องจากกรอบการอนุญาตต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 25 วัน  ในขั้นตอนดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะไม่เห็นรถที่ขอนำเข้า  ซึ่งเอกสารที่มายื่นขออนุญาตพบว่าเป็นเอกสารถูกต้อง  แต่มีข้อสังเกตเมื่อปี 2559 ซึ่งพบว่ามีการนำเข้ารถจำนวนมากจากประเทศญี่ปุ่น  จึงได้สุ่มตรวจสอบพบรถยนต์ 20 คัน มีเอกสารถูกต้อง 2 คัน  จึงได้ขอความร่วมมือกรมการขนส่ง ประเทศญี่ปุ่น ตรวจสอบพบว่าเป็นใบขับขี่ปลอม  ทะเบียนรถปลอม    กรมการค้าต่างประเทศ จึงได้หารือกับดีเอสไอเพื่อตรวจสอบย้อนหลังตั้งแต่ 2550 เกี่ยวกับการนำเข้ารถยนต์ของนักเรียนไทยในต่างประเทศซึ่งพบว่ามีกว่า 800 คัน   นอกจากนี้ทบทวนกฎระเบียบการนำเข้ารถยนต์ใช้แล้วเพื่อไม่ให้ถูกใช้เป็นช่องทางหลบเลี่ยงภาษี

             

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ในส่วนการนำเข้ารถยนต์ใช้ของนักเรียนไทยในต่างประเทศพบเบาะแสการโอนเงินล่วงหน้าให้นักเรียนไทยเพื่อเป็นค่าจ้างซื้อรถ โดยให้เซ็นใบมอบอำนาจขายรถยนต์ไว้ก่อนและพบว่ามีนักเรียนไทยประมาณ 20 คน มอบอำนาจให้ทนายเพียงคนเดียวขออนุญาตนำเข้ารถใช้แล้วทั้งหมด ดีเอสไอขอเวลาสักระยะในการตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลที่นำเข้ารถยนต์ในรูปแบบต่าง ๆ เพราะเชื่อว่ามีขบวนการนำรถซุปเปอร์คาร์ มาสอดแทรกในบัญชีนำเข้ารถยนต์ของนักเรียนไทยในต่างประเทศ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระดูกเทียมไทเทเนียม นวัตกรรมไทยช่วยทหารกล้าชายแดน

กรุงเทพฯ 16 ส.ค.-สินค้า IP ไทยสุดเลิศ ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ต่อยอดส่งออกสร้างรายได้ให้กับประเทศไทยในระยะยาว นายจตุพร บุรุษพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับบริษัท เมติคูลี่ จำกัด ผู้ผลิตกระดูกเทียมและอุปกรณ์ช่วยผู้ป่วยผ่าตัด ช่วยเหลือทหารแนวหน้าที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา จำนวน 4 ราย ซึ่งรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี และโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าตามลำดับ เพื่อให้ทหารกล้าของไทยฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีโดยเร็ว “ความร่วมมือครั้งนี้ เริ่มจากกระทรวงพาณิชย์ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานีเยี่ยมผู้ประสบภัย ชายแดนไทย–กัมพูชา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2568 จากนั้นได้ประสานกับ เมติคูลี่ ซึ่งได้รับเลือกจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ให้เป็น IP Champion ในสาขาสิทธิบัตรการประดิษฐ์ประจำปีนี้ มอบแผ่นปิดกะโหลกเทียมไทเทเนียมออกแบบเฉพาะบุคคล และกระดูก มือเทียมไทเทเนียมเฉพาะบุคคลให้ทางโรงพยาบาลเพื่อให้นายทหารที่ผ่านการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ 3 ราย และผ่าตัดข้อมือ 1 ราย ได้รับการรักษาที่มีความแม่นยำสูง ด้วยการออกแบบกระดูกที่มีขนาดจำเพาะกับสรีระผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้ดีขึ้น และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างปกติ โดยกระทรวงฯ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 2” […]

“นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก

กทม.16 ส.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “นราธิวาส” จับยาไอซ์ลอตใหญ่ 900 กก. ซุกรถขนผัก สั่งการเร่งขยายผลต่อเนื่อง พร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ว่าจากการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล ที่มุ่งปราบปรามยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ในวันนี้ทางจังหวัดนราธิวาสร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ได้มีการแกะรอย และตรวจค้นรถกระบะที่มีการลักลอบขนส่งยาเสพติด บริเวณอำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจจับยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ซุกซ่อนอยู่ในรถกระบะขนผัก จำนวน 30 กระสอบ น้ำหนักรวมประมาณ 900 กิโลกรัม และได้ทำการควบคุมตัวตัวผู้ต้องหาไว้ได้แล้ว นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.มหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามการดำเนินงานและร่วมแถลงผลการจับกุมในวันที่ 16 ส.ค.นอกจากนี้ยังได้ให้กำลังใจผ่านผู้ว่าราชการจังหวัด ไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างเข้มข้น ตั้งใจ จนสามารถจับกุมกรณีการลักลอบขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่นี้ได้ และได้ให้ติดตามเพื่อขยายผลการจับกุมต่อไป.-319.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียน-ปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียน รับเงินช่วยเหลือ

ทำเนียบฯ 16 ส.ค. – รัฐบาลย้ำเกษตรกรเร่งขึ้นทะเบียนและปรับปรุงข้อมูลทางทะเบียนปีการผลิต 2568/69 พร้อมรอรับเงินช่วยเหลือตามนโยบายรัฐบาล นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่คณะกรรมการนโยบายและบริหารข้าวแห่งชาติ (นบข.) เห็นชอบโครงการพัฒนาศักยภาพการผลิตข้าวของเกษตรกรปลูกข้าวปีการผลิต 2568/69 และนาปรังปีการผลิต 2568 โดยจะจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากปัญหาต้นทุนการผลิตสูงและราคาข้าวที่ตกต่ำ ซึ่งเกษตรกรที่ทำนาปรังและนาปี จะได้รับเงินหลังจากลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิแล้วเสร็จ ทั้งนี้ คาดว่าจะเกษตรกรที่ทำนาปรังจะได้รับเงินเร็วที่สุดภายในเดือนกันยายน 2568 ส่วนเกษตรกรที่ทำนาปี จะได้รับในช่วงปลายปีนี้ หรือต้นปีงบประมาณ 2569 รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขอเชิญชวนเกษตรกรทั่วประเทศ เร่งดำเนินการขึ้นทะเบียนและปรับปรุงทะเบียนเกษตรกร ประจำปีการผลิต 2568/69 โดยเกษตรกรสามารถขึ้นทะเบียนเกษตรกรผ่านช่องทางการบริการของรัฐโดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนี้ วิธีที่ 1 แจ้งกับเจ้าหน้าที่ สำหรับเกษตรกรรายเดิม แปลงเดิม สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอทุกแห่ง หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อม และร่วมเป็นหน่วยสนับสนุนที่เกษตรกรมีพื้นที่การเกษตรอยู่ รวมถึงแจ้งข้อมูลผ่านผู้นำชุมชนหรือตัวแทนอาสาสมัครเกษตรหมู่บ้าน (อกม.) หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย ส่วน เกษตรกรรายใหม่ และรายเดิม แต่เพิ่มแปลงใหม่ […]

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

กต.โต้ท่าทีกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – โฆษก กต. โต้ 4 ข้อ เกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชา ปมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ตามที่มีการสอบถามเกี่ยวกับท่าทีของฝ่ายกัมพูชาที่ออกมาแถลงในประเด็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลในช่วงที่ผ่านมานั้น นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ชี้แจงเพิ่มเติม ดังนี้ 1. เป็นที่น่าเสียดายที่กัมพูชาไม่รับข้อเสนอของไทยในการร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด ในการประชุม RBC ระหว่างกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด กับกองบัญชาการภูมิภาคทหารที่ 3 ของกองทัพบกกัมพูชา เมื่อวานนี้ (16 ส.ค.68) โดยฝ่ายกัมพูชาระบุว่าต้องขึ้นอยู่กับพัฒนาการของการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง ตลอดจนเสนอให้มีความร่วมมือเฉพาะในบริเวณที่มีการปักปันเขตแดนแล้วเสร็จก่อน 2. ท่าทีของกัมพูชาดังกล่าว เป็นท่าทีที่ย้อนแย้งกันอย่างชัดเจน โดยกัมพูชาอ้างว่าให้ความสำคัญกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรม แต่กลับสร้างเงื่อนไขและปล่อยให้อาวุธร้ายแรงเช่นนี้ยังคงอยู่และถูกนำไปใช้ ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงของ GBC อย่างชัดเจน และไม่ให้ค่ากับชีวิตและความปลอดภัยของมนุษย์ที่เป็นพี่น้องประชาชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และตอกย้ำเจตนารมณ์ที่จะยังคงละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศต่อไป 3. นอกจากนี้ ตามการแถลงข่าวของโฆษก กห. กัมพูชา และกรณีนายเฮง รัตนา ผอ. CMAC เช้าวันนี้ ที่กล่าวอ้างว่าทุ่นระเบิด PMN-2 ที่นำมาเสนอต่อคณะทูต องค์การระหว่างประเทศ […]

“บิ๊กต่าย” ถกบอร์ดกลั่นกรอง เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร.

กรุงเทพฯ 17 ส.ค. – ผบ.ตร. นั่งหัวโต๊ะประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งนายพลสีกากี เลื่อน “สำราญ-อิทธิพล” ขึ้นรอง ผบ.ตร. ที่ห้องประชุม 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ ตร. หรือ “บอร์ดกลั่นกรอง” พิจารณาแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับรอง ผบ.ตร.-ผบก. โดยมี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.กรไชย คล้ายคลึง รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.นิรันดร เหลื่อมศรี รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช. และ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.สกพ. และเลขานุการ เข้าร่วมประชุม ทั้งนี้ […]

มทภ.2 ปฏิเสธรับตำแหน่งทางการเมืองหลังเกษียณ

กาฬสินธุ์ 17 ส.ค. – แม่ทัพภาค 2 ร่วมพิธียกเสาเอกเจดีย์โนนสาวเอ้ “หลวงปู่ศิลา” พร้อมปฏิเสธรับตำแหน่งทางการเมืองหลังเกษียณอายุราชการ “บิ๊กกุ้ง” พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 หลังมีหลายฝ่ายเรียกร้องให้ พล.ท.บุญสิน รับตำแหน่งทางการเมือง หรือต่ออายุราชการ จากผลงานแม่ทัพภาคที่ 2 อันโดดเด่น ถูกใจประชาชน วันนี้ พล.ท.บุญสิน ในฐานะลูกศิษย์คนดังของหลวงปู่ศิลา เดินทางมาร่วมพิธีฉลองประกาศตั้งวัดสวนธรรมปีติ และยกเสาเอก เสาโท เจดีย์โนนสาวเอ้ ณ วัดสวนธรรมปีติ ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ขณะทำพิธียกเสาเอก เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลด ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนนับหมื่นคนเข้าร่วมพิธี ขณะที่หลายคนมารอต้อนรับ พล.ท.บุญสิน เพื่อมอบกำลังใจและขอบคุณที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของไทยอย่างเต็มความสามารถจำนวนมาก พล.ท.บุญสิน เปิดเผยถึงแผนในอนาคตหลังจากเกษียณอายุราชการว่า จะไปทำหน้าที่เป็นทหารกองหนุน เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศไทย ส่วนตำแหน่งทางการเมืองไม่ขอรับ ขอทำหน้าที่ดูแลประเทศชาติในส่วนที่เราสามารถทำได้.-สำนักข่าวไทย

ร่วมส่งดวงวิญญาณ “พลทหารรัฐภูมิ” แน่นวัด

สุรินทร์ 17 ส.ค. – ประชาชนจำนวนมากร่วมพิธีฌาปนกิจร่าง “พลทหารรัฐภูมิ” แน่นวัดกลางบัวเชด จ.สุรินทร์ พ่อเผยโล่งใจมีคนเข้าใจลูกชายมากขึ้น วัดกลางบัวเชด อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ สถานที่จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพของพลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ซึ่งก่อเหตุยิงวัยรุ่น 2 ราย ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนถูกพบว่าเสียชีวิตบริเวณป่าริมคลองส่งน้ำบ้านเขื่อนแก้ว พื้นที่ อ.กาบเชิง โดยวันนี้มีพิธีฌาปนกิจศพพลทหารรัฐภูมิ ท่ามกลางความเศร้าโศกของญาติและเพื่อนร่วมงานที่มาร่วมพิธีเป็นอย่างมาก รวมถึงหน่วยงานต้นสังกัด ก่อนทำพิธีมีทหารกองเกียรติยศทำความเคารพศพ นายอำเภอบัวเชด เป็นประธานในพิธีขึ้นทอดผ้าบังสุกุล จากนั้นผู้ที่เข้าร่วมงานขึ้นวางดอกไม้จันทน์ โดยก่อนหน้าที่จะประกอบพิธี มีหลายหน่วยงาน องค์กรต่างๆ และประชาชน ร่วมกันมอบเงินจากกองทุนต่างๆ ให้กับครอบครัวของพลทหารรัฐภูมิ พ่อโล่งใจคนเข้าใจลูกชายมากขึ้นนายประยูร ผู้เป็นพ่อ เผยความรู้สึกว่าตอนนี้สบายใจขึ้นมากเกี่ยวกับข่าวของลูกชายที่ออกไปในครั้งแรกส่งผลกระทบต่อสภาจิตใจของคนในครอบครัว ก่อนมีการแก้ไขข่าวที่ถูกต้อง ตรงกับข้อเท็จจริง และมีคนมาให้กำลังใจจำนวนมาก บอกลูกชายครั้งสุดท้ายว่าลูกทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว พ่อภูมิใจในตัวลูกชายมาก พร้อมยอมรับว่ามีคนมาขอสำเนาเลขบัญชีไปเปิดรับเงินบริจาค แต่ไม่ได้เป็นคนเปิดเอง และจะปิดรับบริจาควันจันทร์นี้ (18 ส.ค.) จนถึงขณะนี้ไม่ทราบว่าได้เงินเท่าไร มีน้องชายมาบอกว่าเขาจะโอนมาให้ 50,000 […]