ดีเอสไอ เผยนำเข้ารถหรูหนีภาษี สูงถึง 1.8 พันล้านบาท

กทม.1ส.ค.-เปิดผลการปราบปรามนำเข้ารถยนต์หรูเลี่ยงภาษีของ ‘ดีเอสไอ-กรมศุลฯ-กรมการค้าต่างประเทศ’ ประเมินภาษีส่วนที่ขาดจากรถยนต์หรูที่ตรวจสอบ 2 ล็อตจำนวน 124 คัน ถึง 1,838 ล้านบาท ขณะเดียวกัน ดีเอสไอพบเบาะแสขบวนการนำเข้ารถหรูผ่านนักเรียนไทยในต่างประเทศ


พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พร้อมด้วย พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร รองอธิบดีเอสไอ นายชัยยุทธ  คำคูณ  รองอธิบดีกรมศุลกากร และนายกีรติ  รัชโน รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ  ร่วมกันแถลงผลการปราบปรามการนำเข้ารถยนต์หรูเลี่ยงภาษี 


พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ขณะนี้กรมศุลกากรได้ประเมินภาษีส่วนที่ขาดของรถยนต์หรูลอต 2 จำนวน 91 คัน พบภาษีอากรขาด 1,165 ล้านบาท รวมการตรวจสอบรถยนต์ 2 ลอต จำนวน 124 คัน รวมมูลค่าภาษีที่ขาดไป 1,838 ล้านบาทในส่วนผู้ซื้อที่ครอบครองรถยนต์ซุปเปอร์คาร์ที่นำรถเข้ามาให้ดีเอสไอตรวจสภาพ 59 คัน ดีเอสไอได้ส่งคืนรถให้กลับดูแลรักษาโดยไม่เรียกเงินประกัน และไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น มีเพียงให้ทำสัญญาประกันเพื่อรับรองว่าพร้อมจะนำรถเข้ามาให้ดีเอสไอตรวจสอบได้ตลอดเวลา ยืนยันว่าดีเอสไอเน้นดำเนินคดีกับผู้ประกอบการนำเข้า  หาก ผู้ซื้อไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าจะถือเป็นผู้เสียหาย 


หลังจากนี้ดีเอสไอจะมีหนังสืออย่างเป็นทางการเพื่อนัดนำรถเข้าตรวจสภาพ ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกลุ่มคนที่แอบอ้างว่าสามารถเคลียร์คดีให้ได้เพราะคดีดังกล่าวดำเนินการตามพยานหลักฐาน และร่วมกันตรวจสอบหลายหน่วยงาน   โดยจุดเริ่มต้นการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวมาจาก ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ศุลกากรบางกลุ่มว่ามีส่วนรู้เห็นกับการสำแดงนำเข้าราคาเป็นเท็จ  จนนำไปสู่การขอเอกสารหลักฐานราคารถยนต์จากประเทศต้นทางซึ่งเป็นความร่วมมือกันระหว่างประเทศ  

ทั้งนี้ยืนยันการสอบสวนไม่มีเจตนากลั่นแกล้งใคร แต่ต้องการเรียกคืนภาษีที่ชำระไว้ไม่ครบถ้วนกลับมาพัฒนาประเทศ คนที่มีเงินซื้อซุปเปอร์คาร์  เชื่อว่าทุกคนอยากจ่ายภาษี เพียงแต่ที่ผ่านมาอาจไม่รับรู้ข้อเท็จจริงว่ามีการหลบเลี่ยงขั้นตอนนำเข้า ซึ่งดีเอสไอจะดำเนินการกับผู้นำเข้าทุกราย  เบื้องต้นลอตแรก 32 คัน มาจากการบริษัทนำเข้า 3  ราย และลอต 2 จำนวน 91 คัน มีผู้นำเข้า 5 ราย โดยกลุ่มผู้ต้องหาจะแบ่งหน้าที่กันทำหลายบริษัท ทั้งนำเข้า นำรถออกจากด่านศุลกากร  และจัดจำหน่าย   ความเชื่อมโยงทั้งหมดของผู้เกี่ยวข้องปรากฎตามพยานเอกสาร โดยบริษัทผู้เกี่ยวข้องทุกรายจะถูกเรียกเข้ารับทราบข้อกล่าวหาอย่างครบถ้วนทุกราย ไม่สามารถละเว้นดำเนินการกับรายหนึ่งรายใดได้

             

ด้านนายชัยยุทธ  กล่าวว่า  สำหรับรถยนต์ลอตที่ 2 ดีเอสไอ ส่งให้ประเมินภาษีรวม 302 คันได้ทยอยประเมินเสร็จสิ้นแล้ว 91 คัน มี19 คันอยู่ระหว่างการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนอีก 200 คันกำลังเร่งประเมินภาษีให้แล้วเสร็จ ทั้งนี้ ขั้นตอนการประเมินจะยึดหลักฐานในราคาจากดีเอสไอนำไปเปรียบเทียบกับใบขนสินค้า และใบอินวอนซ์ที่ผู้นำเข้านำมาแสดงเพื่อผ่านพิธีศุลกากร ซึ่งพบว่าราคาสำแดงทุกคันต่ำกว่าราคาจริง จึงต้องประเมินภาษีที่ขาดจากราคาที่แท้จริง  ในส่วนลอตแรกได้แจ้งให้ผู้นำเข้า 3 บริษัท  เข้ามาชี้แจงเพื่อให้โอกาสโต้แย้งหากไม่สามารถชี้แจงได้จะเรียกให้นำเงินมาชำระภาษีส่วนที่ขาดพร้อมเบี้ยปรับโดยกรมศุลกากรสามารถเรียกค่าปรับได้สูงสุด 4 เท่าของราคาที่แท้จริง   

สำหรับการสอบสวนเอาผิดทางวินัยเจ้าหน้าที่ที่รับราคา  จะต้องรอขั้นตอนการสอบสวนคดีอาญาประกอบกันด้วย อย่างไรก็ตามขอชี้แจงกรณีคำสั่งที่ 317 ว่าไม่ใช่การกำหนดราคาของกรมศุลกากร แต่เป็นเกณฑ์ประเมินความเสี่ยงผู้นำเข้ามีหน้าที่ต้องสำแดงราคานำเข้าที่แท้จริง ซื้อมาเท่าไหร่ต้องสำแดงเท่านั้น เพื่อใช้เป็นฐานพิจารณาภาษี  ที่ผ่านมาผู้นำเข้าอาจคิดว่าศุลกากรไม่รู้ราคาที่แท้จริง   แต่ปัจจุบันมีช่องทางความร่วมมือที่ทำให้ได้ราคาที่แท้จริงของรถยนต์ ดังนั้น จึงขอเตือนไปยังผู้นำเข้าไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทใด ให้สำแดงราคาที่แท้จริง ป้องกันปัญหาที่จะเกิดกับผู้นำเข้าได้ในภายหลัง

          

ขณะที่นายกีรติ  กล่าวว่า  ปกติจะมีการนำเข้ารถยนต์เก่า หรือรถยนต์ใช้แล้ว ตามที่ให้สิทธิกับนักเรียน  หรือคนไทยที่ทำงานในต่างประเทศที่อาจผูกพันธ์กับรถยนต์ที่ใช้งานระหว่างอยู่ต่างประเทศให้สามารถนำรถกลับมาใช้ในประเทศได้ ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องอยู่ในต่างประเทศไม่น้อยกว่า 1 ปีครึ่งและต้องมีใบขับขี่ในต่างประเทศ เพื่อยืนยันว่าเป็นผู้ใช้งานจริง   โดยขั้นตอนนำเข้าจะพิจารณาจากเอกสารเนื่องจากกรอบการอนุญาตต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 25 วัน  ในขั้นตอนดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะไม่เห็นรถที่ขอนำเข้า  ซึ่งเอกสารที่มายื่นขออนุญาตพบว่าเป็นเอกสารถูกต้อง  แต่มีข้อสังเกตเมื่อปี 2559 ซึ่งพบว่ามีการนำเข้ารถจำนวนมากจากประเทศญี่ปุ่น  จึงได้สุ่มตรวจสอบพบรถยนต์ 20 คัน มีเอกสารถูกต้อง 2 คัน  จึงได้ขอความร่วมมือกรมการขนส่ง ประเทศญี่ปุ่น ตรวจสอบพบว่าเป็นใบขับขี่ปลอม  ทะเบียนรถปลอม    กรมการค้าต่างประเทศ จึงได้หารือกับดีเอสไอเพื่อตรวจสอบย้อนหลังตั้งแต่ 2550 เกี่ยวกับการนำเข้ารถยนต์ของนักเรียนไทยในต่างประเทศซึ่งพบว่ามีกว่า 800 คัน   นอกจากนี้ทบทวนกฎระเบียบการนำเข้ารถยนต์ใช้แล้วเพื่อไม่ให้ถูกใช้เป็นช่องทางหลบเลี่ยงภาษี

             

พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ในส่วนการนำเข้ารถยนต์ใช้ของนักเรียนไทยในต่างประเทศพบเบาะแสการโอนเงินล่วงหน้าให้นักเรียนไทยเพื่อเป็นค่าจ้างซื้อรถ โดยให้เซ็นใบมอบอำนาจขายรถยนต์ไว้ก่อนและพบว่ามีนักเรียนไทยประมาณ 20 คน มอบอำนาจให้ทนายเพียงคนเดียวขออนุญาตนำเข้ารถใช้แล้วทั้งหมด ดีเอสไอขอเวลาสักระยะในการตรวจสอบเพื่อหาความเชื่อมโยงของกลุ่มบุคคลที่นำเข้ารถยนต์ในรูปแบบต่าง ๆ เพราะเชื่อว่ามีขบวนการนำรถซุปเปอร์คาร์ มาสอดแทรกในบัญชีนำเข้ารถยนต์ของนักเรียนไทยในต่างประเทศ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เขมรยิงจรวดตกใส่ชาวบ้านกันทรลักษ์ เสียชีวิตอีก 1 ราย

ศรีสะเกษ 27 ก.ค. – ไม่เลือกเป้าหมาย! กัมพูชายิงจรวดตกใส่บ้านเรือนประชาชน ต.บึงมะลู อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านเสียชีวิตอีก 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ด้าน ผบ.ตร.ลงพื้นที่ศรีสะเกษ กำชับดูแลทรัพย์สินประชาชน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ทำหน้าที่แข็งขัน .-สำนักข่าวไทย

เหตุปะทะชายแดนสุรินทร์รุนแรง ขยายวงกว้าง ยอดอพยพเพิ่ม

สุรินทร์ 27 ก.ค. – สถานการณ์การสู้รบตามแนวชายแดนไทยกัมพูชาด้าน จ.สุรินทร์ มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นและขยายวงกว้าง โดยเฉพาะด้านปราสาทตาควาย และปราสาทตาเมือนธม ทำให้มีผู้อพยพตามศูนย์พักพิงชั่วคราวพุ่งทะลุกว่า 50,000 คน เวลาราว 04.30 น. วันนี้มีการเปิดฉากปะทะกันอย่างหนัก ทั้งปืนเล็ก และปืนใหญ่ บริเวณปราสาทตาควาย ต่อด้วยปราสาทตาเมือนธม ที่อยู่ไม่ไกลกัน พื้นที่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กระสุนจรวด BM 21 ตกใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหลัง ใกล้กัน ฟาร์มวัววากิว ยังมีวัวถูกสะเก็ดตาย 6 ตัว กระสุนยังตกกระจายตามทุ่งนารวม 9 ลูก ในพื้นที่ตำบลบ้านพลวง อำเภอปราสาท ส่วนตำบลตาเมียง และตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ก็มีกระสุนเข้าไปตกเป็นจำนวนมากเช่นกัน วิถีกระสุนที่มาตกไกลขึ้น ทำให้ศูนย์พักพิงชั่วคราวในตัวอำเภอปราสาทจังหวัดสุรินทร์ ต้องยุบเพิ่มเติมอีก 2 จุด ขณะที่ชาวอำเภอปราสาท ต่างแตกตื่นปิดบ้าน ปิดร้าน อพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย ทำให้บรรยากาศในตลาดสดที่ปกติมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายของจำนวนมาก วันนี้ลดลงถึง 80% โดยนายอำเภอปราสาท ให้ข้อมูลว่า […]

กต. ลั่นจะพูดคุยกัน เขมรต้องจริงใจก่อน ซัดพูดอย่างทำอย่าง แถมบิดเบือน

กระทรวงการต่างประเทศ 27 ก.ค.- กต. ขีดเส้นใต้ จะพูดคุยกันได้ “เขมร” ต้องจริงใจก่อน “นิกรเดช” ซัดพูดอย่างทำอย่าง นอกจากใช้พลเรือนเป็นโล่กำบังแล้ว ยังใช้โบราณสถานกำบังด้วย แถมบิดเบือน-สร้างข้อมูลเท็จ ผู้เชี่ยวชาญยังรู้เป็นภาพเก่า รับทราบพรุ่งนี้ “ภูมิธรรม” บินคุย “ฮุน มาเนต” หลัง “ทรัมป์” ต่อสายคุย เผย “มาริษ” ร่อนแล้ว เอกสารถึง UNICEF-OHCHR ยันกัมพูชาเริ่มก่อน นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ข้อเสนอหยุดยิงตามที่หลายท่านคงทราบอยู่แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ค.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้หารือกับนายโดนัล ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดยฝ่ายไทยได้ยืนยันอย่างหนักแน่นถึงจุดยืนของไทยในการแก้ไขปัญหาชายแดนกับกัมพูชาด้วยสันติวิธี โดยเฉพาะผ่านการเจรจาทวิภาคี ซึ่งฝ่ายไทยเราได้ย้ำมาโดยตลอดในทุกโอกาส ฝ่ายไทยจึงคาดหวังว่าจะเห็นความตั้งใจจริงจากกัมพูชา ในการยุติการใช้ความรุนแรง โดยเฉพาะเรื่องการโจมตีที่ไม่เลือกเป้าหมาย หากฝ่ายกัมพูชาแสดงความจริงใจและสุจริตใจในการแก้ไขปัญหา ฝ่ายไทยก็พร้อมจะหารือด้วย เพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการและกระบวนการที่ชัดเจนอย่างสันติและยั่งยืน นายนิกรเดช กล่าวต่อว่า การโจมตีเป้าหมายพลเรือนโดยกองกำลังกัมพูชาบนแผ่นดินไทยเหตุการณ์เมื่อคืน กัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีหลายจุดตามแนวชายแดนไทยอีกครั้ง […]

ทอ.ส่ง F-16 ทิ้งบอมบ์ หลังกัมพูชายิง BM-21 ตกฝั่งไทย

27 ก.ค. – กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 บอมบ์ถล่มพื้นที่เป้าหมาย หลังทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ใส่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งเป็นพื้นที่อธิปไตยของไทย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงเที่ยงที่ผ่านมา กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 หมู่ 4 ลำ ออกไปปฏิบัติภารกิจ บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ โดยภารกิจสำเร็จลุล่วง พร้อมกลับฐานปฏิบัติอย่างปลอดภัย เพื่อสนับสนุนกำลังทางบก ปกป้องอธิปไตยของไทย ด้าน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก โพสต์เฟซบุ๊ก เพจกองทัพบก ระบุข้อความว่า กัมพูชายังมีการเคลื่อนไหว ด้วยการใช้อาวุธ ยิงสนับสนุนระยะไกล ยิงเข้ามาในฝั่งไทย บริเวณหน้าแนวมีการปะทะในหลายจุดอย่างต่อเนื่อง พบมีอาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลไปตกนอกเขตพื้นที่เป้าหมายทางทหารจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายไทยเรามีความจำเป็นจะต้องใช้ปฏิบัติการทางทหาร ดำเนินการตอบโต้ต่ออาวุธยิงสนับสนุนระยะไกลอย่างเช่น จรวด และปืนใหญ่ ที่ยังคงยิงเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้พี่น้องได้รับผลกระทบ หรือมีการสูญเสีย และเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.68) เวลาประมาณ 15.30 น. […]