ตลท. 31 ก.ค. – แรงขายหุ้นขนาดใหญ่กดดันหุ้นไทยลดลง 4.98 จุด มูลค่าซื้อขายกว่า 57,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตลาดหลักทรัพย์ปิดการซื้อขายวันนี้ที่ระดับ 1,576.08 จุด ลดลง 4.98 จุด หรือ ร้อยละ 0.31 มูลค่าการซื้อขาย 57,299.81 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบเป็นหลัก ดัชนีสูงสุดของวันที่ระดับ 1,582.86 จุด และต่ำสุดที่ระดับ 1,569.79 จุด มีแรงขายช่วงบ่ายในหุ้นขนาดใหญ่ ขณะที่หุ้นต่างประเทศปิดตลาดทั้งแดนบวกและลบ
นายพจน์ หะริณสุต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด(บลจ.วรรณ) เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยได้รับแรงสนับสนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นและจากการที่อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป บวกกับการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทำให้ยังมีกระแสเงินทุนที่ไหลเข้าตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ ซึ่งยังมีแนวโน้มการไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนในดัชนี Emerging Market (MSCI EM) นับตั้งแต่ต้นปีปรับตัวขึ้นประมาณร้อยละ 23
ทั้งนี้ แม้ว่าภาพรวมดัชนีหุ้นไทยจะมีแนวโน้มดีขึ้นจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ระยะสั้นคาดว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวในกรอบ 1,560-1,600 จุด เนื่องจากดัชนีอาจจะถูกกดดันจากการปรับลดประมาณกำไรของบริษัทจดทะเบียน หลังการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/2560 ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงต้องติดตามสถานการณ์น้ำท่วมใน 15 จังหวัดสำคัญต่อภาคการเกษตรที่อาจส่งผลต่อการชะลอตัวของกำลังซื้อในประเทศ และเป็นปัจจัยกดดันต่อกลุ่มค้าปลีก ในส่วนปัจจัยต่างประเทศยังคงต้องติดตามสถานการณ์ความไม่สงบระหว่างประเทศหลังเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธใกล้บริเวณเขตเศรษฐกิจญี่ปุ่น
ด้านประเภทนักลงทุน สถาบัน ขายสุทธิ 3,526.50 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 2,354.47 ล้านบาท ต่างชาติ ขายสุทธิ 7,158.91 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศ ซื้อสุทธิ 8,330.95 ล้านบาท .- สำนักข่าวไทย