พาณิชย์เร่งผลักดันแผนขยายตลาดข้าวทั้งในและต่างประเทศ

เซ็นทรัลเวิลด์  28 ต.ค. – นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า มาตรการรักษาเสถียรภาพราคาข้าวปีการผลิต 2559/2560 ซึ่งจะออกสู่ตลาดมากในช่วงพฤศจิกายน – ธันวาคม 2559 โดยมีการดำเนินการทั้งมาตรการยกระดับราคาในประเทศและผลักดันการส่งออก ทั้งมาตรการระยะสั้น และมาตรการระยะยาว


สำหรับมาตรการระยะสั้น  ได้แก่ 1.โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้แก่ผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสตอก โดยจะชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการค้าข้าวที่กู้ยืมเงินจากธนาคารเพื่อรับซื้อข้าวเปลือกตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 ถึง 31 มีนาคม 2560 และเก็บสตอกข้าวระยะเวลา 2 – 6 เดือน อัตราร้อยละ 3 ต่อปี ซึ่งขณะนี้ได้อนุมัติการเข้าร่วมโครงการของผู้ประกอบการที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการแล้ว 345 ราย วงเงินสินเชื่อที่รับซื้อข้าวเปลือก 85,917.87 ล้านบาท เป้าหมายการเก็บสตอกประมาณ 8 ล้านตัน  2.โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะให้สินเชื่อเกษตรกร  สหกรณ์การเกษตร  กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน เพื่อชะลอการจำหน่ายข้าวเปลือกเก็บในยุ้งฉางตันละไม่ต่ำกว่า 10,000 บาท ณ ต้นข้าว 36 กรัมขึ้นไป และเกษตรกรจะได้รับค่าเตรียมข้าวเปลือกขึ้นยุ้งและค่าฝากเก็บเพิ่มจากเงินสินเชื่ออีกตันละ 1,500 บาท โดยจะจ่ายให้พร้อมสินเชื่อ 1,000 บาท และจ่ายเมื่อไถ่ถอนข้าวหรือระบายข้าวแล้วตันละ 500 บาท เป้าหมายการเก็บสตอกประมาณ 2 ล้านตัน

3.โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยสถาบันเกษตรกร ธ.ก.ส.จะให้สินเชื่อแก่สถาบันเกษตรกร เพื่อนำไปซื้อข้าวจากสมาชิกเพื่อจำหน่ายหรือแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ซึ่งสถาบันเกษตรกรจะรับภาระดอกเบี้ยร้อยละ 1 เป้าหมาย 2.5 ล้านตัน  4.โครงการจัดตลาดนัดข้าวเปลือก เพื่อให้กลไกตลาดการรับซื้อข้าวเปลือกของเกษตรกรมีการแข่งขัน  เกษตรกรมีช่องทางเลือกและมีอำนาจต่อรองการขายข้าวเปลือก พาณิชย์จังหวัดกำหนดแผนการจัดตลาดนัดในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากในพื้นที่แล้ว 42 จังหวัด 102 ครั้ง  ส่วนการช่วยเหลือโดยตรงแก่เกษตรกร รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือในช่วงก่อนการเพาะปลูก ได้แก่ มาตรการช่วยเหลือด้านปัจจัยการผลิต ไร่ละ 1,000 บาท ซึ่งเกษตรกรผลิตข้าว 1 ตัน ใช้พื้นที่เพาะปลูกประมาณ  2 ไร่เศษ ในส่วนนี้เกษตรกรจะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้กว่า  2,000 บาทต่อตัน ประกอบกับมาตรการขอความร่วมมือลดต้นทุนการผลิต ลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการเพาะปลูก รวมทั้งการพักชำระหนี้ให้เกษตรกร ดังนั้น  ปีการผลิต 2559/2560 อีกประมาณตันละ 1,000 บาท เกษตรกรจะได้รับรายได้เพิ่มจากการจำหน่ายผลผลิตข้าวเปลือกตามมาตรการดังกล่าวอีกไม่ต่ำกว่าตันละ 3,000 บาท


ส่วนมาตรการระยะยาว กระทรวงพาณิชย์จะหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาว อาทิ การบริหารจัดการข้าวทั้งระบบให้สอดคล้องเป็นไปตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร โดยมุ่งเน้นให้การตลาดนำการผลิตวางแผนการผลิตข้าวให้สอดคล้องกับปริมาณและลักษณะความต้องการของตลาด  1.การรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับตลาดคู่ค้าสำคัญและขยายโอกาสทางการค้าไปยังตลาดใหม่ในภูมิภาคต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมให้เข้มแข็งและสร้างกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ ทั้งในรูปแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล และเอกชนต่อเอกชน  2.การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาโดยมุ่งสนับสนุนเรื่องพื้นฐานในการดำรงชีวิต เช่น ค่าครองชีพ และค่าศึกษาเล่าเรียนบุตร เป็นต้น

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังมีแผนเสริมเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นการบริโภคและยกระดับราคาข้าว ดังนี้  1.    กระตุ้นการบริโภคข้าวภายในประเทศ โดยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ สร้างความรู้ความเข้าใจให้ผู้บริโภคได้รับรู้และเข้าใจถึงคุณค่าทางโภชนาการของข้าว คุณภาพแต่ละชนิดที่มีประโยชน์สูงและดีต่อสุขภาพ ข้าวอินทรีย์   ข้าว GI  ข้าวสี เป็นต้น รวมทั้งส่งเสริมตลาดข้าวในกลุ่มผู้บริโภคที่เน้นสุขภาพและแพ้สารกลูเตนในข้าวสาลี ดังนั้น โอกาสที่ผลิตภัณฑ์จากข้าวไทยที่ไม่มีสารกลูเตน (Gluten Free) จะไปทดแทนผลิตภัณฑ์จากข้าวสาลีจะมีมากขึ้น  2.สร้างค่านิยมการบริโภคข้าวเป็นอาหารหลัก ทั้งข้าวขาว ข้าวหอมมะลิไทย และข้าวเหนียว เพื่อลดการบริโภคอาหารต่างชาติ  3.จัดตลาดนัดข้าวสารและข้าวเปลือก เพื่อเป็นแหล่งศูนย์กลางให้คนไทยได้ซื้อข้าวเพื่อเก็บไว้บริโภคในครัวเรือนตามแหล่งชุมชนในย่านต่าง ๆ และผ่านช่องทางพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (online)  4.หารือกับสมาคมผู้ประกอบกิจการร้านอาหาร ภัตตาคาร และห้างสรรพสินค้า เพื่อให้เพิ่มปริมาณสำรองในการจัดซื้อข้าวไว้ใช้ในการดำเนินกิจการ  5.จัดกิจกรรม CSR ข้าวไทยร่วมใจช่วยชาวนา รณรงค์ให้ภาคเอกชนและประชาชน ซื้อข้าวเป็นของขวัญเพื่อ ส่งมอบให้กันในช่วงวันปีใหม่  6.การยกระดับราคาข้าวโดยการเร่งขยายตลาดในต่างประเทศ โดยกระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำแผน Roadshow เร่งรัดหาตลาดส่งออกข้าวใหม่ๆรวมทั้งพบปะกับลูกค้าเดิมเพื่อรักษาตลาด และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้น โดยจากนี้ไปกระทรวงมีแผน Road Show ที่จะบุกตลาดข้าวทั้งในลักษณะ G2G  B2B และ B2C ดังนี้

นางอภิรดี  กล่าวว่า  ในระดับรัฐบาลต่อรัฐบาล (จีทูจี) มีแผนจะเดินทางไปมาเลเซียวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2559 อินโดนีเซีย 3-4 พฤศจิกายน  2559 และฟิลิปปินส์ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2559  และเดินทางไปจีน อิหร่าน  อิรัก และแอฟริกา เดือนธันวาคม 2559 และกุมภาพันธ์ –เมษายน 2560 ซึ่งที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์ผลักดันเรื่องการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับรัฐบาลและตลาดต่างประเทศที่เสียไปให้หันกลับมาซื้อข้าวไทย โดยรัฐบาลดำเนินการส่งมอบข้าวภายใต้สัญญาจีทูจีและสามารถทำสัญญาเพิ่มกับรัฐบาลต่างประเทศอีกกว่า  2,555,000 ตัน แบ่งเป็นสัญญากับ COFCO สาธารณรัฐประชาชนจีน ปริมาณ 1 ล้านตัน NFA สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ ปริมาณ 900,000 ตัน BULOG สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ปริมาณ 655,000 ตัน ทำให้สามารถหาตลาดรองรับทั้งสตอกข้าวเก่าและข้าวฤดูกาลผลิตใหม่ที่ออกสู่ตลาดได้ในปริมาณมาก


ระดับเอกชน (B2B) จะมีคณะผู้แทนการค้าจากจีน ฮ่องกง อาเซียน สหรัฐ คานาดา และยุโรป เดินทางมาเจรจาการค้าที่ประเทศไทยระหว่างวันที่ 13-16 พฤศจิกายนนี้ นอกจากนี้ ยังมีแผนรุกตลาดเพิ่ม คือ     คณะผู้แทนการค้าเดินทางไปขายข้าวที่จีนและฮ่องกงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนมกราคม 2560 และช่วงเดือน กรกฎาคม 2560 แผนจัดคณะไปยุโรป  ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา  แคนาดาช่วงเดือนกุมภาพันธ์  มีนาคม มิถุนายน/กรกฏาคม 60 แผนไปญี่ปุ่นช่วง 7-10 มีนาคม 60  และไปย้ำตลาดอาเซียน คือ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และ เวียดนามในช่วงกลางปีหน้า โดยจะนำมาหารือกับภาคเอกชนเร็ว ๆ นี้

ระดับผู้บริโภค (B2C) ในต่างประเทศจะร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศจัดกิจกรรมร่วมกับ Thai Select รายภูมิภาค เพื่อรณรงค์บริโภคข้าวไทยไร้ Gluten โดยจะทำพร้อมกันเป็นรายภูมิภาค ส่วนจะเป็นเดือนไหนขณะนี้ได้สั่งการสำนักงานในต่างประเทศให้จัดทำแผนเข้ามาแล้ว นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะร่วมมือกับห้าง Tesco ในประเทศอังกฤษ จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย โดยเน้น Theme ข้าวไทย ซึ่งกำลังเจรจากับบริษัทแม่ในอังกฤษ เพื่อจะจัดใน TESCO ประเทศอื่นพร้อมกัน ซึ่งปัจจุบัน TESCO มีการลงทุนใน 12 ประเทศทั่วโลก และมีสาขากว่า 6,900 สาขา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย

ไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลก ย้ำขอใช้กรอบ JBC

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-รัฐบาลออกแถลงการณ์กรณีไทย-กัมพูชา ยืนยันประเทศไทยไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบันแล้ว ย้ำขอใช้กรอบ JBC ในทุกระดับแก้ปัญหาระหว่างกัน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแหตุการณ์ที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมานั้น เวลา 16.30 น. รัฐบาลได้ออกแถลงการณ์กรณีดังกล่าว เป็นฉบับที่ 2 ดังนี้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ปะทะที่บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2568 ทั้งสองฝ่ายได้หารือและตกลงกันที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Border Commission: JBC) คณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (General Border Committee: GBC) และคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (Regional Border Committee: RBC) บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นผลมาจากการหารือระหว่างผู้บัญชาการทหารบกของทั้งสองฝ่าย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม […]