กรมธนารักษ์ 16 ก.ค. – กรมธนารักษ์เตรียมนำร่องบ้านประชารัฐ รองรับกลุ่มลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย พร้อมเคลียร์ปัญหาก่อนประกาศเดินหน้าโครงการบ้านผู้สูงอายุ
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า จากนโยบายรัฐบาลต้องการนำที่ราชพัสดุพัฒนารองรับความต้องการของผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะกลุ่มผู้ลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐ จึงหารือร่วมกับการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เพื่อร่วมดำเนินการแบบประชารัฐนำที่ราชพัสดุมาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ราคา 450,000 บาทต่อยูนิต ผ่อนชำระ 2,000 บาทต่อเดือน และหากใครมีสิทธิ์เช่าการเคหะฯ สามารถนำค่าเช่าที่ผ่านมาใช้เป็นเงินดาวน์ได้อีกทางหนึ่ง ระยะเวลา 30 ปีต่อสัญญาได้อีก 30 ปี เตรียมนำร่องภาคละ 1 โครงการ เช่น ภาคเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าประกาศโครงการได้ในเร็ว ๆ นี้
สำหรับโครงการบ้านผู้สูงอายุ (Senior Complex) จากปัญหาที่ผ่านมามีการร้องเรียนนำพื้นที่มาพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยหลายแห่ง ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาการร้องเรียน จึงต้องการศึกษาพื้นที่และเคลียร์ปัญหาให้ได้ข้อสรุปชัดเจนก่อน จึงเริ่มประกาศโครงการ ดังนั้น ทุกพื้นที่ของที่ราชพัสดุจึงขอเครียร์ปัญหาให้ชัดเจน ยอมรับว่าอาจล่าช้าไปบ้าง แต่เมื่อสรุปแนวทางแก้ปัญหาได้แล้ว จึงนำมาประกาศเริ่มโครงการในช่วงต่อไป ส่วนการร่วมมือกับโรงพยาบาลรามาฯ ใช้พื้นที่จังหวัดสมุทราปราการ ยังเดินหน้าเหมือนเดิม เพราะไม่มีปัญหาขัดแย้ง นอกจากนี้ ยังมีแนวทางให้โรงพยาบาลหรือศูนย์พยาบาลตั้งอยู่ในโครงการบ้านผู้สูงอายุทุกแห่ง เพื่อมีหมอพยาบาลสำหรับดูแลผู้สูงอายุ
นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เพื่อดูแลผู้สูงอายุและผู้มีรายได้น้อยให้มีที่อยู่อาศัยอย่างทั่วถึง จึงมอบหมายกรมธนารักษ์จัดหาที่ราชพัสดุมาพัฒนาร่วมกับหลายองค์กรในรูปแบบประชารัฐ เพื่อจัดสรรแบ่งประเภทที่ดิน นำมาพัฒนาทั้งเรื่องการท่องเที่ยว เชิงพาณิชย์ ที่อยู่อาศัย การพัฒนาเมืองบริเวณแนวรถไฟฟ้า เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย