กรุงเทพฯ 23 พ.ค. – กรมธนารักษ์ เร่งเครื่องหารายได้เพิ่ม นำร่องบริหารจัดการที่ราชพัสดุ ”นครนายกโมเดล“ ตั้งเป้าในปี 69 หารายได้เพิ่มร้อยละ 20 หลัง เม.ย. ทำรายได้ 11,000 ล้านบาท ทะลุเป้าหมายทั้งปี 68
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวในระหว่างร่วมงานวันสถาปนากรมธนารักษ์ ครบรอบ 92 ปี ว่า หลังจากประกาศยุทธศาสตร์การเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินของแผ่นดิน กรมธนารักษ์จึงเดินหน้าในทุกมิติ พัฒนาทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน โดยตั้งเป้าหมายภายในสิ้นปีงบประมาณ 2568 เตรียมนำแผนบริหารจัดการที่ราชพัสดุ ”นครนายกโมเดล“ กระจายออกไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ทำให้ในปี 2569 มุ่งหารายได้จากที่ราชพัสดุและทรัพย์สิน เพิ่มร้อยละ 20
สำหรับการบริหารจัดการที่ราชพัสดุ แบ่งออกเป็นมิติด้านเศรษฐกิจ หวังเพิ่มประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้มีผลตอบแทนจากทรัพย์สินเพิ่ม หวังมีมูลค่าเชิงพาณิชย์ (ROA) เพิ่มร้อยละ 20 หลังจากได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ในช่วงที่ผ่านมา นับว่ากรมธนารักษ์ได้จัดเก็บรายได้ครบตามเป้าหมาย 11,000 ล้านบาทไปแล้วตั้งแต่เดือนเมษายน 68 ช่วงที่เหลือจึงเกินเป้าหมาย นับว่าเป็นการเพิ่มศักยภาพในการหารายได้ประสบความสำเร็จ ด้วยการทบทวนสัญญาเดิม ตั้งอยู่ในทำเลทองย่านธุรกิจ หรือสัญญาอื่นๆ ที่สามารถเพิ่มศักยภาพได้
สำหรับมิติทางสังคม ยังเดินหน้านำที่ราชพัสดุมาจัดสรรให้กับประชาชนได้ทำมาหากิน ช่วยให้มีสิทธิทำกินอย่างถูกต้องผ่าน ”โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์“ และต่อยอดเป็น ”โครงการธนารักษ์เอื้อราษฎร์อย่างยั่งยืน“ ด้วยการเข้าไปดูแลพร้อมความอยู่อาศัย เพื่อช่วยติดต่อพัฒนาทั้งเส้นทางคมนาคม ไฟฟ้า ประปา การประกอบอาชีพ ช่วยให้ชาวบ้านอย่างครอบคลุม
สำหรับด้านสาธารณสุข เนื่องจากการดูแลสังคมผู้สูงอายุ มีค่าใช้จ่ายแพง เดินหน้าโครงการดูแลผู้สูงอายุ มีต้นแบบ ที่ จ.เชียงราย เพื่อนำที่อยู่อาศัยมาใช้ในเชิงสาธารณสุขมากขึ้น พร้อมฟื้นโครงการที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามาฯ-ธนารักษ์ (Senior Complex) พัฒนาที่ดินราชพัสดุ ต.บางปลา อ.บางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังมีปัญหาการก่อสร้างสะดุดไม่เป็นไปตามแผน ด้านสิ่งแวดล้อม พร้อมนำพื้นที่สำคัญ เช่น อ่างเก็บน้ำ ที่ว่างเปล่า นำมาติดตั้ง โซล่าฟาร์ม เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าแสงอาทิตย์ พลังงานสะอาด เป็นที่ต้องการของภาคส่วนต่างๆ.-515- สำนักข่าวไทย