กรุงเทพฯ 11 มิ.ย. – กรมธนารักษ์ จับมือกับ ธ.กรุงไทย ธอส. ยกระดับประเมินราคาทรัพย์สิน หวังลดช่องว่าง ราคาประเมินกับหลักประกันเงินกู้
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เป็นสักขีพยาน พิธีลงนามความร่วมมือว่าด้วยการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านประเมินราคาทรัพย์สินระหว่าง นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดย นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ และธนาคารอาคารสงเคราะห์ โดย นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ เพื่อความร่วมมือในการยกระดับมาตรฐานการบริหารจัดการภาครัฐในการประเมินราคาที่ดินให้มีความแม่นยำ โปร่งใส และช่วยลดขั้นตอนในการสืบค้นราคาประเมิน เมื่อได้ข้อมูลการประเมินราคาสินทรัพย์ทั้งที่ดิน คอนโดมิเนียม เพื่อให้ข้อมมูลสะท้อนความจริงในตลาดมากขึ้น
ในภาคธนาคารจะมีฐานข้อมูลช่วยเพิ่มความเร็วให้การพิจารณาสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัย และภายใต้บันทึกข้อตกลงนี้ กรมธนารักษ์จะมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลให้ทั้งสองหน่วยนำไปใช้เป็นข้อมูลประกอบในการประเมินราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ยื่นขอสินเชื่อ ดังนี้
- บัญชีราคาประเมินทรัพย์สิน ประกอบด้วย บัญชีราคาประเมินที่ดิน บัญชีราคาประเมินห้องชุด และบัญชีราคาประเมินสิ่งปลูกสร้าง
- ข้อมูลหน่วยที่ดิน ประกอบด้วยชื่อหน่วยที่ดินความลึกมาตรฐาน (เมตร) และราคาประเมินที่ดินรายหน่วยที่ดิน (บาทต่อตารางวา)
ในส่วนของ บมจ.ธนาคารกรุงไทย และธนาคารอาคารสงเคราะห์จะแลกเปลี่ยนข้อมูลให้กรมธนารักษ์นำไปใช้เป็นข้อมูลในการสอบทานข้อมูลราคาซื้อขายจดทะเบียนเพื่อใช้ในการกำหนดราคาประเมินที่ดินรายหน่วยที่ดิน ดังนี้
1.ข้อมูลราคาประเมินสินเชื่อของอสังหาริมทรัพย์ที่นำมาใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน ประกอบด้วย ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และห้องชุด - ข้อมูลราคาตลาดแปลงที่นำมาใช้ประกอบการประเมินราคาหลักทรัพย์ ประกอบด้วย ที่ดิน และห้องชุด
นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมธนารักษ์ได้ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ “เพิ่มมูลค่าและคุณค่าทรัพย์สินของแผ่นดิน ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรม เดินหน้าประเทศไทยสู่ความยั่งยืน”ผ่านกลยุทธ์ VALUE เสาที่ 4 ของกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนนี้คือ การประเมินราคาทรัพย์สิน (A :Appraise) เป็นการเพิ่มความแม่นยําในการประเมินราคาที่ดิน การที่กรมธนารักษ์ได้รับความร่วมมือจาก 2 ธนาคารใหญ่ ได้แก่ ธ.กรุงไทย และ ธอส. เข้ามาช่วยเติมเต็มข้อมูลนั้น จะช่วยให้ราคาประเมินของกรมธนารักษ์เกิดความแม่นยำยิ่งขึ้น และยังเป็นการยกระดับบัญชีราคาประเมินทรัพย์สินของกรมธนารักษ์ให้มีความสอดคล้องเชิงพื้นที่ และเหมาะสมตามสภาวะเศรษฐกิจมากขึ้นอีกด้วย

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อหลายภาคส่วน ทั้งการตรวจสอบทรัพย์สิน คุณภาพลูกหนี้ ด้วยต้นทุนที่ลดลง ช่วยลดความเสี่ยง และสามารถช่วยให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ทำให้ช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึง ด้วยข้อมูลกลางที่ได้มาตรฐาน ปัจจุบัน ธ.กรุงไทยประเมิน 5 ล้านแปลง เพื่อจัดทำฐานข้อมูลกลางและพัฒนากลไกดิจิทัลอ้างอิงราคาประเมินทรัพย์สินให้เป็นมาตรฐานเดียว
นายวิทยา แสนภักดี รองกรรมการผู้จัดการ กลุ่มงานปรับโครงสร้างหนี้ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ กล่าวว่า นับเป็นก้าวสำคัญที่หน่วยงานภาครัฐสามารถใช้ประโยชน์ของข้อมูลด้านประเมินราคาทรัพย์สิน ตลอดจนการแลกเปลี่ยน เชื่อมโยง และบูรณาการข้อมูลร่วมกัน นำไปสู่การให้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคาร ที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และทำให้การประเมินราคาทรัพย์สินเป็นไปอย่างแม่นยำ ที่ถือเป็นกระบวนการสำคัญของการให้บริการสินเชื่อของ ธอส. ตามเป้าหมายได้อย่างยั่งยืนในการ “ทำให้คนไทยมีบ้าน”. -515- สำนักข่าวไทย