กรุงเทพฯ 14 ก.ค.- จับ 2 ผัวเมียเร่ขายกุญแจตามร้านอาหารแต่ไม่ใครซื้อ สุดท้ายพบบ่อปลาคราฟหน้าบ้านตัดสินใจใช้สวิงช้อนปลาไปกว่า 20 ตัวไปทำอาหารประทังชีวิต ยอมรับทั้งน้ำตาก่อเหตุเพราะความหิว เจ้าของปลาเกิดความสงสารไม่เอาความ แต่ทางกฏหมายต้องถูกดำเนินคดีฐานลักทรัพย์
จากกรณีคลิปภาพกล้องวงจรปิดจับภาพ หัวขโมย 3 คน กำลัง ขโมยปลาออกจากบ่อเลี้ยงบริเวณ หน้าสำนักงานประกันภัยแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว และแชร์ภาพผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อตามหาเบาะแสแก๊งขโมยปลากลุ่มนี้ โดยกล้องวงจรปิดจับภาพผู้หญิงคนหนึ่ง ทำทีเดินเข้ามานั่งที่ข้างบ่อเลี้ยงปลาคราฟ จากนั้นได้ใช้ถุงพลาสติกที่เตรียมมาตักปลาที่อยู่ในบ่อ ผ่านไป 10 นาที มีผู้ชายอีก 2 คนเดินเข้า มาช่วยตักปลา โดยคนหนึ่งทำหน้าที่ ใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์คอยส่องปลาที่อยู่ในบ่อส่วนอีก 2 คนก็ช่วยกันจับปลา ทั้งใช้ถุงและที่โกยขยะมาต้อนปลา เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง ซอยลาดพร้าว 101 กรุงเทพ ซึ่งเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้นเปิดเป็นสำนักงานนายหน้าประกันวินาศภัย
ซึ่งเรื่องดังกล่าวถูกเปิดเผยโดยเจ้าของ เฟซบุ๊กชื่อ Rawadee Apple นำมาโพสต์คลิปพร้อมระบุข้อความว่าปลาบ่อนี้เลี้ยงมา 10 ปี มีคุณค่าทางจิตใจรบกวนแชร์หากมีใครรู้จักหัวขโมย 3 คนนี้ เพราะโจรได้ขโมยปลาคราฟและ ปลาทับทิมตัวใหญ่ รวมๆในบ่อรวมกว่า 20 กว่าตัว ซึ่งเป็นของ น.ส ประภาพร จิตต์ชื่นอายุ36 ปี ผู้เสียหาย ในพื้นที่ สน ลาดพร้าว
นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้ง3 ได้ไปที่ร้าน โปรมีเดีย เลขที่37 ซอย สุคนธสวัสดิ์ 24 แขวง -เขต ลาดพร้าว เมื่อวันที่ 21มิ.ย ได้ปลาคราฟไป 4ตัว ในพื้นที่ สน.โชคชัยอีกด้วย
ล่าสุดตำรวจสามารถจับกุม 2 ผัวเมียที่ร่วมกันก่อเหตุได้คือนาย เหมันต์ สุดเฉลียว อายุ26 ปี และน.ส ศรีสมร ลาภเหลือ อายุ34ปี ส่วนนาย แจ๊ค อายุประมาณ30ปี อยู่ระหว่างหลบหนี
พล.ต. ท. ศานิตย์ มหถามร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมมีอาชีพ เร่ขายพวงกุญแจตามร้านหมูกระทะ โดยวันเกิดเหตุ ได้เดินเร่ขายพวงกุญ ระหว่างนั้นเกิดหิวขึ้นมา เห็นบ่อปลาคราฟ์ที่เลี้ยงไว้ จึงเอาสวิงที่วางอยู่ แถวนั้น ช้อนปลาขึ้นมาใส่ถุงที่เตรียมมานำกลับบ้าน โดยผู้ต้องหาอ้างว่าเอาปลาไปปิ้ง ทอดกิน ส่วนที่เหลือ นำไปแช่เย็นไว้กินวันอื่น
ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนรับสารภาพ ว่าบ้านตนเองอยู่ชุมชนลาดพร้าว มีอาชีพเร่ขาย พวงกุญแจ ตามร้านหมูกระทะ ก่อนเกิดเหตุวันที่21 มิ.ย ได้นั่งรถเมล์มาเพื่อที่จะเร่ขายพวงกุญแจ โดยวันนั้นเดินอยู่นานไม่สามารถขายของได้เลยประกอบกับฝนตก และหิวมาก ก่อนจะเดินมาเรื่อยๆและเห็นบ่อปลาคราฟ จึงคิดว่าน่าจะเอาไปประทังความหิวได้ จึงใช้สวิงช้อนปลาและนำใส่ถุงกลับบ้าน เอาไปปิ้งกินเพื่อประทังชีวิต ส่วนที่เหลือเก็บใส่ตู้เย็นไว้กินได้อีก 2 วันและออกมาเร่ขายพวงกุญแจอีกครั้งในวันที่ 24 มิ.ย และไม่สามารถที่จะขายพวงกุญแจได้อีก ก่อนจะไปเจอบ่อปลาคราฟ จึงใช้ที่ตัดขยะมาตักปลากลับบ้านนำไปปิ้ง กินกับข้าวเหนียว ก่อนเจ้าหน้าที่จะมาจับกุมตัว
โดยทั้งคู่กล่าวด้วยน้ำตาที่นองหน้าก่อนจะยกมือไหว้ผู้เสียหาย หลังผู้เสียหายทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 มีฐานะยากจน ที่ก่อเหตุเพราะต้องการปลาทำอาหารประทังชีวิต จึงเกิดความสงสาร ไม่ติดใจเอาความ แต่ในทางกฏหมายตำรวจคงต้องดำเนินคดีกับทั้งคู่ฐานลักทรัพย์.-สำนักข่าวไทย