หลายค่ายสนใจผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทย

สมุทรปราการ 7 ก.ค. – กระทรวงอุตสาหกรรมย้ำผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายยืนยันลงทุนผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในไทย ล่าสุดเปิดศูนย์เรียนรู้ฯ บางปู เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการสู่ยานยนต์อนาคต


นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าที่สถาบันยานยนต์ สำนักงานบางปู จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมความรู้ด้านยานยนต์ไฟฟ้าแก่ผู้ประกอบการภาครัฐและประชาชนทั่วไป อีกทั้งสนับสนุนด้านนวัตกรรมให้แก่ภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งจะเป็นรากฐานต่อยอดให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ส่วนนโยบายต่อยอดอุตสาหกรรมยานยนต์ตามประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลนั้น ในส่วนของภาคอุตสาหกรรมที่ต่อยอดมาสู่อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว และได้รับการตอบรับจากค่ายรถยนต์หลายค่ายที่จะมาลงทุนผลิต 

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้มีรถยนต์หลายค่ายให้ความสนใจที่จะลงทุนผลิตรถยนต์ไฮบริดเพิ่มขึ้นกว่าเดิมและบางค่ายสนใจที่จะผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด นับเป็นการต่อยอดภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย โดยภาพรวมปีนี้ประเทศไทยจะมียอดผลิตรถยนต์รวมทั้งสิ้นกว่า 2 ล้านคัน ส่วนใหญ่ส่งออกต่างประเทศ สำหรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยนั้น ล่าสุดยอดจดทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบก พบว่ามีประมาณ 80,000 คัน ในจำนวนนี้ประมาณร้อยละ 90 เป็นจักรยานยนต์ไฟฟ้า ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วนประมาณร้อยละ 10 เท่านั้น


นายสมชาย กล่าวว่า ภาพรวมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกมียอดรวมประมาณ 2 ล้านคัน ส่วนใหญ่ใช้ในประเทศจีน มีสัดส่วนยังน้อยมาก คิดเป็นสัดส่วนเทียบกับรถยนต์ที่ใช้พลังงานจากฟอสซิลหรือน้ำมันแล้ว รถยนต์ไฟฟ้ามีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 1.5 เท่านั้น อย่างไรก็ตาม รถยนต์ไฟฟ้ามีความก้าวหน้าในนวัตกรรมอย่างรวดเร็วเห็นได้จากเดิมรถยนต์ไฟฟ้าสามารถวิ่งระยะทาง 80 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟฟ้าหนึ่งครั้ง และเพิ่มเป็น 200 กิโลเมตร และ 500 กิโลเมตร ล่าสุดปัจจุบันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง 

สำหรับศูนย์การเรียนรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ามีแผนดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2560 – 2563 สร้างความร่วมมือเพื่อพัฒนาและสร้างความรู้ด้านยานยนต์ไฟฟ้าให้แก่ผู้ประกอบการไทย โดยร่วมมือกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติวิจัยเรื่องการออกแบบและแพคแบตเตอรี่ไฟฟ้าต้นแบบสำหรับรถยนต์นั่ง ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีศึกษาเทคโนโลยีและชิ้นส่วนสำคัญในยานยนต์ไฟฟ้าร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยศึกษาเทคโนโลยีอุปกรณ์การประจุไฟฟ้าและความปลอดภัย 

ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านอุปทานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยนั้น คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดการส่งเสริมการลงทุนกิจการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอุปกรณ์ประจุไฟฟ้าและสถานีให้บริการประจุไฟฟ้า ทั้งนี้ การส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจะต้องเสนอโครงการเป็นแผนงานรวม ประกอบด้วย การประกอบรถยนต์ การผลิตชิ้นส่วนสำคัญ ได้แก่ มอเตอร์ แบตเตอรี่ ระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่และระบบควบคุมการขับขี่ นอกจากนี้ จะต้องมีแผนการจัดการแบตเตอรี่ที่ใช้งานแล้วและที่สำคัญ คือ ต้องมีแผนการพัฒนาผู้ผลิตวัตถุดิบหรือผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศเพื่อก่อให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีแก่ผู้ประกอบการในประเทศไทยด้วย


สำหรับด้านโครงสร้างพื้นฐานกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นหน่วยงานหลักที่ดำเนินโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติบนพื้นที่ 1,200 ไร่ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำคัญทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสามารถต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรมที่สร้างมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรมส่งเสริมให้ไทยเป็นประเทศเป้าหมายการลงทุนผลิตยานยนต์แห่งอนาคต โดยศูนย์ทดสอบยานยนต์แห่งนี้จะเปิดดำเนินการเฟสแรกภายในเดือนมีนาคม 2561 และในช่วงเวลาเดียวกันนี้สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้ดำเนินการด้านมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า โดยมาตรฐานที่ดำเนินการเสร็จ คือ มาตรฐานเต้ารับ-เต้าเสียบ (มอก. 2749) และอยู่ระหว่างจัดทำมาตรฐานอื่น ๆ ได้แก่ มาตรฐานระบบการประจุไฟฟ้า มาตรฐานความเข้ากันได้ของแม่เหล็กไฟฟ้าและมาตรฐานแบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า นอกจากนี้ กระทรวงพลังงานยังดำเนินการโครงการเพื่อส่งเสริมการติดตั้งอุปกรณ์ประจุไฟเพื่อเป็นการส่งเสริมด้านการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าอีกครั้งหนึ่งด้วย- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย