พม.5 ก.ค.-รมว.พม.ชื่นชมหญิงที่ประสบอุบัติเหตุจนพิการเสียขา 1 ข้าง แต่สู้ชีวิต ถีบกระดานเก็บหอยแครงขาย แบ่งเบาภาระครอบครัว ที่ จ.ชลบุรี พร้อมกำชับ เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสและประสบปัญหาทางสังคม ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และนนทบุรี
นายณรงค์ คงคำ โฆษกกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.) ครั้งที่ 665/2557-2560 พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) ได้กล่าวชื่นชม กรณีหญิงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนทำให้พิการเสียขา 1 ข้างแต่สู้ชีวิตประกอบอาชีพถีบกระดานเก็บหอยแครงขาย เพื่อหารายได้เลี้ยงดูตนเองและแบ่งเบาภาระของครอบครัว โดยอาศัยอยู่กับสามีและลูก ที่จังหวัดชลบุรี
‘ชื่นชมในความอดทนและขยันหมั่นเพียร ถึงแม้มีอุปสรรคทางร่างกายแต่ไม่ย่อท้อ ไม่นำมาเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต น่ายกย่องเป็นตัวอย่างที่ดีแก่สังคม พร้อมกำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี(พมจ.ชลบุรี) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและประเมินทางสังคมของครอบครัวเพื่อให้การช่วยเหลือเบื้องต้นตามภารกิจด้านคนพิการกระทรวง พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลเรื่องการรักษาพยาบาลของหญิงดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและการช่วยเหลือให้คำปรึกษาแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายและความเหมาะสม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีในระยะยาวต่อไป’ โฆษก พม.กล่าว
สำหรับกรณีชายวัย 48 ปี ป่วยพิการทางสมอง และเป็นโรคมะเร็ง
ที่หัวเข่า มีก้อนเนื้อบวมขนาดใหญ่ สร้างความเจ็บปวดทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก ซึ่งอาศัยอยู่เพียงลำพังในบ้านสภาพเก่าใกล้ผุพัง ไม่มีเงินค่ารักษาพยาบาล อาศัยข้าวจากเพื่อนบ้านกินประทังชีวิต และไม่มีบัตรประชาชน ที่อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกรณีหญิงสาววัย 21 ปี ป่วยพิการทางสมอง และกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาตั้งแต่กำเนิด ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ต้องให้อาหารทางสายยาง ร่างกายผอมซูบ มีน้ำหนักตัวเพียง 12 กิโลกรัม อาศัยอยู่กับผู้เป็นแม่ ครอบครัวมีฐานะยากจน ไม่มีเงินเพียงพอค่ารักษาพยาบาล ที่อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี นั้น รมว.พัฒนาสังคมฯ ได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.)ทั้ง2จังหวัด ได้แก่ พมจ.พระนครศรีอยุธยา และ พมจ.นนทบุรี พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สังกัดกระทรวงฯ เร่งลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง และประเมินทางสังคมของครอบครัวดังกล่าว เพื่อให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจด้านคนพิการของกระทรวงฯ
พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น รวมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ปรับปรุงสภาพที่อยู่อาศัยให้ถูกสุขลักษณะ มีความมั่นคงและปลอดภัยเหมาะสำหรับคนพิการ นอกจากนี้ให้คำแนะนำในเรื่องสวัสดิการสังคม เพื่อขอรับสิทธิตามกฎหมายและความเหมาะสม พร้อมทั้งร่วมกันหาแนวทางการช่วยเหลือในระยะยาวต่อไป .-สำนักข่าวไทย