อุบลราชธานี 29 มิ.ย.- คุ้มวัดในจังหวัดอุบลฯ เปิดให้นักเรียนนักศึกษาร่วมสืบสานวัฒนธรรมและทำนุบำรุงศาสนา ถ่ายทอดงานพุทธศิลป์สร้างสรรค์เทียนพรรษาเป็นพุทธบูชา หลังช่างทำต้นเทียนรุ่นเก่าอายุมากขึ้น
บรรยากาศการจัดทำต้นเทียนพรรษาประเภทติดพิมพ์ขนาดใหญ่ของวัดศรีประดู่ ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี อดีตแชมป์ต้นเทียนประเภทติดพิมพ์หลายสมัย ขณะนี้มีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 60 โดยมีนักเรียนนักศึกษาจากหลายสถาบัน และประชาชนที่สนใจงานด้านพุทธศิลป์เข้าร่วมตัดเนื้อเทียน เพื่อนำไปประดับตามแบบที่ช่างได้ขึ้นรูปไว้ให้ทันตามกำหนด ซึ่งต้องนำต้นเทียนที่จัดทำไปตั้งแสดงให้ชมรอบสวนสาธารณะทุ่งศรีเมืองในบ่ายวันที่ 8 กรกฎาคมนี้ และจะเคลื่อนขบวนเทียนไปรอบเมืองอีกครั้งของวันรุ่งขึ้น (9 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันเข้าพรรษา
สำหรับต้นเทียนพรรษาวัดศรีประดู่ปีนี้ ได้เล่าเรื่องทศชาติชาดกขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ก่อนจะเสด็จมาเป็นพระพุทธเจ้า ได้สร้างคุณงามความดีมาหลายภพชาติ โดยภพชาติที่สำคัญที่ถูกบันทึกไว้มี 10 ชาติ หรือ “ทศชาติชาดก” และกลางต้นเทียนได้ประดับภาพนูนต่ำพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อถวายความอาลัยต่อพระองค์ท่านที่เสด็จสวรรคตด้วย
น.ส.เนตรชนก จันทร์ดี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนนารีนุกูล จ.อุบลราชธานี ซึ่งเข้าร่วมแกะสลักต้นเทียน กล่าวว่า เดิมครูให้มาทำรายงานขั้นตอนการจัดทำต้นเทียนของชาวคุ้มวัด แต่เมื่อมาเห็นคุณลุงคุณป้ามาร่วมแรงร่วมใจช่วยกันทำ จึงทดลองทำด้วย ทำให้รู้ว่าการแกะสลักเทียนช่วยด้านการฝึกสมาธิ และได้ประโยชน์ในการรับสืบทอดมรกดการทำต้นเทียนจากคนอีกรุ่น เมื่อว่างจากการเรียน จึงชักชวนเพื่อนมาร่วมกันทำ
ด้านนายสมคิด สอนอาจ หัวหน้าช่างทำต้นเทียนของวัดแห่งนี้ กล่าวว่า การทำต้นเทียนพรรษาเป็นงานพุทธศิลป์ที่สืบทอดจากรุ่นต่อรุ่น ในอดีตการทำต้นเทียนจะทำอยู่แต่ในกลุ่มช่าง แต่ช่างรุ่นเก่าเริ่มมีน้อยลงเรื่อย ๆ จึงต้องการถ่ายทอดความรู้ที่มีอยู่ให้กับเด็กรุ่นใหม่รับสืบทอดเป็นมรดก เพื่อให้ช่วยกันรักษาศาสตร์ของการทำต้นเทียนไว้คู่กับจังหวัดและคู่กับประเทศไทยต่อไป.-สำนักข่าวไทย