“สมคิด” ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน

รร.แกรนด์ไฮแอทฯ 22 มิ.ย. – รองนายกรัฐมนตรีตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน ย้ำไม่ได้มอบรถไฟไทย-จีน ให้ต่างชาติ คาดส่งออกเติบโตได้เลข 2 หลัก หลังหลายปัจจัยฟื้นตัว เชิญนักลงทุนต่างชาติ ทั้งยุโรป สหรัฐ ขยายลงทุนในอีอีซี หลังจีน ญี่ปุ่น เกาหลี พร้อมเข้ามาลงทุน 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  ปาฐกถาพิเศษงานสัมมนาผู้ลงทุนในตลาดทุนระดับนานาชาติ “Thailand Big Strategic Move” เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ กองทุนต่างชาติ 20 กองทุนมาร่วมรับฟังนโนยบายจากรัฐบาล จึงต้องการย้ำว่าเมื่อเอเชียเริ่มส่องแสง Asia Rise แฝงมาในวิกฤติเศรษฐกิจโลก ไทยจึงเป็นหนึ่งในเอเชีย เป็นหัวใจแห่งเอเชีย และเมื่อจีนประกาศนโยบาย one belt one road ไทยจึงโดดเด่น เพราะอยู่บนเส้นทางเชื่อมระหว่าง one belt บนแผ่นดินใหญ่กับ maritime silk road ทางทะเล 

ทั้งนี้  เมื่อรัฐบาลมุ่งนำประเทศกลับคืนสู่ความสงบ การเมืองไปสู่การเลือกตั้งปีหน้าตามรัฐธรรมนูญและความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าปีนี้จีดีพีเติบโตร้อยละ 3.5 หรือสูงกว่าการส่งออกเติบโตเป็นเลข 2 หลัก เพราะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวและความเชื่อมั่นเริ่มดีขึ้น หนี้สาธารณะต่อจีดีพีไม่เกินร้อยละ 45 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิเฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนเฉลี่ยร้อยละ 7 ไตรมาส 1 ของปีนี้มีกำไรสุทธิรวมสูงถึง  300,000 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 21 จากปีที่ผ่านมา ขณะที่ขนาดตลาดรวมมีขนาดถึงร้อยละ 122 ของจีดีพี ท่ามกลางสถานการณ์โลกตึงเครียดทางการเมือง ไทยถือเป็นสวรรค์ของการลงทุน  save heaven ที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ ส่วนค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องอาจกระทบต่อการส่งออกนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลอย่างใกล้ชิดและคงใช้เงินทุนสำรองแทรกแซงมากเกินไปคงไม่ได้ เพราะอาจทำให้ขาดทุนจำนวนมาก จึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด 


นายสมคิด กล่าวย้ำต่อนักลงทุนว่าเมื่อไทยต้องการเป็นศูนย์กลางด้านต่าง ๆ จึงเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจ ทั้งการพึ่้งพา Export led growth สู่ balanced growth economy มาสู่การเติบโตอย่างสมดุล พึ่งพาปัจจัยภายนอก เช่น การส่งออก การลงทุนและการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และยังเน้นการสร้าง local economy ทั้งการผลิต การตลาด การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในภูมิภาค ด้วยการสร้างความเข้มแข็งในชนบท การสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ  ด้วยการพร้อมงบประมาณกระจายสู่กลุ่มจังหวัดและสู่ท้องถิ่นโดยตรง ผ่านความร่วมมือ 3 ฝ่ายระหว่างรัฐ เอกชน และชุมชน “ประชารัฐ” เพื่อสร้างสมดุลโดยไม่ต้องพึ่งพิงปัจจัยภายนอก 

การพัฒนาจาก low cost สู่ value based economy  การสร้างมูลค่าด้วยนวัตกรรมด้วยวิทยาการ ด้วยการค้นคว้าวิจัย และการคิดสร้างสรรค์ ผลักดันให้เกิด cluster การผลิตระหว่างรัฐ เอกชน ผู้ประกอบการสถาบันศึกษา และสถาบันวิจัย เพื่อเป็นบ่อเกิดแห่งนวัตกรรม ผ่านมาตรการการจูงใจทางภาษีให้ภาคเอกชนหันมาลงทุนใน R&D  ขณะนี้งบลงทุนใน R&D ของประเทศให้มีสัดส่วนร้อยละ 1 เป็นอย่างน้อยใน 2 ปีข้างหน้า ส่งเสริมการค้นคว้าวิจัยเป็นตัวนำการผลิต การพัฒนาแบบ jump start โครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของประเทศ หลังจากหยุดชะงักไปนานกว่า 20 ปี ทำให้ไทยอยู่ในระดับท้ายสุดในเอเชีย    ไทยกลับมาประกาศการลงทุนครั้งใหญ่ด้วยวงเงินลงทุนกว่า 2.4 ล้านล้านบาท ในโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ ทั้งการสร้างถนน ทางด่วน มอเตอร์เวย์ โครงการรถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง   

การสร้างและพัฒนาสนามบินท่าเรือและสถานีขนส่งสินค้า ครอบคลุมช่วงระยะ 5 ปีข้างหน้า ผ่านแหล่งเงินทุน 4 แหล่ง คือ งบประมาณ แหล่งเงินกู้ยืม การร่วมลงทุนกับเอกชนแบบ PPP fast track ผ่านการสร้างรถไฟฟ้า 5 เส้นทาง คือ เส้นสีเขียว น้ำเงิน ส้ม เหลือง และชมพู และภายในปีนี้เริ่มเปิดประมูลอีก 3 เส้นทาง คือ ม่วงใต้ ส้มตะวันตก และสีแดง และในช่วง 2 เดือนข้างหน้าจะสรุปผลการประมูลรถไฟทางคู่อีก 5 เส้นทาง และมอเตอร์เวย์อีก 2 เส้น เพื่อเริ่มลงทุนภายในปีนี้


สำหรับเส้นทางรถไฟไทย-จีน คาดว่าจะเริ่มช่วงเดือนกันยายน  โครงการ 180,000 ล้านบาท ส่วนดังกล่าว 140,000 ล้านบาท ไทยดำเนินการเอง และพัฒนารอบเส้นทางรถไฟฟ้า จึงไม่มีส่วนใดมอบให้กับจีนอย่างแน่นอน ที่ดินของไทยใครมาร่วมลงทุนได้ ไม่ใช่ยกให้กับจีน ตามหลักการของเจรจาแบบ G/G ในการกำหนดราคากลางต้องต่อรองระหว่างรัฐต่อรัฐ และแก้ไขเฉพาะจุด เพื่อต้องการขยายเส้นทางต่อไปยังหนองคาย และเชื่อมต่อไปยังมาเลเซีย

และก่อนสิ้นปีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง กรุงเทพฯ-หัวหิน และเส้นทางรถไฟฟ้า จังหวัดภูเก็ต ลงทุนแบบ PPP fast track เมื่อผ่านการพิจารณาจาก ครม. ทุกโครงการเริ่มต้นก่อนปลายปีหน้า นอกจากนี้ กระทรวงการคลังเตรียมการจำหน่ายหน่วยลงทุน Thailand future Fund  ล็อตแรกไตรมาส 3-4 ปีนี้ จำหน่ายให้ทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน เป็นทางเลือกในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อรักษาระดับหนี้สาธารณะต่อจีดีพีไม่ให้เกินร้อยละ 50 เพื่อประหยัดงบประมาณและขับเคลื่อนภายใน 5 ปี 

รัฐบาลยังมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต เช่น อาหารแห่งอนาคต อาศัยเกษตรเป็นพื้นฐาน ยานยนต์แห่งอนาคต และอิเล็กทรอนิกส์ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเป็นพื้นฐาน  ศูนย์กลางสุขภาพ ศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ศูนย์กลางการบินแห่งภูมิภาค ด้วยการจัดพื้นที่ 3 จังหวัดเบื้องต้น เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเฉพาะในอีอีซีกว่า 400,000 ล้านบาท นอกจากนักลงทุนจีน ญี่ปุ่น และตะวันตกมาลงทุนเพิ่มเติม

รัฐบาลเตรียมก้าวสู่ยุคดิจิทัล โดยจัดสรรงบประมาณ 25,000 ล้านบาท เพื่อติดตั้ง Internet broadband กว่า 24,000 หมู่บ้านในปีนี้  และอีก 20,000 หมู่บ้านในปีหน้า เพื่อส่งเสริมชนบท พัฒนาการศึกษา สาธารณสุข การค้าผ่านอี-คอมเมิร์ซจากชนบทสู่โลก การลงทุนวางระบบเคเบิ้ลใต้น้ำ กว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อให้ไทยยกระดับการเชื่อมต่อกับต่างประเทศ International gateway ของภูมิภาคในอนาคต วางระบบได้ในสิ้นปีหน้า ขณะนี้ญี่ปุ่นลงนามหลายฉบับระหว่างไทยกับเมติ เพื่อร่วมพัฒนาในอีอีซี เพื่อส่งผ่านกระบวนการผลิตไปสู่ดิจิทัล เพื่อเชื่อมต่อทั้งหมดผ่าน Big Data เพื่อประกาศสิ่งเหล่านี้ในประเทศไทย หากนักลงทุนยังล่าช้าจะตกขบวนได้คนไม่เปลี่ยนแปลงจะสูญพันธ์ 

นอกจากนี้ ยังเน้นการเชื่อมโยงกับกลุ่ม CLMV เพราะการร่วมมือกับเพื่อนบ้านเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งกลุ่มอนุภูมิภาคเติบโตจะทำให้ไทยได้รับความสนใจมากขึ้น ทั้งการสร้างพลังร่วมของการท่องเที่ยว การจัดทำพัฒนายุทธศาสตร์ร่วมกัน ไปสู่อนุภูมิภาคอื่นและการเชื่อมโยงไทยเข้ากับ one belt one road ของจีน  ด้วยการการเชื่อมอีอีซีผ่านเส้นทางรถไฟเข้ากับเส้นทางรถไฟไทยจีน เชื่อมจากจีนสู่เวียงจันทร์ผ่านไทยไปยังช่องแคบมะละกาของมาเลเซีย เพื่อเชื่อมโยง one belt และ maritime silkroad ตลอดจนการร่วมผลักดันเขตการค้าเสรีใหม่ ทั้งกลุ่ม RCEP ซึ่งไทยมีข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับกลุ่มประเทศเหล่านี้ ขณะที่กลุ่มประเทศ TPP ญี่ปุ่นขอเป็นแกนนำแทนสหรัฐ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กทม. 13 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม […]

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]