“สมคิด” ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน

รร.แกรนด์ไฮแอทฯ 22 มิ.ย. – รองนายกรัฐมนตรีตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน ย้ำไม่ได้มอบรถไฟไทย-จีน ให้ต่างชาติ คาดส่งออกเติบโตได้เลข 2 หลัก หลังหลายปัจจัยฟื้นตัว เชิญนักลงทุนต่างชาติ ทั้งยุโรป สหรัฐ ขยายลงทุนในอีอีซี หลังจีน ญี่ปุ่น เกาหลี พร้อมเข้ามาลงทุน 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี  ปาฐกถาพิเศษงานสัมมนาผู้ลงทุนในตลาดทุนระดับนานาชาติ “Thailand Big Strategic Move” เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ กองทุนต่างชาติ 20 กองทุนมาร่วมรับฟังนโนยบายจากรัฐบาล จึงต้องการย้ำว่าเมื่อเอเชียเริ่มส่องแสง Asia Rise แฝงมาในวิกฤติเศรษฐกิจโลก ไทยจึงเป็นหนึ่งในเอเชีย เป็นหัวใจแห่งเอเชีย และเมื่อจีนประกาศนโยบาย one belt one road ไทยจึงโดดเด่น เพราะอยู่บนเส้นทางเชื่อมระหว่าง one belt บนแผ่นดินใหญ่กับ maritime silk road ทางทะเล 

ทั้งนี้  เมื่อรัฐบาลมุ่งนำประเทศกลับคืนสู่ความสงบ การเมืองไปสู่การเลือกตั้งปีหน้าตามรัฐธรรมนูญและความมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดว่าปีนี้จีดีพีเติบโตร้อยละ 3.5 หรือสูงกว่าการส่งออกเติบโตเป็นเลข 2 หลัก เพราะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวและความเชื่อมั่นเริ่มดีขึ้น หนี้สาธารณะต่อจีดีพีไม่เกินร้อยละ 45 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิเฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนเฉลี่ยร้อยละ 7 ไตรมาส 1 ของปีนี้มีกำไรสุทธิรวมสูงถึง  300,000 ล้านบาท หรือเติบโตร้อยละ 21 จากปีที่ผ่านมา ขณะที่ขนาดตลาดรวมมีขนาดถึงร้อยละ 122 ของจีดีพี ท่ามกลางสถานการณ์โลกตึงเครียดทางการเมือง ไทยถือเป็นสวรรค์ของการลงทุน  save heaven ที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจ ส่วนค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องอาจกระทบต่อการส่งออกนั้น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ดูแลอย่างใกล้ชิดและคงใช้เงินทุนสำรองแทรกแซงมากเกินไปคงไม่ได้ เพราะอาจทำให้ขาดทุนจำนวนมาก จึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด 


นายสมคิด กล่าวย้ำต่อนักลงทุนว่าเมื่อไทยต้องการเป็นศูนย์กลางด้านต่าง ๆ จึงเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจ ทั้งการพึ่้งพา Export led growth สู่ balanced growth economy มาสู่การเติบโตอย่างสมดุล พึ่งพาปัจจัยภายนอก เช่น การส่งออก การลงทุนและการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ และยังเน้นการสร้าง local economy ทั้งการผลิต การตลาด การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยวในภูมิภาค ด้วยการสร้างความเข้มแข็งในชนบท การสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ  ด้วยการพร้อมงบประมาณกระจายสู่กลุ่มจังหวัดและสู่ท้องถิ่นโดยตรง ผ่านความร่วมมือ 3 ฝ่ายระหว่างรัฐ เอกชน และชุมชน “ประชารัฐ” เพื่อสร้างสมดุลโดยไม่ต้องพึ่งพิงปัจจัยภายนอก 

การพัฒนาจาก low cost สู่ value based economy  การสร้างมูลค่าด้วยนวัตกรรมด้วยวิทยาการ ด้วยการค้นคว้าวิจัย และการคิดสร้างสรรค์ ผลักดันให้เกิด cluster การผลิตระหว่างรัฐ เอกชน ผู้ประกอบการสถาบันศึกษา และสถาบันวิจัย เพื่อเป็นบ่อเกิดแห่งนวัตกรรม ผ่านมาตรการการจูงใจทางภาษีให้ภาคเอกชนหันมาลงทุนใน R&D  ขณะนี้งบลงทุนใน R&D ของประเทศให้มีสัดส่วนร้อยละ 1 เป็นอย่างน้อยใน 2 ปีข้างหน้า ส่งเสริมการค้นคว้าวิจัยเป็นตัวนำการผลิต การพัฒนาแบบ jump start โครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งของประเทศ หลังจากหยุดชะงักไปนานกว่า 20 ปี ทำให้ไทยอยู่ในระดับท้ายสุดในเอเชีย    ไทยกลับมาประกาศการลงทุนครั้งใหญ่ด้วยวงเงินลงทุนกว่า 2.4 ล้านล้านบาท ในโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ ทั้งการสร้างถนน ทางด่วน มอเตอร์เวย์ โครงการรถไฟฟ้า รถไฟรางคู่ รถไฟความเร็วสูง   

การสร้างและพัฒนาสนามบินท่าเรือและสถานีขนส่งสินค้า ครอบคลุมช่วงระยะ 5 ปีข้างหน้า ผ่านแหล่งเงินทุน 4 แหล่ง คือ งบประมาณ แหล่งเงินกู้ยืม การร่วมลงทุนกับเอกชนแบบ PPP fast track ผ่านการสร้างรถไฟฟ้า 5 เส้นทาง คือ เส้นสีเขียว น้ำเงิน ส้ม เหลือง และชมพู และภายในปีนี้เริ่มเปิดประมูลอีก 3 เส้นทาง คือ ม่วงใต้ ส้มตะวันตก และสีแดง และในช่วง 2 เดือนข้างหน้าจะสรุปผลการประมูลรถไฟทางคู่อีก 5 เส้นทาง และมอเตอร์เวย์อีก 2 เส้น เพื่อเริ่มลงทุนภายในปีนี้


สำหรับเส้นทางรถไฟไทย-จีน คาดว่าจะเริ่มช่วงเดือนกันยายน  โครงการ 180,000 ล้านบาท ส่วนดังกล่าว 140,000 ล้านบาท ไทยดำเนินการเอง และพัฒนารอบเส้นทางรถไฟฟ้า จึงไม่มีส่วนใดมอบให้กับจีนอย่างแน่นอน ที่ดินของไทยใครมาร่วมลงทุนได้ ไม่ใช่ยกให้กับจีน ตามหลักการของเจรจาแบบ G/G ในการกำหนดราคากลางต้องต่อรองระหว่างรัฐต่อรัฐ และแก้ไขเฉพาะจุด เพื่อต้องการขยายเส้นทางต่อไปยังหนองคาย และเชื่อมต่อไปยังมาเลเซีย

และก่อนสิ้นปีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง กรุงเทพฯ-หัวหิน และเส้นทางรถไฟฟ้า จังหวัดภูเก็ต ลงทุนแบบ PPP fast track เมื่อผ่านการพิจารณาจาก ครม. ทุกโครงการเริ่มต้นก่อนปลายปีหน้า นอกจากนี้ กระทรวงการคลังเตรียมการจำหน่ายหน่วยลงทุน Thailand future Fund  ล็อตแรกไตรมาส 3-4 ปีนี้ จำหน่ายให้ทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน เป็นทางเลือกในการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ เพื่อรักษาระดับหนี้สาธารณะต่อจีดีพีไม่ให้เกินร้อยละ 50 เพื่อประหยัดงบประมาณและขับเคลื่อนภายใน 5 ปี 

รัฐบาลยังมุ่งส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต เช่น อาหารแห่งอนาคต อาศัยเกษตรเป็นพื้นฐาน ยานยนต์แห่งอนาคต และอิเล็กทรอนิกส์ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเป็นพื้นฐาน  ศูนย์กลางสุขภาพ ศูนย์กลางอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ศูนย์กลางการบินแห่งภูมิภาค ด้วยการจัดพื้นที่ 3 จังหวัดเบื้องต้น เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเฉพาะในอีอีซีกว่า 400,000 ล้านบาท นอกจากนักลงทุนจีน ญี่ปุ่น และตะวันตกมาลงทุนเพิ่มเติม

รัฐบาลเตรียมก้าวสู่ยุคดิจิทัล โดยจัดสรรงบประมาณ 25,000 ล้านบาท เพื่อติดตั้ง Internet broadband กว่า 24,000 หมู่บ้านในปีนี้  และอีก 20,000 หมู่บ้านในปีหน้า เพื่อส่งเสริมชนบท พัฒนาการศึกษา สาธารณสุข การค้าผ่านอี-คอมเมิร์ซจากชนบทสู่โลก การลงทุนวางระบบเคเบิ้ลใต้น้ำ กว่า 5,000 ล้านบาท เพื่อให้ไทยยกระดับการเชื่อมต่อกับต่างประเทศ International gateway ของภูมิภาคในอนาคต วางระบบได้ในสิ้นปีหน้า ขณะนี้ญี่ปุ่นลงนามหลายฉบับระหว่างไทยกับเมติ เพื่อร่วมพัฒนาในอีอีซี เพื่อส่งผ่านกระบวนการผลิตไปสู่ดิจิทัล เพื่อเชื่อมต่อทั้งหมดผ่าน Big Data เพื่อประกาศสิ่งเหล่านี้ในประเทศไทย หากนักลงทุนยังล่าช้าจะตกขบวนได้คนไม่เปลี่ยนแปลงจะสูญพันธ์ 

นอกจากนี้ ยังเน้นการเชื่อมโยงกับกลุ่ม CLMV เพราะการร่วมมือกับเพื่อนบ้านเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งกลุ่มอนุภูมิภาคเติบโตจะทำให้ไทยได้รับความสนใจมากขึ้น ทั้งการสร้างพลังร่วมของการท่องเที่ยว การจัดทำพัฒนายุทธศาสตร์ร่วมกัน ไปสู่อนุภูมิภาคอื่นและการเชื่อมโยงไทยเข้ากับ one belt one road ของจีน  ด้วยการการเชื่อมอีอีซีผ่านเส้นทางรถไฟเข้ากับเส้นทางรถไฟไทยจีน เชื่อมจากจีนสู่เวียงจันทร์ผ่านไทยไปยังช่องแคบมะละกาของมาเลเซีย เพื่อเชื่อมโยง one belt และ maritime silkroad ตลอดจนการร่วมผลักดันเขตการค้าเสรีใหม่ ทั้งกลุ่ม RCEP ซึ่งไทยมีข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับกลุ่มประเทศเหล่านี้ ขณะที่กลุ่มประเทศ TPP ญี่ปุ่นขอเป็นแกนนำแทนสหรัฐ. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้ใหญ่บ้านมอบตัว คดียิงชายใหม่ของเมียเก่า ดับคากระบะ

นนทบุรี 20 พ.ค. – ผู้ใหญ่บ้านหึงโหด บุกยิงกิ๊กของอดีตภรรยา 6 นัด เสียชีวิตคารถกระบะ มอบตัวแล้ว เบื้องต้นถูกแจ้งหลายข้อหาหนัก ขณะที่เจ้าตัวฝากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต นายอานนท์ อายุ 40 ปี ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน อ.องครักษ์ จ.นครนายก หึงโหด บุกยิงนายพลาธิป อายุ 34 ปี อาชีพขับรถส่งหมู ซึ่งเป็นกิ๊กของอดีตภรรยา เสียชีวิตภายในรถกระบะที่จอดอยู่ในซอยลาดปลาดุก ถนนบางไผ่-หนองเพรางาย ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดเมื่อเวลา 21.30 น.ที่ผ่านมา (19 พ.ค.) จากภาพจะเห็นว่าเมื่อเวลา 21.02 น. เห็นผู้ตายขับรถกระบะมาจอดริมทาง ก่อนมีรถกระบะสีดำอีกคันตามมาจอดปิดท้าย จากนั้นผู้ก่อเหตุอยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น เดินลงจากรถ ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ตายที่ยังนั่งอยู่ในรถ แล้วหลบหนีไป ช่วงสายที่ผ่านมา (20 พ.ค.) พนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เบิกตัวนายอานนท์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง หลังเมื่อราวตี […]

ขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย

กทม. 19 พ.ค.-ทีมค้นหาฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เพื่อขุดค้นหาผู้ประสบเหตุ ซึ่งขุดลึกลงไป 5 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหาย เวลา 17.00 น. เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา ทั้ง กรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) Usar Thailand เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และบริษัทรับเหมาเจาะเสาเข็ม ได้ใช้แบคโฮ เริ่มฝังแผ่นเหล็กชีทไพล์ ความยาวประมาณ 16 เมตร รอบหลุมเสาเข็ม 4 ด้าน เพื่อป้องกันดินสไลด์ปิดทับปากหลุมที่รถแบ็คโฮจะทำการขุด เพื่อค้นหาผู้ประสบเหตุ โดยการฝั่งแผ่นชีทไพล์ รอบหลุมเสาเข็ม เนื่องจากการประเมินของเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านวิศวกรรม พบว่าดินที่สไลด์ลงมาส่งผลกระทบรุนแรงต่อโครงสร้างอาคาร และเสาไฟฟ้า ในบริเวณที่เกิดเหตุ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาอาคารทรุดตัว เอน และ พังถล่ม จึงจำเป็นต้องนำแผ่นชีทไพล์มากั้น ก่อนทำการขุดดิน และเริ่มค้นหาผู้ประสบเหตุ และหลังจากฝังชีทไพล์ เสร็จสิ้นในเวลา 18.30 น. โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้นำเครื่องโซน่า ลงไปในหลุม เพื่อค้นหาร่างผู้ประสบเหตุ ซึ่งจากการใช้ โซน่าสแกน ร่างของผู้ประสบเหตุ ฝังอยู่ในหลุมลึก […]

พบศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลังทิ้งกลางไร่อ้อย

กาญจนบุรี 18 พ.ค. – พบแล้วศพ “ดีเจเตเต้” ถูกอุ้มมัดมือไพล่หลัง นำศพทิ้งกลางไร่อ้อย เมืองกาญจน์ หลังครอบครัวแจ้งช่วยตามหาตัวตั้งแต่คืนวันที่ 14 พ.ค. ตั้งปมสังหารเรื่องชู้สาว ความคืบหน้ากรณี “ดีเจเตเต้” ถูกขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มขึ้นรถหายตัวไป เหตุเกิดเมื่อเวลา 03.53 น. ของวันที่ 14 พ.ค. ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งริมถนนแสงชูโต ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ซึ่งหลังเกิดเหตุพ่อของดีเจเตเต้ ได้ออกมาอัดคลิปลงเฟซ บุ๊กเพื่อขอความช่วยเหลือในการตามหาตัวลูกชายที่หายตัวไป ก่อนที่ล่าสุดจะพบว่า กลายเป็นศพอยู่กลางไร่อ้อยเชิงเขาบ้านทุ่งนานางหรอก โดยวันนี้เวลาประมาณ 10.30 น. นายธนพล เสือส่าน กำนันบ้านทุ่งนานางหรอก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบศพอยู่บริเวณไร่อ้อย หมู่ 3 บ้านทุ่งนานางหรอก ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี คนที่ไปเจอ เป็นน้าชายของนายกอล์ฟคนในหมู่บ้าน ที่ออกไปหาของป่าแล้วไปเจอศพ ในสภาพนอนตะแคง ถูกมือถูกมัดไขว้หลัง แล้วมาบอกหลานชายคือนายกอล์ฟไปดูด้วยกัน แล้วนายกอล์ฟจึงแจ้งให้กำนันทราบ ทางกำนันก็แจ้งเรื่องต่อไปยังตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ซึ่งเบื้องต้นศพสวมเสื้อผ้าตรงกับที่เป็นข่าว […]

หาความจริง “แก๊งแม่ชีพันล้าน” ยันไม่ใช่เรื่องจริง

สมุทรสาคร 18 พ.ค. – วงการสงฆ์ยังไม่แผ่ว กระแสแก๊งแม่ชีพันล้านโผล่อีก สำนักพุทธลงตรวจสอบแล้ว แม่ชีที่ถูกกล่าวหา ตอบได้ทุกคำถาม ยืนยันไม่ใช่เรื่องจริง จากกระแสเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.) มีเพจหนึ่งนำภาพกลุ่มแม่ชีหลายภาพพร้อมกองธนบัตร และภาพแม่ชีที่แอดมินระบุอ้างว่าเป็นการใส่วิกผม มาโพสต์ลงโซเชียล พร้อข้อความเขียนแจงอย่างละเอียดว่า กรณีมีเพจดังโพสต์ภาพแม่ชีพร้อมข้อความระบุข้อความเด็ดว่า ทำนองว่า “แก๊งแม่ชีพันล้านคุมวัดเบ็ดเสร็จไร้เงาพระ! 1. แม่ชี 2 พี่น้องบริหารวัดลำพังไม่มีไวยาวัจกร ไม่มีกรรมการ ไม่มีมัคทายก ครอบครองที่ดินนับพันไร่แต่ชื่อเจ้าของไม่ใช่วัด บางแปลงเป็นชื่อแม่ชี อาจเข้าข่าย “ถือครองแทน” หรือใช้วัดบังหน้า? ยอดกฐินปีละเกือบ 100 ล้าน! รายชื่อผู้บริจาคซ้ำๆ เดิมๆ ส่วนใหญ่เป็นแม่ชี-คนในวัด ไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจ แต่ “บริจาคเป็นล้านทุกปี” ระบบโบนัสแม่ชีสาวช่วยหาทุนได้มาก พาเที่ยวรีสอร์ตหรูปีละครั้ง ใส่วิกเต็มยศ นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวพร้อม นส.สวาท แซ่ตัน ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จ.สมุทรสาคร นายอิทธิธร สีเหลือง นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการ เดินทางไปที่วัดที่แม่ชีในภาพบวชอยู่ ต.บางโทรัด […]

ข่าวแนะนำ

ศาลปกครองสูงสุด สั่ง “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้หมื่นล้านบาท

22 พ.ค. – ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาให้ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ชดใช้ความเสียหาย 10,028 ล้านบาท จากคดีโครงการรับจำนำข้าว ที่ ก.คลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ศาลปกครองสูงสุดนัดออกบัลลังก์ อ่านคำพิพากษาคดีที่กระทรวงการคลัง ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลางที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่ 1351 /2559 ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ที่ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ชดใช้ค่าสินไหมทดแทน กรณีปล่อยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717 ล้านบาท ศาลปกครองสูงสุด พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ให้เพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังเฉพาะส่วน ให้ชดใช้จำนวน 10,028 ล้านบาท และเพิกถอนคำสั่งยึดอาญัติทรัพย์สิน เพื่อขายทอดตลาด และคำสั่งอื่น โดยเห็นว่า คำสั่งดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำอุทธรณ์ฟังขึ้นบางส่วน ศาลพิจารณาว่าไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนในการจำนำข้าวเปลือกนาปี แต่ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนความเสียหายการระบายข้าวโดยวิธีการขายแบบรัฐต่อรัฐหรือ จีทูจี จากความเสียหาย 20,057 ล้านบาท เพราะประมาทเลินเล่อ ก่อให้เกิดความเสียหาย และต้องกำหนดสัดส่วนรับผิด ร้อยละ 50 […]

ปรับแผนช่วยคนงานตกหลุมลึก 19 เมตร – 4 วันยังไม่ถึงครึ่งทาง

กรุงเทพฯ 22 พ.ค. – เจ้าหน้าที่เตรียมปรับแผนการค้นหานำร่างคนงานขึ้นจากหลุมลึก 19 เมตร หลัง 4 วัน ยังขุดลงไปไม่ถึงครึ่งทาง ผ่านไปแล้ว 4 วัน สำหรับการค้นหานำร่างคนงานที่ตกลงไปในหลุมโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย บริเวณปากซอยหลานหลวง 8 ซึ่งในช่วงเช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครยังคงทำงานกันอย่างต่อเนื่องแบบ 24 ชั่วโมง มีรายงานว่า ขณะนี้ขุดลงไปได้ประมาณ 7 เมตร จากความลึกของหลุม 19 เมตร ยังไม่พบร่างของผู้สูญหายแต่อย่างใด อุปสรรคสำคัญคือเสาเข็มปูนขนาดใหญ่ที่ขวางอยู่ในหลุม ซึ่งเจ้าหน้าที่จะมีการประชุมหารือปรับแผนการช่วยเหลือกันอีกครั้ง หลังจากวางแผ่นชีสไพล์แล้ว แต่ยังไม่มั่นใจ 100% ว่าแผนนี้จะป้องกันไม่ให้ดินสไลด์ลงไปทับคนงานที่กำลังลงไปช่วยหรือไม่ โดยการทำงานจะเน้นความปลอดภัยของทุกคนเป็นหลัก ส่วนตัวเลขการขุดเจาะ เมื่อวานนี้ (21 พ.ค.) ทางรองผู้ว่าฯ กทม. แจ้งว่าขุดลึกไปได้แล้ว 9 เมตรนั้น ทางหน้างานขอชี้แจงว่าให้ยึดตัวเลขล่าสุดเป็นหลัก เพราะวัดจากขอบถนนและพื้นด้านล่างไม่เสมอกัน บางชุดอาจขุดลงไปได้มากกว่า แต่เป็นจุดที่ลงไปไม่ได้ ยอมรับการปฏิบัติงานครั้งนี้ยากกว่าที่คิด แต่ไม่เกินขีดความสามารถอย่างแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นำทีมแถลงคืบหน้าคดี “ทิดแย้ม” เปิดคลิปเสียงหลักฐานเด็ด

22 พ.ค. – “บิ๊กเต่า” นำแถลงความคืบหน้าคดี “ทิดแย้ม” ยักยอกเงินวัดไร่ขิง พร้อมเปิดคลิปเสียงหลักฐานเด็ด สนทนากับสีกาคนสนิท ส่วนเงินบัญชีวัดไร่ขิง และภายในมูลนิธิฯ พบว่ามีการทำธุรกรรมผิดปกติหลายรายการ และยังพบเงินกฐินถูกถอนออกไป ไม่มีการนำเข้าบัญชีวัด.-สำนักข่าวไทย

รบกันทั้งคืน “ทหารเมียนมา-กะเหรี่ยง” เข้มชายแดนไทย 24 ชม.

ตาก 22 พ.ค.-ชายแดนตรงข้าม อ.พบพระ จ.ตาก ทหารเมียนมา-กะเหรี่ยงรบกันหนักทั้งคืน ตลอดแนวชายแดน 3 จุด พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) เปิดเผยถึง การติดตามสถานการณ์การสู้รบชายแดนประเทศเมียนมา ฝั่ง อำเภอพบพระจังหวัดตาก ที่มีการสู้รบกันตลอดทั้งคืนจนรุ่งเช้า โดยเมื่อคืนนี้ ( 21 พ.ค.) 68เวลาประมาณ 19. 45 ทหารเมียนมาพัน.ป.315 ฐานปฏิบัติการ บ.คะเนเร ได้ทำการยิงอาวุธหนัก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่ จุดตรวจน้ำดั้น บ.คะเนเร อ.วาเลย์ใหม่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สมม. ด้านตรงข้าม บ.ทหารผ่านศึก ม.4 ต.รวมไทยพัฒนา อ.พบพระ จว.ต.ก. ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 500 เมตร จากนั้นเวลาประมาณ 21.00 น. กกล.KNLA ใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ตอบโต้ ทิ้งระเบิดโจมตี […]