กรุงเทพฯ 8 มิ.ย. – ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคร่วงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน ประชาชนกังวลเหตุระเบิดที่ผ่านมา รวมทั้งรายสินค้าเกษตรบางรายการยังไม่ดี อาจทำให้เศรษฐกิจไทยชะงัก
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤษภาคม 2560 ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน มาอยู่ที่ระดับ 76 เนื่องจากประชาชนกังวลต่อเหตุการณ์ระเบิดในกรุงเทพฯ และกระทบต่อความเชื่อมั่น รวมถึงนโยบายทางเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อาจจะส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกและการส่งออกของไทยในอนาคตชะลอตัวได้ แม้ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาตัวเลขการส่งออกของไทยและทั่วโลกจะปรับตัวดีขึ้นก็ตาม
อย่างไรก็ตาม หากดูราคาพืชผลทางการเกษตรส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับต่ำและลดลง เช่น ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และสับปะรด ทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดลดลง รวมทั้งราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าที่อาจจะสูงขึ้นไม่สอดคล้องกับรายได้
ทั้งนี้ เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นนั้น มีผลต่อความรู้สึกทำให้คนกลับมากังวลเรื่องสถานการณ์การเมือง แต่ถ้าหาก สถานการณ์ทางการเมืองยังคงสงบและไม่มีเหตุระเบิดซ้ำ ก็จะทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคกลับมาดีขึ้นเหมือนเดิมและบอกว่าเรื่องเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นอาจมีผลต่อความรู้สึกของประชาชนเพียงระยะสั้นเท่านั้น
นอกจากนี้ ปัญหาของกาตาร์ แม้จะไม่มีผลกระทบต่อไทยมาก ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวและการส่งออก เพราะภาคธุรกิจสามารถปรับตัวได้ แต่ห่วงผลกระทบที่จะมีผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก และเสถียรภาพของกลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง ซึ่งจะกระทบต่อราคาสินค้าเกษตรและสินค้าโภคภัณฑ์ จนกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้บริโภคให้มีความรู้สึกเชิงลึกต่อภาวะเศรษฐกิจได้ แต่ทั้งนี้ยังคงประมาณการขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีนี้ว่าจะขยายตัวถึงร้อยละ 3.5-4 และการส่งออกจะขยายตัวได้ถึงร้อยละ 2- 3 .-สำนักข่าวไทย