รองนายกรัฐมนตรีชวนชาติเอเชียร่วมสร้างความหวังใหม่ในเวทีโลก

กรุงโตเกียว 6 มิ.ย. – ไทยเชิญชวนชาติเอเชีย ร่วมกันสร้างบทบาทในเวทีโลก ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนในโลก 


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษในงาน Nikei Forum หัวข้อ ” The Future Of Asia  ”  โดยย้ำว่าการเดินทางมาครั้งนี้เป็นตัวแทนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องจากผู้นำของประเทศเพื่อนบ้านมาร่วมงานครั้งนี้แทบทุกประเทศ เช่น  สปป.ลาว เวียดนาม สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย จึงต้องการย้ำถึงความสำคัญต่อการพัฒนาของกลุ่มประเทศ CLMVT เนื่องจากหลายประเทศมหาอำนาจทั่วโลกส่วนใหญ่มุ่งสนใจมาลงทุนในกลุ่มอาเซียน เพราะเป็นกลุ่มประเทศกำลังเติบโต ดังนั้นไทยจึงหวังเป็นศูนย์กลางของประเทศ CLMVT จึงต้องการชี้แจงนโยบายด้านเศรษฐกิจให้ต่างชาติได้รับทราบ  การครบรอบ 130 ปี ทางการค้าการลงทุนของไทย-ญี่ปุ่น จึงต้องการจัดฉลองอันยิ่งใหญ่ระหว่าง 2ประเทศ เพื่อกระชับความสัมพันธ์

นายสมคิด ยอมรับว่าขณะนี้หมอกควันแห่งความไม่แน่นอนได้แผ่กระจายออกไปทั่วโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจ รัฐศาสตร์ การเมืองของโลก เริ่มจากการส่งเสริมการค้าเสรีถูกสลัดอย่างไม่ใยดีจากประเทศผู้ริเริ่ม คือ สหรัฐ เพื่อป้องกันผลประโยชน์ของตนเองมากกว่าการดูแลพันธมิตรทางการค้าในกลุ่ม TPP โดยหันมาเน้นปกป้องมากกว่าการส่งเสริมเสรีการค้า (America First)  เพื่อตอบโต้ประเทศคู่ค้าที่เคยร่วมค้าขายผ่านหลายมาตรการ  ทั้งที่ประเทศส่วนใหญ่เคยได้รับการส่งเสริมจากสหรัฐ ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นในเอเชีย จึงสร้างความสับสนแก่นานาประเทศจนต้องหาทางตั้งรับผลกระทบจากนโยบายของสหรัฐ เพื่อจัดระเบียบใหม่ของโลก หลีกพ้นความไม่แน่นอน กำลังมีจุดเริ่มต้นและแพร่กระจายมาในเอเชีย ความพลิกผันเหล่านี้มีทั้ง ปัญหาการเมือง รัฐศาสตร์ เริ่มจากอังกฤษต้องออกจากสมาชิกยุโรป (Brexit) กำลังเขย่าเอกภาพและพลังทางการเมืองของยุโรป  ประธานธิบดีมาครงของฝรั่งเศสต้องเผชิญปัญหาหยุดยั้งหรือการต่อต้าน GlobaliZation และกระแสการมุ่งสลัดตนเองจากกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) ได้หรือไม่ และผู้นำสหรัฐไม่ให้ความสำคัญกับความเป็นปึกแผ่น แต่กลับตอกย้ำ G7 ต้องรับผิดชอบมากขึ้นต่อค่าใช้จ่ายด้านความมั่นคง กลุ่ม G7  จึงประกาศว่าห้วงเวลาการพึ่งพาคนนอกหมายถึงสหรัฐได้ผ่านพ้นไปแล้ว 


ภายใต้เศรษฐกิที่เปราะบาง พลังทางการเมืองจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร จึงไม่มีใครสามารถชี้ชัดเจนว่าโลกอีก 1 ปีจะเป็นเช่นไร ดังนั้น การก้าวไปข้างหน้าด้วยความกลมเกลียวจึงเป็นความท้าทายของชาติแห่งเอเชียต้องสร้างพลังแห่งเอเชียให้เป็นความหวังใหม่ การค้าเสรี ประคองเศรษฐกิจโลก เพื่อเป็นแสงนำทางลบหมอกควันที่กำลังหนาทึบขณะนี้  เริ่มจากเมื่อวันที่ 14-15 พฤษภาคม จีนได้จัดเวทีประชุมนานาชาติ ประกาศนโยบาย  “One Belt One Road” เส้นทางสายไหม เพื่อเชื่อมยุโรป ยูเรเชีย แอฟริกา เพื่อเป็นแพล็ตฟอร์มใหม่แห่งการค้าเสรีของโลก เพื่อจับมือนานาชาติและอาจมีแนวทางอื่น เพื่อสร้างความหวังแห่งอนาคตจากเป้าหมายของญี่ปุ่นกับพันธมิตร 12 ชาติ จึงพร้อมสนับสนุนเพื่อให้ชาติสมาชิก สร้างเขตการค้าเสรี (RCEP) ครอบคลุมกลุ่มประเทศอาเซียนกับอีก  6 ประเทศ ทั้งจีน ญี่ปุ่น  อินเดีย เกาหลีใต้ นิวซีแลนด์ มีประชากรเกือบครึ่งหนึ่งของโลก หากญี่ปุ่นกระโดดเข้ามาทำหน้าที่แทนสหรัฐ หรือการตั้งกลุ่มร่วมกัน เพื่อผลักดันชาติเอเชียร่วมกับจีน อินเดีย เกาหลีใต้ ต้องเป็นหัวแรงสำคัญผลักดันอย่างสำคัญ 

แนวทางผลักดันแห่งเอเชียด้วยการรวบรวมทั้งประเทศใหญ่ ขนาดเล็กร่วมถักทอเพื่อสร้างพลังมุ่งขจัดอุปสรรคของเอเชีย เพื่อเดินหน้าแก้ปัญหา  4 ด้าน ขจัดอุปสรรค ประกอบด้วย 1. การเชื่อมโยง ( Connectivity )  ทั้งด้านการขนส่ง คมนาคม การร่วมมือแรงงาน เพื่อสร้างสมรรถนะการผลิตแห่งเอเชีย ให้เป็นผู้ผลิตมีความสำคัญต่อเวทีโลก  2. ยุทธศาสตร์ร่วมแห่งการพัฒนา (Joint strategy) เนื่องจากหลายประเทศมีความแตกต่าง ความก้าวหน้าวิทยาการ ทรัพยากรมนุษย์ ฉุดรั้งการพัฒนา  เพื่อเชื่อมการผลิต ผู้นำนวัตกรรมแห่งอนาคต ในทางปฏิบัติจะขับเคลื่อนได้โดยเริ่มตั้งแต่อนุภูมิภาคจากเล็กไปสู่ใหญ่ และเวที REVP หรือTPP อาจยกระดับการดำรงชีพ ลดการประท้วงของประเทศ CLMVT ไทยจึงประกาศความพร้อมเดินร่วมกันไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง  จึงมุ่งผลักดันเพื่อวางยุทธศาสตร์ร่วมกัน เพื่อทำให้ CLMVT เชื่อมโยงร่วมกันกว้างขึ้นระดับ BIMSTECs, CLMVT รวมทั้งจีน อินเดีย ได้เข้ามามีบทบาท ความเชื่อมโยงเหล่านี้จะเป็นก้าวสำคัญ ต่อการเกิดรวมตัวของภูมิภาคอย่างแท้จริง 

3. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เอเชียมีประชากรนับพันล้านคน ส่วนใหญ่ด้วยพัฒนา อ่อนแอ ไร้การศึกษา และมีแนวโน้มจอ่อนแอลง ความแตกต่างเหลื่อมล้ำมากขึ้น จึงต้องแก้ไขร่วมกัน ทั้งการศึกษา แรงงาน สร้างโอกาส ให้แก่ผู้ไร้โอกาส เปลี่ยนจากการเป็นภาระ ปรับให้เป็น  “สินทรัพย์แห่งเอเชีย”  จึงต้องร่วมจัดทำยุทธศาสตร์ร่วมกับญี่ปุ่น  4. Peace, Trust จากความไม่สงบในคาบสมุทรเกาหลี หากสถานการณ์ยังรุนแรง ต้องยอมรับว่าภูมิภาคเอเชีย มีประวัติศาสตร์นานนับร้อยปี หากไม่ระวางอดีต ไม่มองสู่อนาคต จะอยากยิ่งก้าวเดินต่อไปได้  เมื่อเอเชียมีความสงบ ชาติทั้งหลายต้องอดกลั้น ทุ่มงเทไว้ใจ เพื่อหันมาสร้างอนาคตแห่งเชียร่วมกัน 


“ขณะนี้เป็นโอกาสแห่งการจัดระเบียบโลกใหม จึงมั่นใจเอเชียเป็นความหวังใหม่ โอกาสเปิดให้แล้วแก่เอเชีย แต่ขึ้นอยู่กับความร่วมมือระหว่างกัน จึงได้ยกคำพูดของ Mark Zuckerberg แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด บอกว่า ทุกคนล้วนมีเป้าหมาย  และต่างแสวงหาเป้าหมายจะทำให้บรรลุถึงเป้าหมายได้สำเร็จ หากต้องการสร้างความยิ่งใหญ่ ดังนั้น อนาคตต้องรับรู้ตนเอง ทุกประเทศแม้จะขนาดเล็ก หรือใหญ่ บทบาทแห่งเอเชียยุ่งใหญ่กว่าเป้าหมายของประเทศ จึงจะสร้างความยิ่งใหญ่ได้ ประเทศไทยไม่ใช่ประเทศใหญ่ จะช่วยเปลี่ยนโอกาสทางการเมือง และก้าวพ้นวิกฤติให้เป็นโอกาสในการปฏิรูป เศรษฐกิจของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจปีนี้เติบโตมากกว่าร้อยละ 3.5 การร่วมมือทั้งเอกชนและรัฐบาล เพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ปรับกฎหมาย กฎระเบียบ ล่าสุดได้รับจัดอันดับดีขึ้นจาก IMD ในอันดับที่ 27 ไทยจึงพร้อมร่วมกับมหามิตรญี่ปุ่นเป็นอีกกำลังหนึ่งและมีส่วนร่วมสร้างอนาคตแห่งเอเชีย  เพื่อเป็นเครื่องจักรเครื่องใหม่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เป็นความหวังใหม่ของโลก” นายสมคิดกล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

รัฐผ่อนปรนรถบัสสองชั้น 6 เส้นทางเสี่ยง เริ่ม 21 ก.ค.นี้

ทำเนียบ 13 ก.ค.-รัฐผ่อนปรนรถบัสสองชั้น 6 เส้นทางเสี่ยง เริ่ม 21 ก.ค.นี้ พร้อมคุมเข้มมาตรฐานความปลอดภัยทุกขั้นตอน เพื่อความปลอดภัยของประชาชน นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า รัฐบาลโดยกรมขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ได้มีการผ่อนปรนให้รถโดยสารสองชั้นสามารถวิ่งใน 6 เส้นทางได้เป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 180 วัน โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป ดังนี้ 1.ทางหลวงหมายเลข 4 ช่วงเขาพับผ้า-พัทลุง 2.ทางหลวงหมายเลข 103 ช่วงแม่ยางฮ่อ-แม่ตีบ 3.ทางหลวงหมายเลข 118 ช่วงเชียงใหม่-ดอยนางแก้ว 4.ทางหลวงหมายเลข 2013 ช่วงบ่อโพธิ์-โคกงาม 5.ทางหลวงหมายเลข 2331 ช่วงโจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และ 6.ทางหลวงหมายเลข 1256 ช่วงปัว- อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โดยผู้ประกอบการที่ประสงค์จะเดินรถโดยสารสองชั้น ในเส้นทางผ่อนปรนดังกล่าว จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขอย่างเคร่งครัด ดังนี้ 1.นำรถเข้ารับการตรวจสภาพ (Recall) ณ […]

เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

กทม. 13 ก.ค.-กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศฉบับที่ 6 เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันตอนบน (มีผลกระทบในช่วงวันที่ 12-13 กรกฎาคม 2568) ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2568 ประเทศไทยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งโดยเฉพาะภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน ภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณภาคเหนือตอนบน ในขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง และเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ จังหวัดที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม […]

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]