เปิดไพ่ ก.พลังงาน รับวิกฤติก๊าซฯ “ไฟไม่ขาดแต่อาจจ่ายแพง”

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – เปิดแผน ก.พลังงานวางไพ่รับวิกฤติก๊าซฯ 2564-2566 ลดใช้ไฟฟ้า ส่งเสริมพลังงานทดแทน “ไฮบริด-เฟิร์ม” เจรจาซื้อไฟฟ้าเพื่อนบ้าน จีนเสนอขาย 1,000 เมกะวัตต์ ซื้อก๊าซฯ มาเลเซีย/เจดีเอ หากทุกอย่างไม่เป็นไปตามแผนอาจต้องผุดแอลเอ็นจี “FSRU-มาบตาพุด” เลวร้ายสุดผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันดีเซล



ทีมข่าวเศรษฐกิจ “สำนักข่าวไทย อสมท” มีโอกาส พูดคุยกับ นายทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน  หลังคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 15 พฤษภาคม 2560 รับทราบแนวทางการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสภาวะวิกฤติก๊าซธรรมชาติ ปี 2564 – 2566 ที่คาดว่าก๊าซฯ จะลดลงส่งผลกระทบต่อการผลิตไฟฟ้าของประเทศ คิดเป็นพลังงานไฟฟ้าสูงถึง 13,623 ล้านหน่วย หรือเทียบเท่ากับโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ ขนาด 1,700 เมกะวัตต์


เหตุผลอะไรทำให้เกิดปัญหาวิกฤติก๊าซฯ 64-66

ทวารัฐ : 2 ปีที่ผ่านมา การดำเนินการไม่เป็นตามแผนด้านพลังงาน มีความไม่แน่นอนสูง ได้แก่  โรงไฟฟ้าถ่านหินภาคใต้สร้างช้ากว่ากำหนดในแผน, สัมปทานก๊าซฯ แหล่งเอราวัณ-บงกช หมดอายุปี 2565-2566 และกระบวนเปิดหาผู้ผลิตในแหล่งใหม่ปิโตรเลียมใหม่ ๆ ไม่สามารถทำได้ ทำให้ประมาณการณ์เบื้องต้นว่าไทยจะรับก๊าซฯ ต่ำกว่าที่กำหนดในแผน โดยปัจจุบันไทยรับก๊าซฯ จาก3 แหล่ง ได้แก่ อ่าวไทยแหล่งใหญ่ “เอราวัณ-บงกช” หมดอายุสัมปทานปี 2565-2566 มีการถกเถียงเรื่องการจัดการที่ล่าช้า  ส่งผลการผลิตไม่ต่อเนื่องช้ากว่ากำหนด ส่วนการเปิดสัมปทานหรือจัดการแหล่งใหม่ตามรอบ 21 ก็ เปิดไม่ได้มีการแก้ไขกฏหมายล่าช้า 


ขณะที่การรับก๊าซฯ จากแหล่งเมียนมาร์ก็มีปัญหาด้านเทคนิคแหล่งก๊าซเยตากุนลดต่ำกว่าแผน ดังนั้น การพึ่งพาก็ต้องไปนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจีเพิ่มขึ้น โดยประเมินว่าปี 2564-2566 ก๊าซฯ จะหายไปต่ำกว่าคาดการณ์ในแผน 350-450 ล้านลูกบาศ์กฟุต/วัน เทียบเท่าแอลเอ็นจี 2 ล้านตัน/ปี

ในปี 2564-2566  เรามีสมมุติฐานว่าก๊าซฯ อ่าวไทย 2 แหล่งที่หมดอายุสัมปทานจะมีการผลิตต่ำกว่าคาดการณ์ในแผน โดยตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว 2558-2579 (พีดีพี 2015 ) ได้มีการพิจารณาในเรื่องนี้และต้องการลดการพึ่งพาก๊าซฯ จึงวางแผนสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เช่น โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ แต่โครงการก็ถูกต่อต้าน ทำให้ล่าช้ากว่าแผนที่กำหนด…

แผนสำรองแก้ไขปัญหาก๊าซฯ ขาด

ทวารัฐ :  ดังนั้น จึงต้องมีแผนสำรอง แผนสำรองเพื่อไม่ให้เกิดปัญหา โดยแผนที่รายงานต่อ กพช.วันที่ 15 พฤษภาคม 2560 เป็นแผนที่ยังไม่ตกผลึก แต่เป็นตระกร้า หรือกรอบที่วางไว้ ว่าจะดำเนินการอย่างไร ต้องศึกษาและเจรจาให้ชัดเจนว่าจะดำเนินการแผนใดได้บ้าง แผนแบ่งออกเป็น

1. แผนลดความต้องการใช้ไฟฟ้า (Demand Side) เช่น  ส่งเสริมติดตั้งแผงโซลาร์บนหลังคา (Solar Rooftop) เพื่อลดความต้องการไฟฟ้าช่วงพีคกลางวันและการใช้มาตรการ Demand Response (DR) เพื่อประหยัดไฟฟ้าตามช่วงเวลาที่ภาครัฐกำหนดเป็นการเฉพาะ ซึ่งตั้งเป้าหมายเบื้องต้นว่าอาจมีไฟฟ้า Solar Rooftop เข้าระบบ 1,000 เมกะวัตต์ 

2   ด้านการจัดหาเชื้อเพลิง/พลังงานไฟฟ้า (Supply Side) 

-จัดหาก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมจากพื้นที่พัฒนาร่วมไทย – มาเลเซีย (JDA)  ซึ่งในส่วนนี้ดูไว้ 2 แนวทาง คือ ใช้ก๊าซในส่วนของมาเลเซีย หรือซื้อก๊าซฯ จากพื้นที่อื่นของมาเลเซีย  โดยจะต้องมีการเจรจาในส่วนนี้จะนำมาใช้เพื่อสร้างโรงไฟฟ้าจะนะ 3 จังหวัดสงขลากำลังผลิต 700-1,000 เมกะวัตต์ ใช้ก๊าซฯ 100-120ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน ซึ่งกรณีนี้จะช่วยตอบโจทย์ความมั่นคงไฟฟ้าในภาคใต้ที่มีความต้องการเพิ่ม แต่ไฟฟ้าไม่เพียงพอและโรงไฟฟ้าถ่านหินล่าช้า แต่ทั้งนี้ก็ต้องวิเคราะห์ถึงราคาก๊าซฯ ด้วยว่าจะมีผลต่อต้นทุนค่าไฟฟ้าอย่างไร  

– การเพิ่มความสามารถในการเก็บสำรองก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เช่น การขยายโครงการ LNG Receiving Terminal แห่งที่ 1 มาบตาพุด จ.ระยอง และเร่งรัดการพัฒนาโครงการ Floating Storage and Regasification Unit (FSRU) ในพื้นที่ภาคใต้ เป็นต้น  ในส่วนนี้ดูทั้งระบบ เพราะในส่วนของสถานีแห่งที่ 1 มาบตาพุดนั้น ปตท.ได้รับอนุมัติผลการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) แล้วให้ก่อสร้างได้ 15 ล้านตัน/ปี ขณะที่ ปตท.ได้รับอนุมัติให้ก่อสร้างแล้ว 11.5 ล้าน ก็ต้องพิจารณาว่าเร่งได้หรือไม่อย่างไร

-การจัดหาพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติม เช่น รับซื้อไฟฟ้าจากประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว หรือกัมพูชา) ซึ่งในส่วนการซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ขณะนี้โครงการน้ำเทิน 1 แจ้งว่าจะเสร็จเร็วกว่าแผน 1 ปี หรือเสร็จปี 2564 จากตามสัญญาจะเข้าระบบปี 2565 ส่วนจีนก็เสนอขายไฟฟ้าให้ไทย 1,000 เมกะวัตต์ ผ่านสายส่ง สปป.ลาวและมาเลเซียก็พร้อมขายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงถ่านหินให้ไทย ส่วนโครงการของกัมพูชา ก็มีโครงการถ่านหินเขตเศรษฐกิจพิเศษเกาะกงเสนอมา 2 ผู้ผลิตกำลังผลิต 1,800 เมกะวัตต์ และ2,400 เมกะวัตต์  แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะสามารถก่อสร้างได้ทันกับความต้องการของเรา คือ ปี 2564  หรือไม่  อย่างไรก็ตาม ไทยพร้อมเจรจา ซึ่งต้องพิจารณาเรื่องค่าไฟฟ้า และสายส่งไฟฟ้าว่าจะเข้าเส้นทางใด  เช่น สุรินทร์ เป็นต้น  ส่วนเมียนมาร์ก็มีการพูดคุยหลายโครงการ เช่น โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินมะริด โรงไฟฟ้าพลังน้ำ มายตง แต่ก็ยอมรับว่าไม่มีความชัดเจน

“เราเปิดหน้าไพ่ก็เจรจาทั้งหมด สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมาร์ มาเลซีย และจีนก็พร้อม โดยจีนจะมาจากระบบ GRID ของเค้าซึ่งเชื้อเพลิงก็คือหลากหลายของจีน ทั้งถ่านหิน นิวเคลียร์ อื่น ๆ ส่วนมาเลเซีย ก็เป็นการพุดคุย เค้าอยากพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหินมาขายให้เรา หากไทยต้องการ”

-การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเติมอีกตามนโยบาย SPP Hybrid-Firm และ VSPP-Semi Firm เพิ่มขึ้น เป็นต้น โดยประเด็นนี้จะต้องหากพิสูจน์ว่าไฮบริดเฟริม์จ่ายไฟได้ 24 ชั่วโมง ซึ่งปีนี้จะทดลองเปิด 300 เมกะวัตต์ก่อน หากทำได้ก็พร้อมวางแผนระบบพลังงานหมุนเวียน เพื่อเป็นส่วนแก้ไขปัญหาในปี 2564-2566  ซึ่งต้องพิจารณาเรื่องต้นทุนด้วย 

-เจรจาตกลงราคาและปริมาณการจัดหาก๊าซธรรมชาติโครงการบงกชเหนือ โดยมีการรับประกันอัตราขั้นต่ำการผลิตในช่วงปี 2562 – 2564 เพื่อให้มีปริมาณการผลิตก๊าซธรรมชาติก่อนสิ้นอายุสัมปทานปี 2565 เพิ่มขึ้น

ทางเลือกฉุกเฉิน FSRU มาบตาพุด-ผลิตไฟฟ้าจากดีเซล

              ทวารัฐ :  แผนต่าง ๆ ที่ทำเป็นตระกร้าไว้ก็เพื่อให้มีก๊าซเพียงพอ แต่หากพบว่าแผนสร้างไม่ได้ และหากขาดแคลนจริง ๆ ก็ต้องมีแนวทางออกรองรับปัญหาฉุกเฉิน เช่น เช่า FSRU เข้าต่อท่อก๊าซฯ ที่มาบตาพุด  โดยทางเทคนิค ทำได้  แต่ก็ต้องทำการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) หรือ ผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม (อีเอชไอเอ ) เรื่องร่องน้ำหรือการต่อท่อในทะเล  ซึ่งกรณีหากไม่ทันการ ก็ต้องหารือรัฐบาลและ คสช.ว่าหากกฎหมายปกติทำไม่ได้ ก็มีโอกาสใช้กฎหมายพิเศษ หรือ ม.44 หรือไม่  อย่างไรก็ตาม หากจัดหาก๊าซฯ ไม่ได้จริง ๆ ก็ต้องป้องกันไม่ให้เกิดไฟฟ้าขาดแคลน ก็สามารถใช้น้ำมันดีเซลปั่นไฟฟ้าแทนก๊าซฯ ได้ แต่ต้องยอมรับว่าต้นทุนแพงถึง 3-5 เท่าตัว และกระทบค่าไฟฟ้าประชาชน ซึ่งไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น

ประชาชนร่วมมืออะไรได้บ้าง เพื่อผ่านพ้นวิกฤติก๊าซฯ

          ทวารัฐ : ความร่วมมือของภาคประชาชนนอกจากการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาผลิตไฟฟ้าใช้ด้วยตัวเองแล้ว ก็ต้องขอความเห็นใจภาคประชาชน เพราะโครงการขนาดใหญ่มักได้รับการต่อต้าน ทำให้การดำเนินการช้ากว่าคาดการณ์ไว้ เรื่องบางเรื่องต่อต้าน 2-3 ปีก่อนหน้านี้ แต่จะมีผลอีก 5-7 ปีหลัง เช่น ผลของวิกฤติก๊าซฯ ครั้งนี้อาจเกิดขึ้นอีก 4 ปีข้างหน้า จึงเป็นวิกฤกติ จึงอยากเรียนวิงวอน ประชาชนเรื่องพลังงานต้องร่วมมองยาว ประท้วงทำได้ แต่ก็ต้องดูเหตุและผล โครงการที่ล่าช้าทำให้วางแผนค่อนข้างยาก ทำให้ไม่แน่ใจว่าจะมีทรัพยาพลังงานมาใช้ได้เมื่อไหร่อย่างไร พลังงานเป็นเรื่องทุกคน ก็ขอความเห็นใจศึกษาแสนอแนะหาทางที่เป็นไปได้ ก็จะทำให้โครงการพัฒนาได้ เพื่อความมั่นคงของประเทศ

                                        —–ทีมข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวไทย อสมท—

                                              

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย