ทำเนียบรัฐบาล 3 มิ.ย.-โฆษกรัฐบาลเผยนายกฯ ชื่นชมศาลยุติธรรม เพิ่มช่องทางให้ทนายความยื่นฟ้องคดีผ่านระบบ e-Filing อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน พัฒนาสู่ไทยแลนด์ 4.0
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ชื่นชมความก้าวหน้าของศาลยุติธรรม โดยเฉพาะศาลแพ่งที่นำระบบการยื่นและส่งคำคู่ความและเอกสารโดยสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Filing ที่เปิดให้ทนายความสามารถยื่นฟ้องคดีผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยนำร่องใน 3 ศาล คือ ศาลแพ่ง ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ และศาลแพ่งธนบุรี ครอบคลุมการยื่นฟ้องในคดีซื้อขาย เช่าทรัพย์ เช่าซื้อ จำนอง จำนำ กู้ยืมเงิน ค้ำประกัน และบัตรเครดิต
“นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่าหากทุกภาคส่วนคิดที่จะก้าวไปสู่สิ่งที่ดีกว่าด้วยการนำเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมไปใช้ในการพัฒนางานหรือพัฒนาตนเองตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 คนไทยจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และประเทศจะหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง พร้อมทั้งสนับสนุนให้ขยายผลไปยังศาลอื่น ๆ เช่น ศาลแขวงทั่ว กทม. ศาลจังหวัดรอบ กทม. ศาลประจำภาค ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยประโยชน์ของ e-Filing คือ ช่วยลดค่าใช้จ่ายและประหยัดเวลาในการเดินทางไปศาล” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว
พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังระบุว่าการปฏิรูประบบราชการในวันนี้มี 3 เรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการ คือ 1.การนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ 2.การเชื่อมโยงข้อมูลทางราชการ 3.ข้าราชการต้องปรับตัวให้มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์มากขึ้น โดยเรื่องการเชื่อมโยงข้อมูลเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนนั้น รัฐบาลได้จัดทำ Digital Government Data รวบรวมข้อมูลประชาชนไว้ในฐานข้อมูลภาครัฐ เมื่อประชาชนไปติดต่อหน่วยราชการสามารถใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว ไม่จำเป็นต้องนำสำเนาเอกสารติดตัวไปเป็นจำนวนมาก
“พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 เป็นกฎหมายสำคัญอีกตัวอย่าง ที่รัฐบาลต้องการลดภาระของประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพราะเมื่อขั้นตอนต่าง ๆ สะดวกรวดเร็วขึ้น จะเกิดความน่าสนใจในการประกอบธุรกิจ ช่วยดึงดูดนักลงทุนได้ สิ่งเหล่านี้เป็นความพยายามร่วมกันของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยดีขึ้นติดต่อกัน จนในปีนี้เลื่อนขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 27 vudทั้งไทยแลนด์ 4.0 ไม่ใช่เรื่องของนักธุรกิจหรือภาคอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของคนไทยทุกคนที่จะลุกขึ้นมาปรับวิธีคิด เปลี่ยนพฤติกรรม ไม่ทำในสิ่งเดิม ๆ แต่คิดและทำสิ่งใหม่ ๆ ด้วยพื้นฐานของความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม เพื่อก้าวไปสู่ชีวิตที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย
