ร.ร.
รามาการ์เด้นส์ 3 มิ.ย. – “สมคิด” ชี้ภาครัฐ-เอกชนต้องร่วมมือช่วยยกระดับเอสเอ็มอี
สร้างความแข็งแกร่ง เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ระบุ กรณีสหรัฐอาจถอนตัวจาก”ข้อตกลงปารีส”กระทบเศรษฐกิจทั่วโลก
นายสมคิด
จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ ภายใต้หัวข้อ ”
ก้าวต่อไปในการสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ (Local Economy)” ในงานการประชุมหอการค้าภาค 5 ภาค ประจำปี 2560 ว่า ปัจจัยจากต่างประเทศยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของไทย
เช่น การประกาศจะถอนตัวออกจาก”ข้อตกลงปารีส”ในการลดภาวะโลกร้อนของนาย โดนัลด์
ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหลายประเทศทั่วโลก ดังนั้น
จึงจำเป็นต้องเร่งยกระดับและสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
โดยนำนวัตกรรมเข้ามาปรับใช้ในกระบวนการผลิตและวิธีการค้า
ขณะที่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับชุมชนจะต้องอาศัยความร่วมมือกับเอกชนเป็นตัวช่วยในการขับเคลื่อนควบคู่กันไปด้วยมั่นใจว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
โดยภาครัฐจะเป็นตัวกลางประสานความร่วมมือเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจ
ด้วยการแก้ไขกฏระเบียบลดขั้นตอน ด้านกฏหมาย รวมถึงสนับสนุนงบประมาณด้านต่างๆ
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า
หอการค้าไทยได้การจัดการประชุมทุกปีเพื่อเป็นการวางเป้าหมายการพัฒนาภาคและกลุ่มจังหวัดใช้เป็นแนวทางการพัฒนาทั้งด้านการท่องเที่ยวซึ่งเป็นฐานเศรษฐกิจที่สร้างมูลค่า
รวมทั้งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้สูงขึ้น การพัฒนาเมืองสำคัญ
ยกระดับให้เป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้า บริการ ธุรกิจสุขภาพการศึกษาและธุรกิจ ดิจิทัล
ที่สำคัญคือการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษชายแดนแต่ละจังหวัดสร้างรายได้กระจายสู่ท้องถิ่น
นายวิโรจน์
จิรัฐิติกาลโชติ
รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและประธานจัดงานกล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดงาน ว่า
เพื่อเป็นการระดมความคิดเห็นในการขับเคลื่อนการดำเนินงานระหว่างหอการค้าไทยและหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศในการเสริมสร้างองค์กรให้เกิดความเข้มแข็งและการพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของสมาชิกผู้ประกอบการทั่วประเทศ ตลอดจนการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาคอีกทั้งเป็นเวทีให้กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่หอการค้าจังหวัด
ได้ใช้เป็นแนวทางในกานดำเนินธุรกิจให้มีทิศทางการพัฒนาภาคและกลุ่มจังหวัดในทิศทางเดียวกันตามยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาค5และการขับเคลื่อน Trade &Service 4.0 –สำนักข่าวไทย