“พิชัย” หารือหอการค้าฯ ชูจุดแข็งสร้างโอกาสการค้าไทย เร่งแก้ปัญหาหนี้

กรุงเทพฯ 17 มี.ค. – “พิชัย” ยกทีมพาณิชย์ หารือสภาหอการค้าฯ ย้ำร่วมมือภาคเอกชนเต็มที่ เร่งแก้ปัญหาหนี้สิน ชูจุดแข็งสร้างโอกาสการค้าไทย ลุยเจรจา FTA ดูแลสินค้าเกษตรใกล้ชิดปราบสินค้าด้อยคุณภาพ เชื่อสหรัฐระงับวีซ่าไทยจากปมอุยกูร์ ไม่กระทบการค้าการลงทุน


นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เข้าหารือกับคณะผู้บริหารหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ถึงแนวทางผลักดันการค้าการลงทุนของไทย ปี 2568 ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายพิชัย เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีมีนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง วางเป้าหมายปี 2568 เศรษฐกิจขยายตัวเกิน 3% ซึ่งจากการหารือกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าฯ แห่งประเทศไทย เห็นว่าเครื่องจักรในการขยายตัวทางเศรษฐกิจเริ่มเดินแล้ว โดยปี 2567 การส่งออกขยายตัว 5.4% ขณะที่เดือนมกราคม 2568 ขยายตัวแต่ระดับถึง 13% คาดว่าเดือน ก.พ.68 ก็น่าจะดี ขณะที่การลงทุนปี 2567 ขยายตัว 1.14% โดยคาดว่าปีจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นหรือไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา และเมื่อมีลงทุนเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลให้การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น สอดรับกับที่ประเมินว่าการส่งออกจะเป็นเครื่องจักรสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโต ในภาพรวม เครื่องจักรทางเศรษฐกิจดีขึ้นทั้งหมด ทั้งการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้มีสินค้าส่งออกเพิ่มขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวมีแนวโน้มดี โดยปี 2568 คาดหวังจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39 ล้านคน มากขึ้นจากปี 2567 ที่มีนักท่องเที่ยว 36 ล้านคน

ส่วนปัญหาสำคัญในขณะนี้ คือหนี้ที่ยังค้างอยู่ระบบ โดยหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงเกือบ 90% หนี้นอกระบบที่น่าจะเกิน 10% รวมเกิน 100% และพบว่าประชาชนเมื่อมีเงินก็นำไปจ่ายหนี้ จนทำให้ดูเหมือนเศรษฐกิจไม่ดี ทั้งๆ ที่เครื่องจักรทางเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปค่อนข้างดี มีตัวเลขที่น่าพอใจแล้ว ต้องขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมกับหน่วยต่างๆ แก้ปัญหาหนี้ รวมทั้งขอให้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และภาคเอกชน ช่วยกันคิดว่าจะแก้ปัญหาเรื่องหนี้กันอย่างไร โดยอยากให้ช่วยพิจารณาเสนอแนะแนวทางกันเข้ามา


นายพิชัย ยังกล่าวถึงนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการขับเคลื่อนร่วมกับภาคเอกชน เพื่อสร้างโอกาสการค้าไทย ประกอบด้วย การเร่งเจรจา FTA และเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ที่ทำสำเร็จไปแล้ว คือ FTA ไทย-เอฟต้า และ ไทย-ภูฏาน ที่กำลังเร่งเจรจาคาดว่าจะเซ็นข้อตกลงช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ ต่อมาคือ FTA ไทย-อียู ซึ่งจากการหารือร่วมกับนายมารอส เซฟโควิช (H.E. Mr. Maroš Šefčovič) กรรมาธิการยุโรปด้านการค้าฯ ก็ตั้งเป้าร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถบรรลุผลการเจรจา FTA ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ส่วน FTA ฉบับอื่นๆ ก็จะเร่งเจรจา ทั้ง ไทย-เกาหลีใต้, ไทย-ยูเออี, อาเซียน-แคนาดา เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงทั้งหมดนี้ในการขยายตลาด ลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ และดึงดูดนักลงทุน

ต่อมา คือการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อปรับโครงสร้างการส่งออก ทั้ง AI Data Center และ PCB ซึ่งทยอยเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทยอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต, การชูไทยเป็นคลังอาหารของโลกเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งประเทศตะวันออกกลางให้ความสนใจอย่างยิ่ง, การดูแลและผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตร ทั้งข้าว มันสำปะหลัง รวมทั้งการดำเนินนโยบายทลายทุนผูกขาดข้าว เปิดเสรีข้าว

การสร้าง Thailand Brand การันตีคุณภาพสินค้าของผู้ประกอบการรายย่อยของไทย, การปรับโฉม Thai SELECT เทียบชั้นมิชลินสตาร์,การส่งเสริมสินค้า Thailand Next Level เพื่อยกระดับแบรนด์สินค้าไทย, การแก้ปัญหาสินค้า/ธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งล่าสุดได้มีการตั้ง คณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศผิดกฎหมาย เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า การจดทะเบียนธุรกิจ และธุรกิจนอมินีทั่วประเทศ เพื่อทำให้ความเข้มข้นของการปราบปรามดียิ่งขึ้น ไปจนถึง การเตรียมการรับมือต่อมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ


นายพิชัย ยังได้ตอบข้อซักถามสื่อมวลชน ถึงผลกระทบการส่งออกไทย-สหรัฐ จากกรณี รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ ประกาศนโยบายข้อจำกัดวีซ่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยที่เป็นผู้รับผิดชอบหรือเกี่ยวข้องกรณีส่งชาวอุยกูร์ไปจีน โดยมองว่าจากการได้พุดคุยเชื่อว่าการค้าขายการเจรจายังสามารถทำได้ เพราะทุกคนยังต้องกลับมาทำธุรกิจ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ ในหลายระดับ ทำให้มั่นใจว่าสุดท้ายสามารถเจรจาการค้าให้จบได้

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การชี้แจงข้อมูลต่างๆ เป็นประโยชน์ต่อหอการค้าไทยอย่างมาก ซึ่งได้เห็นเป็นปัญหาร่วมกันคือเรื่องหนี้ และเอสเอ็มอีที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ดีใจที่รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องรถกระบะที่มีการยึด แล้วช่วยคุยให้มีการปล่อยกู้ เพื่อให้เขามีรถใช้ทำมาหากิน วันนี้ กำลังซื้อตก ถ้าเราแก้ได้ อย่างอื่นจะดีขึ้น

ขณะที่การส่งออก หอการค้าได้ขอร้องให้เจรจาเรื่องน้ำเชื่อมและทุเรียน ที่ไม่สามารถส่งออกจีนได้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี โดย รมว.พาณิชย์จะไปเจรจาเชิงรุกเต็มที่เพื่อให่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุน ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพ มีการทำงานเป็นทีมเพื่อช่วยผู้ประกอบการให้รอด นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยถึงการรับมือกับนโยบายการค้าของทรัมป์ ซึ่งได้ทราบว่า รัฐบาลได้ทำงานล่วงหน้าไปแล้ว และยินดีที่จะจับมือกับภาคเอกชนเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

อย่างไรก็ตาม การประชุมวันนี้ ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ยังได้รับฟังความเห็นและข้อเสนอต่างๆ จากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย การแก้ปัญหาส่งออกน้ำเชื่อมและน้ำตาลผสมล่วงหน้าไปจีน, การปนเปื้อนสาร BY2 ต่อการส่งออกทุเรียนไทย, การเตรียมการรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ, การเตรียมการรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ, การเร่งผลักดัน FTA เพื่อขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ ทั้งแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยูเรเซีย และทบทวน FTA ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด, การเข้าร่วมงาน China International Supply Chain Expo (CISCE) รวมทั้ง การรับฟังข้อเสนอถึงโอกาสและอุปสรรคการค้าในภูมิภาคต่างๆ เช่น ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา เวียดนาม.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยภาคเหนือ-ภาคใต้ ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 17 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย