“พิชัย” หารือหอการค้าฯ ชูจุดแข็งสร้างโอกาสการค้าไทย เร่งแก้ปัญหาหนี้

กรุงเทพฯ 17 มี.ค. – “พิชัย” ยกทีมพาณิชย์ หารือสภาหอการค้าฯ ย้ำร่วมมือภาคเอกชนเต็มที่ เร่งแก้ปัญหาหนี้สิน ชูจุดแข็งสร้างโอกาสการค้าไทย ลุยเจรจา FTA ดูแลสินค้าเกษตรใกล้ชิดปราบสินค้าด้อยคุณภาพ เชื่อสหรัฐระงับวีซ่าไทยจากปมอุยกูร์ ไม่กระทบการค้าการลงทุน


นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เข้าหารือกับคณะผู้บริหารหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ถึงแนวทางผลักดันการค้าการลงทุนของไทย ปี 2568 ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายพิชัย เปิดเผยว่านายกรัฐมนตรีมีนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจให้เข้มแข็ง วางเป้าหมายปี 2568 เศรษฐกิจขยายตัวเกิน 3% ซึ่งจากการหารือกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าฯ แห่งประเทศไทย เห็นว่าเครื่องจักรในการขยายตัวทางเศรษฐกิจเริ่มเดินแล้ว โดยปี 2567 การส่งออกขยายตัว 5.4% ขณะที่เดือนมกราคม 2568 ขยายตัวแต่ระดับถึง 13% คาดว่าเดือน ก.พ.68 ก็น่าจะดี ขณะที่การลงทุนปี 2567 ขยายตัว 1.14% โดยคาดว่าปีจะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นหรือไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา และเมื่อมีลงทุนเพิ่มขึ้นก็จะส่งผลให้การส่งออกขยายตัวเพิ่มขึ้น สอดรับกับที่ประเมินว่าการส่งออกจะเป็นเครื่องจักรสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโต ในภาพรวม เครื่องจักรทางเศรษฐกิจดีขึ้นทั้งหมด ทั้งการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยให้มีสินค้าส่งออกเพิ่มขึ้น ขณะที่การท่องเที่ยวมีแนวโน้มดี โดยปี 2568 คาดหวังจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39 ล้านคน มากขึ้นจากปี 2567 ที่มีนักท่องเที่ยว 36 ล้านคน

ส่วนปัญหาสำคัญในขณะนี้ คือหนี้ที่ยังค้างอยู่ระบบ โดยหนี้ครัวเรือนยังอยู่ในระดับสูงเกือบ 90% หนี้นอกระบบที่น่าจะเกิน 10% รวมเกิน 100% และพบว่าประชาชนเมื่อมีเงินก็นำไปจ่ายหนี้ จนทำให้ดูเหมือนเศรษฐกิจไม่ดี ทั้งๆ ที่เครื่องจักรทางเศรษฐกิจขับเคลื่อนไปค่อนข้างดี มีตัวเลขที่น่าพอใจแล้ว ต้องขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ร่วมกับหน่วยต่างๆ แก้ปัญหาหนี้ รวมทั้งขอให้สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และภาคเอกชน ช่วยกันคิดว่าจะแก้ปัญหาเรื่องหนี้กันอย่างไร โดยอยากให้ช่วยพิจารณาเสนอแนะแนวทางกันเข้ามา


นายพิชัย ยังกล่าวถึงนโยบายสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ที่ต้องการขับเคลื่อนร่วมกับภาคเอกชน เพื่อสร้างโอกาสการค้าไทย ประกอบด้วย การเร่งเจรจา FTA และเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ที่ทำสำเร็จไปแล้ว คือ FTA ไทย-เอฟต้า และ ไทย-ภูฏาน ที่กำลังเร่งเจรจาคาดว่าจะเซ็นข้อตกลงช่วงต้นเดือนเมษายนนี้ ต่อมาคือ FTA ไทย-อียู ซึ่งจากการหารือร่วมกับนายมารอส เซฟโควิช (H.E. Mr. Maroš Šefčovič) กรรมาธิการยุโรปด้านการค้าฯ ก็ตั้งเป้าร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดเพื่อให้สามารถบรรลุผลการเจรจา FTA ภายในวันที่ 25 ธันวาคม 2568 ส่วน FTA ฉบับอื่นๆ ก็จะเร่งเจรจา ทั้ง ไทย-เกาหลีใต้, ไทย-ยูเออี, อาเซียน-แคนาดา เพื่อใช้ประโยชน์จากข้อตกลงทั้งหมดนี้ในการขยายตลาด ลดต้นทุน เพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการ และดึงดูดนักลงทุน

ต่อมา คือการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ เพื่อปรับโครงสร้างการส่งออก ทั้ง AI Data Center และ PCB ซึ่งทยอยเข้ามาตั้งฐานการผลิตในไทยอย่างต่อเนื่อง และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้การส่งออกของไทยเพิ่มขึ้นในอนาคต, การชูไทยเป็นคลังอาหารของโลกเพื่อแก้ไขปัญหาความมั่นคงทางอาหาร ซึ่งประเทศตะวันออกกลางให้ความสนใจอย่างยิ่ง, การดูแลและผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตร ทั้งข้าว มันสำปะหลัง รวมทั้งการดำเนินนโยบายทลายทุนผูกขาดข้าว เปิดเสรีข้าว

การสร้าง Thailand Brand การันตีคุณภาพสินค้าของผู้ประกอบการรายย่อยของไทย, การปรับโฉม Thai SELECT เทียบชั้นมิชลินสตาร์,การส่งเสริมสินค้า Thailand Next Level เพื่อยกระดับแบรนด์สินค้าไทย, การแก้ปัญหาสินค้า/ธุรกิจต่างประเทศที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งล่าสุดได้มีการตั้ง คณะทำงานปราบปรามสินค้าและธุรกิจต่างประเทศผิดกฎหมาย เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบมาตรฐานสินค้า การจดทะเบียนธุรกิจ และธุรกิจนอมินีทั่วประเทศ เพื่อทำให้ความเข้มข้นของการปราบปรามดียิ่งขึ้น ไปจนถึง การเตรียมการรับมือต่อมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ


นายพิชัย ยังได้ตอบข้อซักถามสื่อมวลชน ถึงผลกระทบการส่งออกไทย-สหรัฐ จากกรณี รมว.ต่างประเทศ สหรัฐฯ ประกาศนโยบายข้อจำกัดวีซ่า เจ้าหน้าที่รัฐบาลไทยที่เป็นผู้รับผิดชอบหรือเกี่ยวข้องกรณีส่งชาวอุยกูร์ไปจีน โดยมองว่าจากการได้พุดคุยเชื่อว่าการค้าขายการเจรจายังสามารถทำได้ เพราะทุกคนยังต้องกลับมาทำธุรกิจ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์เองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับสหรัฐฯ ในหลายระดับ ทำให้มั่นใจว่าสุดท้ายสามารถเจรจาการค้าให้จบได้

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การชี้แจงข้อมูลต่างๆ เป็นประโยชน์ต่อหอการค้าไทยอย่างมาก ซึ่งได้เห็นเป็นปัญหาร่วมกันคือเรื่องหนี้ และเอสเอ็มอีที่เข้าไม่ถึงแหล่งเงินทุน ดีใจที่รัฐบาลแก้ปัญหาเรื่องรถกระบะที่มีการยึด แล้วช่วยคุยให้มีการปล่อยกู้ เพื่อให้เขามีรถใช้ทำมาหากิน วันนี้ กำลังซื้อตก ถ้าเราแก้ได้ อย่างอื่นจะดีขึ้น

ขณะที่การส่งออก หอการค้าได้ขอร้องให้เจรจาเรื่องน้ำเชื่อมและทุเรียน ที่ไม่สามารถส่งออกจีนได้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดี โดย รมว.พาณิชย์จะไปเจรจาเชิงรุกเต็มที่เพื่อให่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุน ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาสินค้าด้อยคุณภาพ มีการทำงานเป็นทีมเพื่อช่วยผู้ประกอบการให้รอด นอกจากนี้ ยังมีการพูดคุยถึงการรับมือกับนโยบายการค้าของทรัมป์ ซึ่งได้ทราบว่า รัฐบาลได้ทำงานล่วงหน้าไปแล้ว และยินดีที่จะจับมือกับภาคเอกชนเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน

อย่างไรก็ตาม การประชุมวันนี้ ผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ยังได้รับฟังความเห็นและข้อเสนอต่างๆ จากสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประกอบด้วย การแก้ปัญหาส่งออกน้ำเชื่อมและน้ำตาลผสมล่วงหน้าไปจีน, การปนเปื้อนสาร BY2 ต่อการส่งออกทุเรียนไทย, การเตรียมการรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ, การเตรียมการรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ, การเร่งผลักดัน FTA เพื่อขยายตลาดส่งออกใหม่ๆ ทั้งแอฟริกา ตะวันออกกลาง ยูเรเซีย และทบทวน FTA ที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด, การเข้าร่วมงาน China International Supply Chain Expo (CISCE) รวมทั้ง การรับฟังข้อเสนอถึงโอกาสและอุปสรรคการค้าในภูมิภาคต่างๆ เช่น ยุโรป ตะวันออกกลาง แอฟริกา เวียดนาม.-516-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” ปมร้องเรียนทุจริตเงินวัด-พัวพัน 3 สีกา

19 ก.ย. – สึกแล้ว “ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง” และเดินทางออกจากวัดทันที หลังก่อนหน้านี้มีการร้องเรียนเกี่ยวกับทุจริตเงินวัด และพัวพัน 3 สีกา เป็นภาพเอกสารที่พระธรรมสุธี เจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ส่งไปยังเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงกรณีของผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง พร้อมแนบภาพถ่ายการลาสิกขาของผู้ช่วยเจ้าอาวาส เอกสารระบุข้อความว่า “ตามที่มีประเด็นปรากฏในสื่อออนไลน์ และสื่อต่างๆ เกี่ยวข้องกับผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดหัวลำโพง ทางวัดหัวลำโพง ขอชี้แจงตามประเด็นดังต่อไปนี้ 1.กรณีพฤติกรรมชู้สาวของพระครูปริยัติวัฒนกิจ ทางวัดยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากเป็นเรื่องส่วนบุคคล2.กรณียักยอกงินวัดนั้น ทางวัดขอชี้แจงว่า ยังไม่พบหรือปรากฏหลักฐาน เนื่องจากหน้าที่ของพระครูปริยัติวัฒนกิจ เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ฌาปนสถานวัดหัวลำโพง มีหน้าที่ประสานงานกับเจ้าภาพที่มาติดต่อเกี่ยวกับการจองศาลาบำเพ็ญกุศล อีกทั้งฌาปนสถานวัดหัวลำโพง ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 5 รูป โดยมีเจ้าอาวาสเป็นประธาน และมีการทำบัญชีรายรับรายจ่ายในส่วนฌาปนสถานของวัดมาโดยตลอด 3.กรณีลาสิกขา ทางพระครูปริยัติวัฒนกิจ แจ้งความประสงค์ลาสิกขาด้วยความสมัครใจ เพื่อมิให้กระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของวัด และศรัทธาของสาธุชน โดยลาสิกขา 18 ก.ย. 2568 เวลา 19.10 น. และเดินทางออกจากวัดทันที ย้อนดูคำชี้แจง “อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ”ย้อนดูคำชี้แจงจากปากของอดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ ก่อนหน้านี้ที่ทีมข่าวได้พูดคุยผ่านทางโทรศัพท์ สำหรับเรื่องทุจริตเงินวัด อดีตพระครูปริยัติวัฒนกิจ บอกว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง ปกติหน้าที่เกี่ยวข้องกับเงินของตนเอง […]

เบื้องหลังละครกัมพูชา

สระแก้ว 19 ก.ย. – ชาวกัมพูชาที่บ้านหนองหญ้าแก้ว ยังไม่รามือ หลังพบความพยายามรวบรวมฝูงชนจากพื้นที่อื่น เข้ามาสร้างสถานการณ์ยึดดินแดนไทย อาจมีเบื้องหลังเป็นข้าราชการกัมพูชา-นายทุนต่างชาติ.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูเชิญถกอาเซียน ยันไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยได้

พรรคภูมิใจไทย 19 ก.ย.- “อนุทิน” รับ “อันวาร์” ยกหูหาเชิญร่วมประชุมอาเซียน ยันไม่มีใครเคลียร์-แทรกแซงรัฐบาลได้ หลัง “ฮุน มาเนต” ขอมาเลเซียเป็นตัวกลาง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยว่าได้โทรศัพท์พูดคุยเป็นการส่วนตัว โดยนายอนุทิน ยอมรับว่า เมื่อวานนายอันวาร์ได้โทรมาหา พูดคุยถึงการเชื้อเชิญว่า ถ้าหากตนได้รับตำแหน่งเรียบร้อยแล้วคงจะได้พบกันโดยเร็วที่สุด ซึ่งจะเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในช่วงเดือนหน้า ส่วนการพูดคุยถึงสถานการณ์ชายแดนจังหวัดสระแก้ว นายอนุทิน ระบุว่า ไม่ได้มีการพูดคุยในรายละเอียด อีกทั้งตนยังไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เนื่องจากยังไม่ได้เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งขณะนี้ก็ยังคงมีรัฐบาลรักษาการ เราให้เกียรติกัน “ผมรับตำแหน่งได้ ก็ต่อเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน ส่วนเรื่องนโยบาย ข้อสั่งการ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา ซึ่งขณะนี้เราก็ยังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ไว้ให้มากที่สุด” นายอนุทิน กล่าว ส่วนกรณีที่นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ร้องขอไปยังนายอันวาร์ เพื่อให้เข้ามาแทรกแซงการเจรจานั้น นายอนุทิน ยืนยันว่า ไม่มีใครแทรกแซงรัฐบาลไทยและอธิปไตยของไทยได้ ส่วนเรื่องการพูดคุย นายอนุทิน ย้ำว่า เราสามารถทำได้ เพราะเป็นคนที่คุ้นเคยรู้จักกัน […]

“อนุทิน” กินข้าว “อภิสิทธิ์” ขอคำแนะนำอดีตนายกฯ

กทม. 19 ก.ย.- “อนุทิน” โพสต์ภาพร่วมโต๊ะกินมื้อกลางวันคู่กับ “อภิสิทธิ์” บอกขอคำแนะนำอดีตนายกฯ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี โพสต์ภาพรับประทานอาหารกลางวันคู่กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 27 ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว พร้อมระบุข้อความว่า “ได้รับคำแนะนำที่มีประโยชน์และคุณค่ามากมายจากท่านนายกอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ได้ให้เกียรติมาให้กำลังใจและทานอาหารกลางวันด้วยกันในวันนี้ ขอบพระคุณท่านมากครับ” ทั้งนี้ ถือเป็นความเคลื่อนไหวแรกของนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ของนายอนุทิน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีอีกกระแสข่าว ที่เรียกร้องให้นายอภิสิทธิ์ กลับไปเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ -สำนักข่าวไทย