สมชัย  ชี้เหตุผลเซตซีโร่ กกต. ฟังไม่ขึ้น

เพชรบุรี 2 มิ.ย. – “สมชัย”  ระบุเหตุผลเซตซีโร่ กกต.ฟังไม่ขึ้น ยังมี กกต.บางส่วนคุณสมบัติครบตามรัฐธรรมนูญปี  60 แต่ยอมรับมติกรรมาธิการฯ เตรียมกลับไปทำงานพีเน็ต  


รร.ธารามันตรา  จ. เพชรบุรี  นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงข้อเสนอของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารญา ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่เสนอเซตซีโร่ กกต. ว่า เรื่องนี้เป็นสถานการณ์ที่เรียกว่ายิ่งกว่าสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่ตนเคยประเมินไว้ว่าอาจจะมีกรรมการที่ขัดคุณสมบัติต้องพ้นตำแหน่งแต่กรรมการที่คุณสมบัติครบก็ทำหน้าที่ต่อ   แต่การที่ กมธ.มีมติให้เซ็ตซีโร่ทั้งหมดนั้น   เป็นเรื่องที่เกินความคาดคิด แต่ก็ต้องขอขอบคุณ กมธ.ที่ยังให้ กกต.ชุดนี้ทำหน้าที่รักษาการต่อไปจนกว่าจะมีกกต.ชุดใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีเวลาทำงานที่เหลืออีก 4-6 เดือน ซึ่งในเวลานี้เราต้องทำงานให้เต็มที่และเตรียมการที่ดีที่สุด   ส่งมอบงานที่สมบูรณ์ที่สุดให้ กกต.ชุดใหม่ เตรียมระบบงานองค์กรให้มีประสิทธิภาพมีความพร้อม   อย่างไรก็ตามยืนยันว่า กกต.ชุดนี้จะทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งจนถึงการทำงานวันสุดท้าย

“ยืนยันไม่มีการอู้งาน กกต.มีความเห็นว่าเรื่องนี้เป็นกติกา  เมื่อผู้ออกกฎหมายเห็นว่าเป็นแนวทางที่เป็นผลดี  เราก็ยอมรับและต้องปฏิบัติตาม แต่ในแง่เหตุและผล ผมมองว่าควรจะหาเหตุและผลให้ดีกว่านี้   เพราะการที่ กมธ.ให้เหตุผลว่าอำนาจ กกต.ตามรัฐธรรมนูญใหม่มีอำนาจมากขึ้นก็ต้องให้ กกต.ที่มีคุณสมบัติสูงมาทำหน้าที่ ทั้งที่กกต.ปัจจุบันหลายคนยังมีคุณสมบัติครบตามรัฐธรรมนูญใหม่  แต่ทำไมต้องให้ออกทั้งชุด ซึ่งผมรู้สึกว่าเป็นเหตุผลไม่เพียงพอ  และกมธ.ก็จะต้องชี้แจงเรื่องนี้ให้ประชาชนเข้าใจว่าเหตุผลที่แท้จริงคืออะไร” นายสมชัย กล่าว และว่า วันที่ 9 มิ.ย.นี้ สนช.คงจะมีมติเป็นไปตามที่ กมธ.เสนอ   ซึ่งเราไม่ได้คาดหวังว่า สนช.จะมีความเห็นต่างออกไปจาก กมธ.


นายสมชัย กล่าวอีกว่า ภายใน 1-2  สัปดาห์นี้ ตนจะเรียกประชุมผู้บริหาร และพนักงาน สำนักงาน กกต. เพื่อหารือว่าอะไรเป็นงานที่สำคัญอันดับต้น ๆ และต้องเลือกทำให้สำเร็จ ซึ่งต้องยอมรับว่าระยะเวลาแค่นี้ไม่อาจทำทุกเรื่องได้ ต้องเลือกงานที่เป็นกลไกสำคัญที่ทำให้การเลือกตั้งมีประสิทธิภาพ ก่อนส่งมอบงานให้ กกต.ชุดใหม่ และจะไม่มี กกต.คนใดน้อยใจและชิงลาออกในระยะเวลารักษาการแน่นอน  เพราะนอกจากจะไม่แก้ปัญหาแล้ว   ยังเป็นการเพิ่มปัญหา ซึ่งหากลาออกหลายคนอาจจะทำให้องค์ประชุมไม่ครบ ไม่สามารถประชุมได้ ดังนั้นด้วยความรับผิดชอบ กกต.ก็จะเดินหน้าทำงานต่อไปอย่างเต็มที่

นายสมชัย กล่าวว่า หลังจากพ้นตำแหน่ง กกต.ก็จะทำหน้าที่ตรวจสอบการเลือกตั้งในฐานะองค์กรเอกชนต่อไป  ซึ่งตนจะหวนคืนสู่มูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) และจะทำให้พีเน็ตเข้มแข็ง เพื่อตรวจสอบการเลือกตั้งในอนาคตให้สุจริตและเที่ยงธรรม ซึ่งจะมีการประสานงานกับกกต.ชุดใหม่ เพื่อให้การเลือกตั้งในอนาคตเกิดผลดีและมีประสิทธิภาพ

เมื่อถามว่า กกต.จะทำความเห็นแย้งภายหลัง สนช.ผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวหรือไม่   นายสมชัย กล่าวว่า ตามกรอบเวลาหลังจากที่ สนช.มีมติผ่านกฎหมาย  ก็จะต้องส่งร่างฯ ให้ศาลรัฐธรรมนูญและ กกต.ภายใน 15 วัน  หลังจากนั้นหากเราตรวจสอบแล้วพบว่ามีประเด็นสาระที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ   ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของคุณสมบัติ ทาง กกต.ก็สามารถมีมติส่งเรื่องกลับไปยัง สนช.ภายใน 10 วัน   ซึ่งตามขั้นตอน สนช.ก็จะพิจารณาเพื่อดูว่าเป็นไปตามข้อเสนอของ กกต.หรือไม่ภายใน 30 วัน   ส่วน กกต.จะยื่นความเห็นแย้งหรือไม่คงตอบไม่ได้ ต้องรอดูกฎหมายก่อน ซึ่งเราจะต้องดูรายละเอียดบนพื้นฐานและเหตุผล ไม่ใช่บนพื้นฐานของประโยชน์ส่วนตัวเพื่อให้ประเทศชาติเป็นสังคมนิติรัฐ ปกครองด้วยกฎหมายอย่างแท้จริง ต้องมองประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก 


เมื่อถามว่ามองว่าข้อเสนอเซ็ตซีโร่ครั้งนี้เป็นการตั้งธงไว้ตั้งแต่แรกหรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า ส่วนตัวตอบไม่ได้ แต่ประเด็นที่เราเป็นห่วงแต่ก็คิดว่าจะไม่เกิดขึ้น คือ การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นมาตรฐานกับองค์กรอิสระอื่น ๆ หรือไม่  แต่องค์กรอื่นก็คงสบายใจได้   เพราะตนเชื่อว่ากฎหมายฉบับนี้จะใช้กับ กกต.เพียงองค์กรเดียว โดยอ้างว่า กกต.เป็นองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเลือกตั้ง จึงต้องดำเนินการเรื่องนี้ แต่การร่างกฎหมายที่เป็นมาตรฐานจะต้องปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันทุกองค์กร แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีการนำโมเดลนี้มาใช้กับองค์กรอื่น อาจมีเหตุผลอื่นมากล่าวอ้างเพื่อลดมาตรฐาน  มั่นใจว่าไม่กระทบกับการเลือกตั้ง เพราะหาก กกต.ชุดใหม่เข้ามาทำงานประมาณช่วงเดือนตุลาคมจะถือว่า กกต. ชุดใหม่มีเวลาทำงาน 1 ปี ในการเตรียมการจัดเลือกตั้ง 

ด้านนายภูมิพิทักษ์ กองแก้ว รองเลขาธิการ กกต.กล่าวว่า เรื่องการเซ็ตซีโร่เป็นปัญหาหนักใจของสำนักงาน กกต.เนื่องจากทำงานกับกกต.ชุดนี้งานกำลังเดินไปด้วยดี   แต่ถ้ามีกกต.ชุดใหม่ก็เชื่อว่าจะทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้สำนักงาน กกต.จะเตรียมความพร้อมเรื่องการส่งมอบงาน   ที่ผ่านมามีการปรับโครงสร้างเตรียมการเลือกตั้ง จัดอบรมด้านสืบสวนสอบสวน จะทำให้การเลือกตั้งสุจริต และเป็นองค์กรที่มีคุณธรรม .-สำนักข่าวไทย          

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากระเบิดกัมพูชา ทำพิธีลอยอังคาร

ชลบุรี 24 ส.ค. – 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุกัมพูชายิงจรวดตกใส่ ทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณกลางอ่าวสัตหีบ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก 5 ครอบครัวผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดของกัมพูชา เมื่อวันที่ 25 กรกฏาคม ประกอบด้วย ครอบครัวประชัน ซึ่งสูญเสียนางสาวรุ่งรัศ เด็กหญิงทักษพร และเด็กชายพงศภัค ครอบครัวเด็กชายกิตติศักดิ์ คำวัง ครอบครัวนางสาวอรุณรัตน์ วันศรี ครอบครัวนายสมศรี ลาภบุญ และครอบครัวนางสาวสาวิตรี อ่อนทรวง นำอัฐิผู้เสียชีวิต เดินทางจากจังหวัดศรีสะเกษ มายังกองเรือยุทธการ ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เพื่อทำพิธีลอยอังคาร ส่งดวงวิญญาณ โดยกองเรือยุทธการอำนวยความสะดวก สนับสนุนที่พัก รวมทั้ง จัดเรือกร.702 นำครอบครัวผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีกลางอ่าวสัตหีบ พิธีเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมเกียรติ ทุกคนต่างบอกว่า แม้จะผ่านมา 1 เดือน แต่ก็ยังทำใจไม่ได้ โดยเฉพาะครอบครัวประชัน ที่ต้องภรรยาและลูกอีก 2 คนไปพร้อมกัน.-สำนักข่าวไทย

ทบ. ตรวจสอบสาเหตุพลทหารเสียชีวิตที่ปราสาทตาเมือนธม

24 ส.ค. – กองทัพบกได้รับรายงานการเสียชีวิตของกำลังพลบริเวณปราสาทตาเมือนธม ปัจจุบันอยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุ พร้อมให้การช่วยเหลือเยียวยาตามสิทธิอย่างครบถ้วน กองทัพบกขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของ พลทหาร พิทยุตท์ โสดา กำลังพลสังกัด กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 ซึ่งเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2568 เวลา 18.15 น. โดยพบร่างผู้เสียชีวิตภายในห้องสุขา บริเวณหน้าปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ พลทหารพิทยุตท์ โสดา อายุ 20 ปี เป็นทหารกองประจำการ รุ่นปี 1/67 จากการสมัครใจเข้ามารับราชการในโครงการพลทหารออนไลน์ ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง พลปืนเล็ก หมู่ปืนเล็กที่ 2 หมวดปืนเล็กที่ 1 สังกัด กองร้อยทหารราบที่ 211 กองพันทหารราบที่ 21 หน่วยเฉพาะกิจที่ 2 จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้เสียชีวิตไม่มีโรคประจำตัว ไม่มีประวัติเสพยาเสพติด ไม่มีภาวะความเครียด […]

แจงปมเลขบัตรประชาชน “หลวงพ่ออลงกต” ซ้ำคนตาย

กทม. 24 ส.ค.-กรมการปกครอง แจงปม “เลขประจำตัวประชาชน” หลวงพ่ออลงกต ซ้ำกับคนตาย ส่วนการเปิดพร้อมเพย์ เลขบัตรประจำตัวประชาชนของผู้ตาย ซึ่งตรงกับบัญชีกองทุนอาทรประชานาถ เป็นการดำเนินการโดยธนาคารพาณิชย์ กรณีมีรายงานว่า หลวงพ่ออลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งมีชื่อเดิมว่า นายอลงกต พูลมุข มีชื่อซ้ำกับ นายอลงกต พลมุข ที่มีภูมิลำเนาที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา และได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น รวมทั้งวันเดือนเกิดยังตรงกัน ต่างกันเพียงปีเกิด ล่าสุดเฟซบุ๊ก กรมการปกครอง fanpage ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า “กรมการปกครอง ชี้แจงกรณีเลขบัตรประจำตัวประชาชนของหลวงพ่ออลงกต ตามที่ปรากฏข้อมูลจากสื่อมวลชนว่า ‘หลวงพ่ออลงกต มีเลขประจำตัวประชาชนตรงกับนายอลงกต พลมุข ซึ่งเป็นบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว’ นั้น สำนักบริหารการทะเบียน กรมการปกครอง ได้ตรวจสอบฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรของกรมการปกครอง พบว่า พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เลขประจำตัวประชาชน x-xxxx-xxx036-50-7 ชื่อจริง อลงกต พูลมุข นามสกุล พูลมุข มีสระอู เกิดปี […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]