กรุงเทพฯ 25 พ.ค. – ธนาคารออมสิน เผยเป้าหมายปี 2560 กับ 6 กุญแจสำคัญ ส่วนผลการดำเนินงาน 4 เดือนแรก ปี 2560 มีกำไรสุทธิ 8,656 ล้านบาท
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยถึงทิศทางการดำเนินงานในปี 2560 ว่า ธนาคารออมสินดำเนินงานภายใต้ยุทธศาสตร์สู่ GSB New Century เดินหน้าด้วยภารกิจหลัก 6 ด้านสำคัญ คือ บริหารแบบเศรษฐกิจพอเพียง – ส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงิน – ธนาคารผู้สูงวัย – แก้หนี้นอกระบบ – SMEs Start up และ Digi-Thai Banking
สำหรับการบริหารแบบเศรษฐกิจพอเพียง จะนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้แก่ รู้ตัวตน พอประมาณ เหลือเก็บ แบ่งปัน และยั่งยืน มาใช้เป็นแนวทาง ในการบริหารจัดการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยได้ดำเนินการไปแล้ว คือ บัตรเครดิต ที่กำหนดวงเงินที่เหมาะสมกับวิธีการใช้ด้วยแนวคิด “สุขแบบไทย ใช้แบบพอเพียง” และกำลังจะดำเนินการต่อในประเภทสินเชื่อเคหะ ภายใต้แนวคิด “รู้จักประมาณตน กู้ตามฐานะ” โดยไม่สนับสนุนการกู้เงินมากถึงแม้จะมีความสามารถที่จะกู้ได้มากก็ตาม
สำหรับด้านที่เป็นภารกิจของธนาคารออมสิน คือ ส่งเสริมการออมและสร้างวินัยทางการเงิน จากรูปแบบเดิมที่ใช้สัญลักษณ์กระปุกออมสินเป็นหลัก ส่งเสริมให้ออมเงินในวัยเด็ก เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนจะต้องมีมุมมองที่กว้างขึ้น จึงกลายเป็น การออมเศรษฐกิจ ออมสังคม และออมสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้วิธีการสร้างวินัยทางการเงินในยุคดิจิตอล เช่น การทำบัญชีครัวเรือนผ่านแอพพลิเคชั่น ส่งเสริมให้ลูกค้าในระดับฐานรากทั้ง Micro SMEs และ SMEs ทำบัญชีระบบบัญชีเดียว ด้านที่ 3 ธนาคารผู้สูงวัย รองรับการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย โดยธนาคารออมสินเปิดตัวพร้อมที่จะดูแลทางด้านการเงินของผู้สูงวัยให้มีความมั่นคง ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา ทั้งด้านเงินฝากและสินเชื่อ ได้แก่ เงินฝากเผื่อเรียกประชารัฐผู้สูงวัย, เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษผู้สูงวัย, สินเชื่อประชารัฐเพื่อผู้สูงวัย, สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ (Reverse Mortgage) และ สินเชื่อเคหะลูกกตัญญูดูแลบุพการี ซึ่งจะรองรับผู้สูงวัยได้ทุกกลุ่ม รวมถึงมีกิจกรรมต่อเนื่องจากผลิตภัณฑ์ดังกล่าว
นอกจากนี้ ยังมีภารกิจที่สำคัญ แก้ไขหนี้นอกระบบ มีวงเงินดำเนินการ 5,000 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลได้มีนโยบายให้ดำเนินการเร่งด่วน ภายใต้โครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน ให้วงเงินกู้รายละไม่เกินครอบครัวละ 200,000 บาท ซึ่งธนาคารออมสินได้เปิดให้มีการลงทะเบียนตั้งแต่เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2560 และจะสิ้นสุด วันที่ 31 พฤษภาคมนี้ ปัจจุบันมีจำนวนผู้มาลงทะเบียนรวมแล้วกว่า 140,000 ราย วงเงินรวม 6,600 ล้านบาท ยื่นเอกสารพร้อม แล้วเกือบ 100,000 ราย ธนาคารฯ อนุมัติสินเชื่อไปแล้วกว่า 15,000 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อกว่า 600 ล้านบาท อีกทั้งยังมีช่องทางให้ยื่นกู้ได้ในรูปแบบอื่นทั้ง พิโกไฟแนนซ์ และสถาบันการเงินชุมชน อีกด้วย
ด้านที่ 5 SMEs Start up เมื่อต้นปี 2559 ธนาคารออมสินได้นำเสนอโครงการ SMEs Start up Thailand เพื่อเป็นแนวทางจุดประกายให้ SMEs และ Start up ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุน ดำเนินธุรกิจบนความรู้ ความคิดสร้างสรรค์ ใช้นวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งได้เปิดโอกาสให้ธุรกิจรายเล็ก รายย่อยได้เข้าถึงแหล่งทุน พัฒนาศักยภาพและมีตลาดค้าขาย ซึ่งในปีนี้ธนาคารฯ ได้ปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 508 ราย คิดเป็นวงเงิน 1,821 ล้านบาท อีกทั้ง ยังสนับสนุนเงินลงทุนผ่านกองทุนร่วมลงทุน Venture Capital จัดตั้งเป็น SMEs Private Equity Trust Fund วงเงิน 2,000 ล้านบาท มีการร่วมลงทุนไปแล้ว 6 ราย คิดเป็นวงเงิน 165 ล้านบาท
ภารกิจสุดท้าย Digi-Thai Banking ธนาคารฯ ได้พัฒนารูปแบบการให้บริการไม่ว่าจะเป็นสาขา จะเป็นสาขาดิจิตอล ที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง บริการธนาคารชุมชน ในแนวคิดออมสินเพื่อชุมชน รวมถึง Mobile Banking ในชื่อ MyMo โดยล่าสุดใช้ QR Code ถอนเงินสดได้ที่ตู้เอทีเอ็ม โดยไม่ต้องใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งต่อไปจะมีบริการชำระเงินที่ร้านค้าด้วย QR Code รวมถึง “Chill Chill Finance” ยื่นขอสินเชื่อธนาคารประชาชนผ่าน MyMo และเงินฝาก No Book สามารถเลือกระยะเวลาฝากได้
นายชาติชาย กล่าวอีกว่า การสนับสนุนนโยบายรัฐที่สำคัญในปี 2560 ที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ สินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน สินเชื่อประชารัฐเพื่อประชาชน มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ในระดับหมู่บ้าน โครงการเพิ่มศักยภาพกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง สินเชื่อซอฟท์โลนสำหรับ SME บ้านประชารัฐ โครงการสวัสดิการแห่งรัฐ และ National e-Payment
ทั้งนี้ ในปี 2560 ธนาคารฯ ตั้งเป้าหมายการขยายตัวของสินเชื่อที่ 3% หรือเพิ่มขึ้นสุทธิ 58,000 ล้านบาท เงินฝากขยายตัว 3% หรือเพิ่มขึ้นสุทธิ 64,000 ล้านบาท และคาดว่าจะมีกำไรสุทธิประมาณ 21,000 ล้านบาท
ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวต่อไปว่า สำหรับผลการดำเนินงานธนาคารออมสินช่วง 4 เดือนแรก ของปี 2560 (1 มกราคม ถึง 30 เมษายน 2560) ธนาคารฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 8,656 ล้านบาท ส่วนสำคัญมาจากรายได้ดอกเบี้ย โดยสินเชื่อคงเหลือ ณ วันที่ 30 เมษายน 2560 อยู่ที่ 1,975,518 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.9% จากสิ้นปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ 1,901,851 ล้านบาท
ขณะที่ เงินฝากลดลง 2.8% อยู่ที่ 2,098,321 ล้านบาท จากสิ้นปี 2559 อยู่ที่ 2,159,136 ล้านบาท ส่งผลให้สินทรัพย์รวมลดลงเล็กน้อย 0.6% จาก 2,509,588 ล้านบาท เมื่อสิ้นปี 2559 มาอยู่ที่ 2,494,045 ล้านบาท – สำนักข่าวไทย