กรุงเทพฯ 3 พ.ย.-ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสขวัญใจชาวไทย เป็นนักกีฬาอีกคนหนึ่งที่มีโอกาสเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทำให้เขามีแรงใจ และพัฒนาผลงานจนก้าวไปเป็นมือ 9 ของโลก
“ซูเปอร์บอล” ภราดร ศรีชาพันธุ์ เป็นอดีตนักเทนนิสที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์วงการลูกสักหลาดไทย มีชื่อเสียงอยู่ในระดับโลก แต่ในฐานะการเป็นนักกีฬาไทย สิ่งหนึ่งที่ตัวเขายังไม่เคยลืม คือ การได้มีโอกาสเข้าเฝ้า “กษัตริย์นักกีฬา” พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถึง 2 ครั้ง
การเข้าเฝ้าครั้งแรกใช้เวลา 20 นาที เป็นช่วงเวลาหลังจากที่เขาคว้าแชมป์รายการทีดี วอเตอร์เฮาส์ ที่ลองไอส์แลนด์ และรายการสตอกโฮล์ม โอเพ่น ในปี 2545 ครั้งนั้นเขาแต่งตัวสุภาพที่สุด และพยายามหมอบกราบอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ทูลเกล้าฯ ถวายถ้วยรางวัล พระองค์มีพระราชดำรัสกับเขาว่า “เก่งมาก มีความสามารถด้านกีฬา เราจะเก็บถ้วยใบนี้ไว้ให้แขกบ้านแขกเมืองได้ดู” และยังพระราชทานข้อคิดแก่ภราดรไว้ 2 เรื่อง คือ “รู้กีฬา ต้องรู้ให้จริง” และอีกเรื่องเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ “น้ำใจนักกีฬา”
พระราชกระแสที่เขารู้สึกตื้นตันใจมากที่สุด คือ ตอนที่พระองค์มีพระราชปฏิสันถารกับนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ นายกลอนเทนนิสสมาคมฯ ในขณะนั้นว่า “สุวัจน์ ดูแลภราดรให้ดี ภราดร เป็นสมบัติของชาติ” ซึ่งตัวเขายังจำช่วงเวลานั้นได้ดีจนทุกวันนี้ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ยังได้พระราชทาน “เหรียญพระมหาชนก” หรือเหรียญแห่งความเพียร แก่ภราดรในวันนั้นด้วย
ต่อมาภราดร สามารถป้องกันแชมป์ที่ลองไอส์แลนด์ได้อีกสมัย พร้อมทั้งก้าวขึ้นไปรั้งมือ 9 ของโลก ครั้งนี้ตัวเขาได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ อีกครั้งที่พระราชวังไกลกังวล จ.ประจวบคีรีขันธ์ และทูลเกล้าฯ ถวายถ้วยรางวัลเช่นเคย ครั้งนี้ใช้เวลานานถึงราว 40 นาที โดยพระองค์ทรงมีพระราชปฏิสันถารกับภราดรอย่างเป็นกันเอง ทำให้ภราดร รู้สึกประทับใจ และถ้วยรางวัลถ้วยที่ 2 พระองค์มีพระราชประสงค์ให้ภราดร เก็บไว้เอง เขาและครอบครัว จึงนำไปไว้ในบ้านเกิดที่ จ.ขอนแก่น
นักเทนนิสจอมแกร่งยอมรับว่า ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขา ประสบความสำเร็จในวงการเทนนิสได้ถึงขนาดนี้ เป็นเพราะมีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ
ภราดร ย้ำว่า ทุกวันนี้นักกีฬารุ่นหลังสามารถน้อมนำข้อคิดเรื่องความเพียร การหมั่นฝึกซ้อม และความมีน้ำใจนักกีฬา มาปรับใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ทรงฝากไว้ให้นักกีฬาไทย ไม่เพียงแต่จะเป็นนักกีฬาที่มีความสามารถเท่านั้น แต่จะเป็นนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จอย่างสง่างาม.-สำนักข่าวไทย