กรุงเทพฯ 22 พค. – กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในช่วง 34.20-34.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังแข็งค่าสุดรอบกว่า 1 เดือน
ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ว่า มีแนวโน้มแข็งค่าและเคลื่อนไหวในกรอบ 34.20-34.60 ต่อดอลลาร์ หลังเปิดตลาดเอเชียซื้อขายที่ระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 1 เดือน เทียบกับระดับปิดแข็งค่าที่ 34.38 บาทต่อดอลลาร์สัปดาห์ที่แล้ว โดยเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็วตามทิศทางสกุลเงินภูมิภาค ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นด้วยมูลค่า 2,200 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 6,300 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการซื้อพันธบัตรอายุไม่เกิน 1 ปี
ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า แนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หลังเดือนมิถุนายนมีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น หลังประเด็นการเมืองสหรัฐทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อแผนการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะล่าช้าออกไป ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจยุโรปบ่งชี้สัญญาณที่แข็งแกร่ง ทำให้ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐและเยอรมันแคบลงต่อเนื่อง และนักลงทุนจะจับตาท่าทีของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ต่อการปรับสมดุลนโยบายการเงินระยะต่อไป
สำหรับปัจจัยในประเทศ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 1.50 วันที่ 24 พฤษภาคม โดยล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่าหนี้สินภาคครัวเรือนซึ่งเคยสูงกว่าร้อยละ 80 ต่อจีดีพี มีแนวโน้มลดลงอย่างช้า ๆ หลังสินเชื่อจากโครงการรถยนต์คันแรกทยอยหมดลงและเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มดีขึ้น ธปท.กล่าวว่า ยังติดตามดูแลค่าเงินบาทเป็นปกติ โดยหากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเดือนมิถุนายน ทางการเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินมากนัก เนื่องจากตลาดรับรู้การคาดการณ์ดังกล่าวไปแล้ว ท่าทีของ ธปท.สะท้อนว่านโยบายการเงินของไทยในปัจจุบันยังเอื้อต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ขณะที่ภาคส่งออกและการบริโภคภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น แต่เงินเฟ้อยังคงกระเตื้องขึ้นช้ากว่าที่ประเมินไว้ รวมถึงทิศทางแข็งค่าของเงินบาท สนับสนุนมุมมองของกลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ที่ว่า กนง.จะยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้.-สำนักข่าวไทย