ทีมสหวิชาชีพประชุมหารือกรณีสองแม่ลูกชาวกัมพูชา

สุรินทร์ 29 ส.ค. – พมจ.สุรินทร์ ร่วมกับอัยการ ทีมสหวิชาชีพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือกรณีสองแม่ลูกชาวกัมพูชา เพื่อหาทางช่วยเหลือตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กไม่ว่าจะสัญชาติหรือเชื้อชาติใด จากกรณีดรามาครู-นักเรียนร้องไห้กอดกัน หลังตำรวจพาแม่ชาวกัมพูชาไปนำตัวเด็กชายอายุ 13 ปี ออกจากโรงเรียน เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา หลังพบว่าไม่มีเอกสารที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะให้ทั้งสองแม่ลูกมาพักที่บ้านเด็กและครอบครัว จ.สุรินทร์ วันนี้ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสุรินทร์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ปกครอง อัยการจังหวัด และทีมสหวิชาชีพ เจ้าหน้าที่ ตม.สุรินทร์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมหารือถึงแนวทางการช่วยเหลือเด็กชายกัมพูชาวัย 13 ปี เพื่อให้ได้เรียนหนังสือในไทยต่อได้อย่างไรบ้าง รวมทั้งแม่อายุ 41 ปี โดยผู้เป็นแม่จะดำเนินการผลักดันกลับประเทศหรือดำเนินการอย่างไรต่อ เนื่องจากเด็กชายยังเป็นเด็กและต้องได้รับความดูแลจากแม่ ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก มาตรา 22 ด้วยการดูแลเด็กไม่ว่าจะสัญชาติหรือเชื้อชาติใด ถ้าอาศัยอยู่ในประเทศไทยจะต้องได้รับการคุ้มครองทั้งสิทธิและสวัสดิภาพ เบื้องต้นแนวทางให้การช่วยเหลือ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ ร่วมสำนักงานเขตพื้นที่มัธยม ศึกษาเขต 33 ลงพื้นที่สอบข้อเท็จจริงที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสุรินทร์ โดยมีการแนะนำข้อกฎหมายและแนวทางการช่วยเหลือให้กับแม่และเด็ก และได้แจ้งอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ข้อ 22 […]

อ.ปริญญา ชี้จับเด็ก 13 ส่งกลับกัมพูชาผิดสิทธิเด็ก

28 ส.ค. – อ.ปริญญา ชี้จับเด็ก 13 ส่งกลับกัมพูชาผิดอนุสัญญาสิทธิเด็ก ด้าน “สุนัย” ที่ปรึกษาองค์กรฮิวแมนไรท์ วอทช์ ประจำประเทศไทย โพสต์ล่าสุด ระบุน้องได้อยู่เรียนหนังสือในไทย ไม่โดนเนรเทศ อ.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นนี้ ใจความสรุปว่าประเทศไทยเป็นประเทศภาคี ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก การจับกุมเด็กและส่งเด็กออกไปนอกประเทศเช่นนี้ จึงเป็นการผิดอนุสัญญาสิทธิเด็กอย่างรุนแรง และเสื่อมเสียชื่อเสียงของประเทศ การที่ตำรวจสุรินทร์ ไปจับกุมเด็กโดยไม่มีหมายจับ และไม่ได้มีเหตุทำผิดซึ่งหน้าหรือหลบหนี และไปจับในโรงเรียน จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย นอกจากนี้ยังผิดกฎหมายในเรื่องการคุ้มครองเด็ก ประเทศไทยเป็นประเทศภาคีอนุสัญญาสิทธิเด็ก กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มีการทำ MOU กับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งจะไม่มีการจับกุมและส่งเด็กที่ไม่มีสัญชาติไทยออกนอกประเทศโดยที่ยังไม่มีการหาแนวทางช่วยเหลือที่เหมาะสม อัยการ วอนเสพข่าวเด็กกัมพูชา 13 ปี ให้รอบด้าน นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไทย ถึงกรณีนี้ว่า เรื่องนี้หากมองตามหลักกฎหมายก็ต้องยอมรับว่าผิดจริง จึงอยากให้ สังคมที่ติดตามข่าวนี้ดูตามข้อเท็จจริง ไม่ใช่ใช้ความสงสารเป็นที่ตั้ง […]

เด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว

สุรินทร์ 28 ส.ค.-รองผู้ว่าฯ สุรินทร์ เผยเด็กชายวัย 13 ปี กลับกัมพูชาพร้อมแม่แล้ว หากพิสูจน์ไม่ได้ว่าน้องเป็นคนไทย น้องยังต้องได้รับสิทธิตามอนุสัญญาหลักสิทธิเด็ก เข้ารับการศึกษาต่อไป นายประภาส ศรีจันทร์เวียง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยว่า ขณะนี้ พมจ.สุรินทร์ ตม.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กำลังดูแลน้องอายุ 13 ปี ที่มีแม่เป็นชาวกัมพูชาและทั้งคู่ถูกแจ้งจับเนื่องจากเป็นคนต่างด้าวอยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมายและไม่มีใบอนุญาต ได้รับรายงานว่า เด็กชาย อายุ 13 ปีรายนี้ เกิดที่ จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา ส่วนแม่ทำงานในบ่อนการพนันที่ช่องสะงำ จากนั้นก็ได้เดินทางกลับประเทศโดยถูกกฎหมาย และคลอดน้องที่ประเทศกัมพูชา ก่อนจะกลับมาประเทศไทยอีกครั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต และลอบอยู่ในประเทศไทย โดยน้องได้รับการศึกษาในประเทศไทยตั้งแต่ ป.1 จนกระทั่งปัจจุบันคือ ม.1 ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการพาน้องอายุ 13 ปี ตรวจดีเอ็นเอ เนื่องจาก พมจ.สุรินทร์ ได้รับข้อมูลจากฝ่ายแม่เด็กว่า พ่อที่แท้จริงของน้องคือ ชายไทยที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยืนยันความจริงได้ นอกจากการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น เพื่อดำเนินการทางกฎหมายในขั้นตอนต่อไป เช่น หากพิสูจน์ได้ว่า น้องมีบิดา […]

“ภูมิธรรม” ทราบข้อมูลเด็กกัมพูชาแล้ว ยันจะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด

ทำเนียบ 28 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ทราบข้อมูลเด็กกัมพูชาแล้ว ขออย่ากังวล เผยหลายส่วนจะหาช่องทางกฎหมายดำเนินการต่อ ยืนยันจะแก้ปัญหาให้ดีที่สุด ชี้กฎหมาย-หลักมนุษยธรรม ต้องไปด้วยกัน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เด็กนักเรียนชาวกัมพูชา อายุ 13 ปี ถูกตำรวจจับกุมข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าว ว่า ตนเองทราบเรื่องนี้เมื่อเช้า ก็เป็นเรื่องความสะเทือนใจของครูอยู่ในโรงเรียนทั้งหมด เพราะเห็นเด็กตั้งเแต่เล็ก ๆ ซึ่งตนเองเข้าใจว่าเป็นลูกครึ่ง ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นพ่อหรือแม่ที่เป็นคนไทย ซึ่งเด็กดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาที่จะสร้างปัญหาภายในประเทศ ส่วนความผิดก็คงจะเป็นเรื่องการลักลอบเข้าประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจ เพราะถึงขนาดคุณครูได้ระบายลงในโซเชียล สะท้อนถึงความสะเทือนใจ และเมื่อเช้าตนเองได้สั่งการให้นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ประสานงานไปที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งทุกฝ่ายได้รับทราบข้อมูลแล้ว ยืนยัน ว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะให้เกิดความสะเทือนใจเช่นนี้ เพราะเป็นเรื่องของกฎหมายซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม ไม่เช่นนั้นจะโดนร้องเรื่องการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่เมื่อทราบเหตุการณ์แล้ว ตนว่าก็ต้องดูเป็นกรณี ๆ ไป โดยกรณีของเด็กดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาที่จะหลบหนี หรือมีเจตนาที่ทำให้สังคมไทยเกิดความไม่มั่นคง เพราะมีตัวตน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งทุกภาคส่วนกำลังคิด และหาทางออกอยู่ […]

หนูน้อยชาวกัมพูชาวัย 7 ขวบ ซุกซนนิ้วติดลูกบิดประตู

อุทาหรณ์ความซุกซนเป็นเหตุ ด.ญ.กาน วัย 7 ขวบ ชาวกัมพูชา ใช้นิ้วแหย่ลูกบิดประตู ทำให้นิ้วติดรูลูกบิดประตู ถูกนำส่งโรงพยาบาลบ้านโพธิ์ ฉะเชิงเทรา ในสภาพนิ้วชี้ด้านขวายังติดอยู่ในลูกบิด

...