กรุงเทพฯ 14 ส.ค – กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผยธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลชะลอตัว สินเชื่อเพื่อรายย่อยเติบโตช้า หลายปัจจัยกดดัน เศรษฐกิจเปราะบาง คนรัดเข็มขัด ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย ชี้ min pay 8% ยังเหมาะสม เผยครึ่งแรกปี 68 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 191,400 ล้านบาท, ยอดสินเชื่อใหม่ 45,400 ล้านบาท, ยอดสินเชื่อคงค้าง 136,000 ล้านบาท ครึ่งปีหลังเน้นการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวัง
นายอธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต สมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่าสภาพเศรษฐกิจปีนี้แนวโน้มชะลอลง เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ภาระหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ที่สูง, สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศ, การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ระหว่างประเทศ เช่น นโยบายการจัดเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ของสหรัฐฯ ซึ่งอาจกระทบการส่งออก, สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งล้วนมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ส่งผลให้ธุรกิจบัตรเครดิตมีแนวโน้มหดตัวลง อีกทั้งสถาบันการเงินมีแนวโน้มเพิ่มความเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อเพื่อควบคุมความเสี่ยง ในขณะที่ผู้บริโภคหลายกลุ่มเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่ายจากความกังวลเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ผู้ประกอบการต้องเร่งปรับตัว


สำหรับการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตที่ 8% (min pay) ในมุมผู้ประกอบการมองว่าเป็นจุดที่พอดี เนื่องจากเมื่อมองในส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ค่อนข้างคงที่ ไม่ได้มีอัตราการผิดนัดชำระอย่างมีนัยยะสำคัญ อย่างไรก็ตาม กำลังอยู่ระหว่างการหารือกับ ธปท. ในเรื่องดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงสินเชื่อของสถาบันการเงินภายใต้การกำกับของ ธปท. และรัฐบาล มองว่าเป็นโจทย์ใหญ่ แต่ยังมีโจทย์อื่นอยู่ด้วย ทั้งภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังสูง เพดานดอกเบี้ย ที่เกี่ยวโยงกัน ซึ่งสถาบันการเงินและผู้ประกอบการออกสินเชื่อให้กับผู้บริโภคมากขึ้นอยู่แล้ว แต่ต้องดูปัจจัยอื่นๆด้วย อาทิ ดอกเบี้ย วิธิการ ข้อกำหนดต่างๆ ซึ่งเรามีการหารือ ทั้งในชมรมธุรกิจบัตรเครดิตและ ธปท. ส่วนหลักเกณฑ์ Responsible Lending (RL) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่กำหนดให้สถาบันการเงินให้บริการสินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบและเป็นธรรม มองว่า ยังไม่มีความจำเป็นต้องปรับ ยังสามารถไปต่อได้อีกระยะ แล้วจึงค่อยมาทบทวนก็ได้
นายอธิป ศิลป์พจีการ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด และประธานชมรมสินเชื่อส่วนบุคคล ภายใต้สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงและภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงส่งผลให้ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง โดยผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้สินเชื่อมากขึ้น และต้องการลดภาระการใช้สินเชื่อในสถานการณ์ความไม่แน่นอนจึงส่งผลให้มีการใช้สินเชื่อที่ลดลง ขณะที่ผู้ประกอบการก็ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ควบคู่กับมาตรการการควบคุมของหน่วยงานภาครัฐ ส่งผลให้ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ลดลง จึงเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการในการปล่อยสินเชื่อในสภาพตลาดที่มีการแข่งขันสูง
นอกจากนี้ ยังพบผู้บริโภคมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไป เลือกผ่อนชำระเป็นรายเดือนมากขึ้น เพื่อควบคุมการใช้จ่ายเพื่อให้มีสภาพคล่องเพียงพอในการผ่อนชำระ เพื่อที่จะไม่เป็นหนี้เสีย ชำระคืนมากกว่ายอดชำระขั้นต่ำ แปลว่าคุณภาพหนี้ดีขึ้น คาดว่าแนวโน้มตลาดหดตัวไปจนถึงปีหน้า
ส่วนมาตรการแก้หนี้ ชมรมสินเชื่อส่วนบุคคลประสานกับ ธปท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเข้าร่วมโครงการ แต่ปัจจุบันพบปัญหาคือไม่สามารถติดต่อลูกค้าส่วนใหญ่ได้ ยอมรับเมื่อเป็นหนี้เสียแล้ว การติดต่อยากมาก แต่เมื่อติดต่อได้และมีการพูดคุยแนวทางช่วยเหลือได้ไม่มีปัญหา
สำหรับสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่ยังอยูในระดับสูงนั้น สินเชื่อส่วนบุคคลถือเป็นตัวช่วยผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็ถูกเพ่งเล็งว่าจะทำให้หนี้ครัวเรือนนี้สูงขึ้นหรือไม่ ยืนยันว่าสินเชื่อส่วนบุคคลมีไว้เพื่อช่วยผู้บีฝริโภคที่มีความจำเป็นจริงๆ ส่วนต้องมีการปรับเกณฑ์ต้องรอดูสถานการณ์ ส่วนเกณฑ์ RL ผู้ประกอบการได้ปฏิบัติเป็นไปตามแนวนโยบายของ ธปท.
ข้อมูลจากพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในกลุ่มกรุงศรีคอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส ตั้งแต่เดือนมกราคม – มิถุนายน 2568 ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มรายได้สูง ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก สร้างยอดใช้จ่ายผ่านบัตรกว่า 40% ของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ผู้บริโภคทุกกลุ่ม ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้น ลดการใช้จ่ายในหมวดฟุ่มเฟือย เช่น สินค้าแฟชั่น, ตกแต่งบ้าน,สุขภาพและความงาม เลือกผ่อนชำระใน 3 หมวดหลักมากขึ้น ได้แก่ ช้อปออนไลน์, ประกัน, ตกแต่งยานยนต์ ใช้จ่ายผ่านบัตรมูลค่าสูงสุดในหมวดประกันภัย สะท้อนว่าเน้นการใช้จ่ายในหมวดที่จำเป็นและการวางแผนระยะยาวมากขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเติบโตช้า
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2568 ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ภาพรวมเติบโตดีกว่าตลาดทั้งในแง่ของจำนวนบัตรและยอดใช้จ่ายผ่านบัตร โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 191,400 ล้านบาท, ยอดสินเชื่อใหม่ 45,400 ล้านบาท, ยอดสินเชื่อคงค้าง 136,000 ล้านบาท และยอดบัญชีลูกค้าใหม่ 273,700 บัญชี ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน อยู่ที่ระดับ 1.2% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.3% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจจากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม ทั้งนี้ จากปัจจัยท้าทายต่างๆ ในช่วงครึ่งปีหลังกรุงศรี คอนซูมเมอร์ จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับสภาวะตลาด โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง เพื่อรักษาระดับผลการดำเนินงาน มุ่งสร้างความเติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมบริหารต้นทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยนำการวิเคราะห์ข้อมูลและเทคโนโลยี AI มาใช้ในการทำการตลาดเพื่อให้เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น, ปรับกลยุทธ์การตลาดและวิธีทำโปรโมชันโดยใช้ศักยภาพและเครือข่ายพันธมิตรของกลุ่มบริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ, พร้อมปรับจุดขายผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและสินเชื่อให้มีจุดเด่นและสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ายิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้จ่ายผ่านบัตรเป็นบัตรหลักในชีวิตประจำวันและเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตร รวมถึงขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง. -516-สำนักข่าวไทย