ถอดสลักกับดักการเงิน: คาถาป้องกันภัยฉบับนักสืบไซเบอร์  l “Sure” Cyber Unlock ถอดสลักกับดักไซเบอร์

“มีสติ อย่าโลภ อย่าคลิก อย่าโอน”


ปลายทางของภัยไซเบอร์ส่วนใหญ่มักจบลงที่การสูญเสียทรัพย์สิน ด้วยเหตุนี้ โครงการ “นักสืบสายชัวร์ 404: ถอดสลักกับดักไซเบอร์” จึงได้ยกทัพไปจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ในธีม “กับดักการเงิน” ณ โรงเรียนสมุทรสาครวุฒิชัย จ.สมุทรสาคร โดยมีนักเรียนจากอีก 3 โรงเรียนข้างเคียงเข้าร่วมจนล้นห้องประชุม

บรรยากาศเต็มไปด้วยความสนุกสนานและสาระความรู้ที่เข้มข้นจากคุณธีรศักดิ์ สูงลอย หรือ “คุณครูพี่ธีร์” วิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากธนาคารแห่งประเทศไทย ที่มาพร้อมเทคนิคการสอนสุดสร้างสรรค์ เพื่อมอบเกราะป้องกันทางการเงินให้กับเยาวชนทุกคน


ทำไมเราถึงตกเป็นเหยื่อ ?
3 เหตุผลหลักที่มิจฉาชีพใช้เจาะเกราะเรา

จากงานวิจัยพบว่า มี 3 เหตุผลหลักที่ทำให้คนไทยตกเป็นเหยื่อกลโกงทางการเงิน ได้แก่

  1. ไม่รู้ตัวว่าถูกหลอก (22%): มิจฉาชีพมีวิธีการที่แนบเนียนจนทำให้เราไม่ทันเอะใจ
  2. ถูกล่อลวงด้วยสิ่งจูงใจที่ดีเกินจริง (19.6%): ข้อเสนออย่าง “งานสบาย รายได้ดี” มักจะดึงดูดให้เราก้าวเข้าไปติดกับ
  3. ยอมเสี่ยงในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้ใจ (17.7%): ความคิดที่ว่า “อีกนิดเดียวก็จะสำเร็จแล้ว” ทำให้หลายคนยอมโอนเงินเพิ่ม และสูญเสียมากขึ้น

4 มุกหลักที่มิจฉาชีพใช้เล่นกับอารมณ์


เมื่อรู้สาเหตุแล้ว เรามาดูกันว่ามิจฉาชีพใช้กลวิธีใดในการเล่นกับอารมณ์ของเรา

  1. หลอกให้ตกใจกลัว: เป็นมุกยอดฮิตที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้ โดยจะอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น ตำรวจ ปปง. หรือศุลกากร และข่มขู่ว่าเราพัวพันกับคดีร้ายแรง
  2. หลอกให้ตื่นเต้นดีใจ: อ้างว่าเราเป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลใหญ่ เพื่อทำให้เราดีใจจนขาดสติ
  3. หลอกว่าโอนเงินผิด: โทรมาขอให้เราโอนเงินคืน ซึ่งอาจเป็นเงินที่มาจากแหล่งผิดกฎหมาย
  4. หลอกให้เปิดบัญชีม้า: ใช้เงินเล็กน้อย (500-1,500 บาท) มาล่อลวงให้เราเปิดบัญชีธนาคารให้ ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายร้ายแรง มีโทษทั้งจำและปรับ

ภัยใกล้ตัววัยรุ่นที่ต้องระวังเป็นพิเศษ

  • ซื้อของออนไลน์ราคาถูกเกินจริง: โดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยีอย่าง iPhone ที่ขายในราคาเพียงไม่กี่พันบาท
  • หลอกให้ทำงานเสริม: ล่อลวงด้วยงานง่าย ๆ แต่ต้องมีค่าสมัครและอาจต้องจ่ายเงินเพิ่มเรื่อย ๆ โดยไม่สามารถถอนเงินคืนได้
  • หลอกให้เปิดบัญชีม้า: เป็นภัยที่ร้ายแรงที่สุด เพราะนอกจากจะถูกหลอกแล้ว ยังอาจต้องรับโทษทางกฎหมายด้วย

ท่องคาถาป้องกันภัย และวิธีรับมือง่าย ๆ

เพื่อป้องกันภัยเหล่านี้ “คุณครูพี่ธีร์” ได้มอบคาถาสุดขลังไว้ให้ทุกคนได้ท่องจำ ดังนี้

  • คาถาปลุกสติ: “เอ๊ะ ทุกวัน เอ๊ะ ป้องกัน เอ๊ะ รู้ทัน ทุกคนโกง” เพื่อกระตุ้นต่อม “เอ๊ะ” หรือความช่างสังเกตของเราให้ทำงานอยู่เสมอ
  • คาถาป้องกันการโอน: “มีสติ อย่าโลภ อย่าคลิก อย่าโอน”
  • วิธีบล็อกสายจากต่างประเทศ: สามารถกด *138*1# แล้วโทรออก เพื่อบล็อกเบอร์โทรศัพท์ที่เข้าข่ายเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากต่างประเทศได้

การจะรอดพ้นจากกับดักการเงินในยุคดิจิทัลได้นั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเรารู้ทันกลโกงทุกรูปแบบหรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเรามี “สติ” และรู้จัก “เอ๊ะ” กับทุกเรื่องที่น่าสงสัยหรือไม่

คาถาที่สำคัญที่สุดคือ “มีสติ อย่าโลภ อย่าคลิก อย่าโอน” ท่อง 4 คำนี้ไว้ให้ขึ้นใจ แล้วฝึกฝนต่อม “เอ๊ะ” ให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพราะนี่คือเกราะป้องกันทางการเงินที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้เราปลอดภัยจากกลโกงทุกรูปแบบในโลกไซเบอร์

หมายเหตุ: บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของบทความชุด “Sure” Cyber Unlock ถอดสลักกับดักไซเบอร์ อันเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “นักสืบสายชัวร์ 404: ถอดสลักกับดักไซเบอร์”

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการได้ทาง Facebook เพจ “ชัวร์ก่อนแชร์” หรือเพจ “นักสืบสายชัวร์ ชัวร์ก่อนแชร์สโมสร” 

29 สิงหาคม 2568
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์
สำนักข่าวไทย อสมท
ทีมข่าวไซเบอร์ กฤษณา กาญจนเพ็ญ

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

ผู้สมัคร “ภูมิใจไทย” ประกาศชัยชนะ เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5

28 ก.ย. – “จินณ์ตวรรณ” ผู้สมัครหมายเลข 2 จากพรรคภูมิใจไทย ประกาศชัยชนะ หลังทราบผลคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 อย่างไม่เป็นทางการ นำคู่แข่งจากพรรคเพื่อไทย ขอบคุณประชาชนที่ไว้วางใจให้เข้าไปทำหน้าที่ สำหรับผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ ณ เวลา 19.40 น. หมายเลข 1 ภูริกา สมหมาย พรรคเพื่อไทย ได้คะแนน 24,681 คะแนนหมายเลข 2 จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล พรรคภูมิใจไทย ได้คะแนน 31,653 คะแนน.-สำนักข่าวไทย

เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุม คืนผิวจราจร 8 ต.ค.

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – แก้ถนนทรุดคืบหน้า จนท.ยุติการเทปูนแล้ว เร่งเคลียร์เศษวัสดุในหลุมออก เพื่อถมทรายผสมปูนอีก 5 เมตร คาดหากไม่มีอุปสรรคเพิ่ม จะคืนผิวจราจรได้อย่างน้อย 2 ช่องทาง 8 ต.ค.นี้.-สำนักข่าวไทย

“สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – “สีหศักดิ์” ย้ำจุดยืน ไทยยึดสันติภาพ โต้ถ้อยแถลงกัมพูชา มองโอกาสนำไทยสู่จอเรดาร์โลก นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ก่อนการเดินทางกลับจากการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการพูดถึงถ้อยแถลงในที่ประชุม ประเด็นเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชา รวมถึงบทบาทของไทยในเวทีสหประชาชาติ (ยูเอ็น) นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า การเดินทางเข้าร่วมการประชุม UNGA ในครั้งนี้ ต้องการให้ประเทศต่างๆ เห็นว่า การต่างประเทศของไทยกำลังขับเคลื่อนประเทศไทย และไทยจะมีบทบาทสำคัญในเวทีโลก ถึงแม้รัฐบาลชุดนี้จะอยู่แค่ 4 เดือน แต่จะใช้ช่วงเวลานี้ให้มีความหมาย สำหรับประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เดิมทีจะใช้ถ้อยแถลงใน UNGA เพื่อบอกว่าไทยอยากเห็นแนวทางในการแก้ไขปัญหานี้ เพราะช่วงที่ผ่านมาก็มีการประชุมที่ประเทศมาเลเซีย ที่มีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิง และการประชุมของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ทำให้เกิดข้อตกลงเรื่องการรักษาข้อตกลงหยุดยิง การเก็บกู้ทุ่นระเบิด การถอนอาวุธหนัก และการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ เป้าหมายของไทยคือ การสร้างความปลอดภัยและนำความสงบมาสู่ชายแดน หากต่างฝ่ายต่างมีความจริงใจและมุ่งมั่นทำให้ข้อตกลงต่างๆ เป็นรูปธรรม ก็คิดว่าไทยจะดำเนินการเป็นขั้นตอนในการปรับความสัมพันธ์ อย่างไรก็ตาม นายปรัก สุคน […]

นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ

พรรคภูมิใจไทย 28 ก.ย. – นายกฯ พร้อมแถลงนโยบาย 29-30 ก.ย. มองผลโพลเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจ แต่ขณะเดียวกันก็กดดันความคาดหวังประชาชน ย้ำต้องทำงานหนักตอบแทน ไม่ให้กลายเป็นยาพิษ ยันยึดสันติแก้ชายแดน บอกไทยนี้รักสงบ แต่ถ้ารบก็ลองดู ลั่นที่ผ่านมาเห็นความอัปยศอดสู วันนี้จะไม่มีวันให้เกิดขึ้นกับประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ความพร้อมในการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 29-30 ก.ย.นี้ว่า ร่างนโยบายได้ส่งให้ทุกฝ่ายศึกษาแล้ว พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ตามรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีต้องลุกขึ้นอ่านนโยบายต่อที่ประชุมรัฐสภาให้ได้รับทราบ ส่วนถามว่ามีความกังวลหรือไม่ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด นายอนุทิน กล่าวว่า จริงๆ แล้วเราไม่ได้เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ สำหรับพรรคภูมิใจไทยทำงานต่อเนื่องมากกว่า 6 ปีแล้ว เพิ่งไปพักร้อนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ดังนั้น สิ่งที่ยังทำค้างอยู่ในช่วง 2 เดือนที่หยุดไป คงไม่ถึงขั้นที่ต้องทำให้ยกเลิก สิ่งที่เราอยากจะทำอะไรไป เราสามารถสานต่อ และมีนโยบายใหม่ๆ ในฐานะที่เรามาเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะสามารถใช้นโยบายเพื่อช่วยเหลือประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้เพิ่มมากขึ้น หลายคนมีความคาดหวังกับรัฐบาลใหม่ และผลโพลหลายสำนัก คะแนนความนิยมในตัวนายกรัฐมนตรีเพิ่มสูงขึ้น จะสอดคล้องกับนโยบายและเป็นความคาดหวังให้กับประชาชนได้มากน้อยแค่ไหนนั้น […]