21 พ.ค. – ศาลอนุมัติหมายจับ นายก อบต.บ้านใหม่ หลังเบี้ยวนัด อ้างป่วยนอน รพ.คดีทุจริตเบิกจ่ายงบประมาณ ชี้เจตนาหลบหนี ขณะที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรัดติดตามจับกุมแล้ว
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้อนุมัติหมายจับ นายวสุ ผันเงิน อายุ 48 ปี นายกองค์การบริหารส่วนตำรวจบ้านใหม่ ( อบต.บ้านใหม่) ในข้อหาร่วมกันเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการ รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ จากกรณีไม่ไปพบพนักงานงานสอบ ตามนัดฝากขังโดยมอบหมายให้ยื่นหนังสือขอเลื่อนโดยอ้างว่าป่วยและรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่เมื่อพนักงานสอบสวนตรวจสอบกลับไม่พบว่าไปรักษาตัวจริง จึงขอศาลออกหมายจับ เนื่องจากเห็นว่าเป็นการประวิงเวลาและมีเจตนาหลบหนี
สำหรับนายวสุ ถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินไปใช้ในโครงการฝึกอบรม และศึกษาดูงานเพิ่มเติม สภาพในการบริหารงานของคณะผู้บริหารและสมาชิกสภาของ อบต.บ้านใหม่ ระหว่างวันที่ 21 – 24 ก.ย. 2559 ที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการซื้อบริการเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือคดีค้าประเวณี นกฮูกน้ำเพียงดิน โดยมีรายงาน พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพรามณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้กำชับให้มีการเร่งรัดติดตามจับกุมแล้ว
ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้โพสต์ข้อความของลูกสาวของนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการแม่ฮ่องสอน ที่ก่อนหน้านี้เป็นหนึ่งในผู้ที่ถูกกล่าวหา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนที่ซื้อบริการเด็กสาวตัวจริงได้ และทำให้นายสืบศักดิ์หลุดพ้นจากมลทินนั้น เปิดเผยความในใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว โดยข้อความทั้งหมดมีดังนี้
“สวัสดีค่ะควีน หนูเป็นลูกสาวผู้ว่าสืบศักดิ์ ที่ถูกใส่ร้ายในคดีน้ำเพียงดินนะคะ ขอบคุณค่ะที่ให้พื้นที่พ่อแก้ข่าว ตั้งแต่วันแรกที่เกิดเรื่อง หนูไม่เข้าใจว่าทำไมมันไปไกลได้ขนาดนี้ ครอบครัวเราผ่านมันมายากมาก สามอาทิตย์เหมือนสามล้านปี ตรอมใจทุกวัน ล่าสุดขนาดเรื่องจบแล้วยังมีคนบอกว่ายังไงพ่อก็ผิดที่ละเลยหน้าที่ สำหรับเรื่องนี้หนูคิดว่าพ่อไม่เคยละเลยนะคะ พ่อเพิ่งถูกย้ายมาไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุ หนูเห็นการทำงานของพ่อให้กับแม่ฮ่องสอนตั้งแต่เป็นนายอำเภอแม่สะเรียงเลยค่ะ พ่อทำดีมาตลอด เพราะเราจะมีไลน์ครอบครัวบอกกันตลอดว่าทำอะไรอยู่ไหน
ขอบอกก่อนเลยว่าหนูรู้เรื่องพ่อทำเรื่องเกี่ยวกับสัญชาติมาตั้งแต่เป็นนายอำเภอแม่สะเรียง และพ่อไม่เคยหยุดทำงานเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยค่ะ มีผู้คนมากมายได้รับความช่วยเหลือ พ่อได้ย้ายไปเป็นปลัดจังหวัดตาก พ่อก็ยังคงทำเรื่องให้สัญชาติต่ออีกค่ะ พ่อเคยพูดกับหนูว่า เราต้องแก้ที่ต้นเหตุ ที่เขาได้รับสิทธิ์ไม่พอที่จะเป็นคนด้วยซ้ำ ท้ายที่สุดพ่อไม่ได้ทำงานเรื่องนี้เรื่องเดียวนะคะ หนูอยากทวงความเป็นธรรมให้พ่อและสุดท้ายนี้สิ่งที่โซเชียลล้อเลียนกันเหมือนเป็นเรื่องตลก พ่อหนูนั่งสมาธิเช้าเย็นวันละ 1 ชั่วโมงจริงๆค่ะ ผิดด้วยเหรอคะ ที่พ่อหนูเดินสายธรรมเลือกทำดีตลอดมา
หนูมองว่าสื่อใจร้ายมาก ที่นำเรื่องนั่งสมาธิมาทำลายพ่อหนูเพื่อเรียกเรตติ้ง พวกคุณ กำลังทำลายครอบครัวนึงเพื่อสร้างกระแส วันนี้พ่อพ้นผิดแล้วเพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าแม่ไม่อยู่ในที่เกิดเหตุเพราะอบรมอยู่ในงานผู้ว่าน้องใหม่ที่กรุงเทพ ยังไงขอบคุณควีนอีกครั้งที่ให้โอกาสครอบครัวเราในการชี้แจงความจริง มีผู้คนมากมายเข้ามาขอโทษและขออโหสิกรรมที่ได้ล่วงเกินครอบครัวเราไป และพ่อบอกว่าไม่ถือโทษ และอโหสิกรรมให้ทุกคนที่เข้าใจผิดค่ะ”
ส่วนเฟสบุ๊คภรรยานายสืบศักดิ์ก็มีการโพสต์ภาพถ่ายครอบครัว พร้อมเขียนข้อความถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า จากสมาธิเมื่อเช้านะ บอกว่าอภัยให้หมด ให้เมตตา อภัยให้หมด เรื่องก็จบ ได้เรียนครบแล้ว เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน จะมาพร้อมกัน ตัวที่ออกจากจิตมาทำทุกอย่างคือตัวรู้ หยุดคิด แล้วอยู่กับปัจจุบัน แก้ไขตามเหตุปัจจัย ไม่มีอารมณ์เกี่ยวข้อง ขออโหสิกรรมต่อทุกคน ขอบุญกุศลที่กระทำตั้งแต่เป็นจรัสนภา ให้เป็นอานิสงค์ให้เขาพ้นทุกข์ ขออโหสิกรรมให้แก่สื่อ เพจ ผู้ที่คิดอกุศล กล่าวอกุศล กระทำอกุศลแก่ครอบครัวเรา เราขออโหสิกรรม ขอน้อมอโหสิกรรมต่อทุกคนด้วย กาย วาจา ใจ ขอให้สิ้นกรรมเวรต่อกัน อย่าให้ผูกชาติภพต่อกันอีกเลย พุทธังสรณังคัจฉามิ ธรรมมังสรนังคัจฉามิ สังฆังสรณังคัจฉามิ จบแล้ว หลวงพ่อเปลี่ยนสอนว่าน้ำเมตตาใช้ได้กับทุกอย่าง กิเลสทั้งปวง ชนะด้วยเมตตา สาธุ ธรรมะชนะอธรรมในใจตนแล้วค่ะ
โดยหลังจากที่มีการโพสต์ข้อความก็มีคนเข้ามาให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก. -สำนักข่าวไทย