ตั้งเป้าหมายไทยขยับอันดับ Doing Business ขึ้นสู่ที่  30 ในปี 60

กระทรวงคลัง 4 พ.ย.- รองนายกฯสมคิด ตั้งเป้าขยับอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจ สู่ 30 อันดับแรกภายในปี 2560 จากปัจจุบันไทยอยู่ในอันดับที่ 46


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการ Doing Business ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน หลังจากผลการจัดอันดับความยากง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก ( Doing Business 2017 ) ได้ขยับอันดับของประเทศไทยจากที่ 49 ขึ้นมาเป็นอันดับ 46 ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา จากทั้งหมด 190 ประเทศ ยอมรับว่าการอำนวยความสะดวกของหน่วยงานรัฐหลายด้านของไทยได้แก้ปัญหาไปมากแล้ว แต่มีปัญหาเรื่องการสื่อสารข้อมูลกับธนาคารโลก และปัญหาหลายด้านคืบหน้าไปมากแล้วเหลือเพียงเร่งแก้ปัญหาเพียงเล็กน้อยจะช่วยให้อันดับดีขึ้น

อาทิ การขออนุญาตก่อสร้าง การเริ่มต้นธุรกิจ การค้าระหว่างประเทศ การขอใช้ไฟฟ้า การคุ้มครองผู้ลงทุน การแก้ปัญหาล้มละลาย  การบังคับให้เป็นไปตามข้อตกลง การจดทะเบียนทรัพย์สิน การชำระภาษี  การได้การสินเชื่อ โดย 10 กลุ่มดังกล่าวมีคะแนนใกล้เคียงกับประเทศที่อยู่ในอันดับต้นๆ หากเร่งแก้ไข้ปัญหาเหล่านี้ให้ชัดเจน จะทำให้ไทยขยับจากอันดับ 46 เพิ่มเป็นอันดับ 30 ได้ในปี 60  โดยจะมีการนำข้อมูลเสนอก่อนเจ้าหน้าที่ธนาคารโลกจะเข้ามาประเมินข้อมูลในช่วงเดือนพฤษภาคมปี 60 และประกาศผลในช่วงปลายปี 2560  เพราะขณะนี้ได้แก้ปัญหาด้านต่างๆคืบหน้าไปมากแล้ว โดยเฉพาะด้านกฎหมายหลายฉบับ รอเพียงการพิจารณาจากสภา สนช.


ทั้งนี้จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันเร่งแก้ปัญหา เช่น การชำระภาษี กรมสรรพกากรกำลังจัดทำโปรแกรมบัญชีภาษี เพื่อบันทึกบัญชีภาษีแต่ละประเภทประจำทุกเดือนในการหักลบกลบหนี้ สามารถประเมินรายรับ รายจ่ายทางภาษีได้อย่างเป็นระบบ  โดยสำนักงาน กพร.จะทำการศึกษาจุดอ่อนจุดแข็ง เร่งนำมาปรับปรุงแก้ไขร่วมกับภาครัฐและเอกชน  นอกจากนี้ยังเตรียมเชิญธนาคารโลกให้เป็นที่ปรึกษา เพื่อช่วยชี้จุดอ่อน จุดแข็ง และเสนอแนะทางออกเพื่อช่วยแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด นอจากนี้ ยังเตรียมเสนอที่ประชุม ครม.ในเร็วๆนี้ พิจารณาแผนลงทุนวางระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ตตำบล เพื่อให้ผู้ประกอบการ ชาวบ้านค้าขายสินค้าผ่าน E-Commerce

ขณะที่ส่วนราชการต้องจัดทำงบประมาณพัฒนาบุคคลากร ความรู้ด้านเทคโนโลยี ลงทุนด้านเทคโนโลยีรองรับระบบ E-Government ของรัฐบาล เนื่องจากแนวโน้มเงินลงทุนจากทั่วโลกในช่วง 10 ปีข้างหน้า จะมุ่งมาสู่เอเชีย โดยเฉพาะกลุ่มประเทศอาเซียน ดังนั้นไทยต้องเร่งพัฒนาในหลายด้านรองรับการลงทุนดังกล่าว เพราะหากไม่เร่งดำเนินการ เงินทุนจะไหลไปเวียดนาม กัมพูชา เห็นได้จากการเดินทางไปโรดโชว์ที่ฝรั่งเศสในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ได้มีนักลงทุนฝรั่งเศสมาขอรับการส่งเสริมการลงทุนสูงถึง 20,000 ล้านบาท

ส่วนกรณีอาลีบาบา ได้ลงนามความร่วมมือกับกลุ่มซีพี นั้นมองว่าเป็นความร่วมมือในการพัฒนาเพื่อสร้างเครือข่ายร่วมกัน เพื่อให้อาลีบาบา ซึ่งมีศักยภาพเข้ามาร่วมมือกับเอกชนมาพัฒนาด้านการค้าขายผ่าน E-Commerce โดยไม่มองว่าจะมีการผูกขาดในการทำธุรกิจ เพราะได้มีภาคเอกชนรายอื่นเป็นผู้แข่งขันถ่วงดุล ขณะที่รัฐบาลได้มีกฎหมายป้องกันการผูกขาดอยู่แล้ว จึงไม่น่าวิตกกังวล


สำหรับเรื่องบริษัทเชฟร่อน เสนอให้รัฐบาลพิจารณาความชัดเจนเกี่ยวกับการเสียภาษีปิโตรเลียมในแหล่งขุดเจาะกลางทะเล เพื่อต้องการขอคืนภาษี 3,000 ล้านบาทนั้น ได้มอบหมายให้กระทรวงการคลังเร่งพิจารณาเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เกิดความชัดเจนกับทุกฝ่ายและเป็นประโยชน์ต่อประเทศ เนื่องจากนายกรัฐมนตรีรับทราบเรื่องดังกล่าวหลังบริษัทเชฟร่อนได้เข้าหารือ เพื่อหาทางออกเรื่องดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]