กต.เตรียมหามาตรการแก้ปัญหาถูกปฏิเสธเข้าเกาหลี

กต.19พ.ค.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุปัญหานักท่องเที่ยวไทย ถูก ตม.เกาหลี ปฏิเสธห้ามเข้าประเทศและส่งกลับ เป็นปัญหามาอย่างยาวนาน เตรียมหารือหลายฝ่ายจัดการนายหน้าหาผลประโยชน์พาคนไทยทำงานอย่างผิดกฎหมาย พร้อมระบุ นายกรัฐมนตรีห่วงและติดตามอย่างใกล้ชิด


นายดอน ประมัติวินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวไทยถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเกาหลี ไม่อนุญาติให้คนไทยเข้าเมือง และส่งตัวกลับไทยนั้น ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศมีการพูดคุยอยู่บ่อยๆ โดยเฉพาะช่วงที่มีการควบคุมตัวนักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศเกาหลี และพบว่าเป็นบุคคลต้องสงสัย โดนส่งตัวกลับไทย ขณะเดียวกันไทยได้ส่งหนังสือสอบถามข้อเท็จจริงกับเกาหลี พร้อมให้ปฏิบัติต่อตนไทยอย่างเหมาะสม ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้มาจากทางเกาหลีเพียงฝ่ายเดียว แต่เกิดจากฝ่ายไทยด้วยเช่นกัน เนื่องจากผู้เดินทางไม่มีข้อมูลที่ชัดเจน ว่าการไปเที่ยว หรือไปอยู่เกินเวลาในบางประเทศ ถือว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย มีโทษรุนแรง และเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงจะต้องมีการชี้แจงทำความเข้าใจให้ชัดเจน เพราะยังคงมีบางราย อาจจะถูกหลอกได้ และควรเข้าใจว่า แบบไหนคือการท่องเที่ยว และแบบไหนคือการไปทำงานที่มีใบอนุญาต โดยหลังจากนี้จะมีการเรียกหารือกับหลายฝ่าย รวมถึง กระทรวงแรงงาน เพื่อแก้ไขปัญหาไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก ซึ่งในฐานะกระทรวงการต่างประเทศถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และจะต้องหารจุดแก้ร่วมกับเกาหลี รวมถึงการแก้ปัญหาจัดการกับนายหน้าที่หาประโยชน์พาคนไทยไปทำงานยังต่างประเทศแบบผิดกฎหมาย ด้วยเช่นกัน

นายดอน กล่าวว่าสัปดาห์หน้าจะมีการรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงปัญหาดังกล่าว ซึ่งพลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสนใจและติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด พร้อมเป็นห่วงเพราะถือเป็นเรื่องทุกข์สุขของประชาชน


ด้านน.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงแนวทางการแก้ปัญหากรณีที่ คนไทยเดินทางไปที่ประเทศเกาหลีใต้ประสบปัญหาการปฏิเสธให้เข้าประเทศและส่งตัวกลับ ว่าทางกระทรวงการต่างประเทศพบว่าสถิติล่าสุดมีคนไทยที่พำนักในเกาหลีใต้ ถึง 101,000 คนในจำนวนนี้พบคนไทยอยู่ในเกาหลีใต้เกิน 90 วันถึงประมาณ 57,490 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่สูง จึงอยากขอแนะนำให้คนที่จะเดินทางไปทำงานในประเทศเกาหลีใต้ให้ทำเอกสารกับทางผู้ว่าจ้างแล้วดูสัญญาบริษัทที่จัดหางานให้เรียบร้อย สำหรับในกรณีที่เดินทางไปเกาหลีใต้โดยวัตถุประสงค์อื่นขอแนะนำว่าอย่าพำนักเกินเวลาที่กำหนดและในกรณีไปท่องเที่ยวควรเตรียมเอกสารให้พร้อม ทั้งนี้จากปัญหาที่คนไทยถูกปฎิเสธให้เข้าประเทศต้องยอมรับกฎสากลว่าเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมีอำนาจสิทธิขาดในการพิจารณาให้บุคคลนั้นๆเข้าหรือไม่เข้าประเทศได้ ดังนั้นคนที่เดินทางประเทศนั้นๆควรเตรียมเอกสารและปฎิบัติตัวให้ถูกต้องตามกฎคนเข้าเมืองด้วย 

โฆษกกระทรวงต่างประเทศ กล่าวว่าเอกสารที่จะขอยกตัวอย่าง เช่น หลักฐานทางการเงินต้องมีเพียงพอที่จะดูแลตัวเองได้ตลอดระยะเวลาพำนักในประเทศนั้นๆหรือมีที่พักที่แน่นอนมีชื่อโรงแรมและชื่อเพื่อนฝูงที่อ้างอิงได้ ซึ่งทุกคนต้องเตรียมคำตอบเหล่านี้ไว้ให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่เกิดความสงสัย ในขณะเดียวกันข้อมูลต่างๆเหล่านี้ควรมีการทำเอกสารสำเนาไว้

นางสาวบุษฎี กล่าวว่า จากสถิติตัวเลขพบคนไทยถูกส่งกลับในปี 2558 ถึง 20,000 คน ในปี 2559 มี 28,000 คน ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจึงต้องเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งสิ่งนี้อาจทำให้ผู้ที่ต้องการจะเดินทางไปที่เกาหลีใต้ด้วยเจตนาดีหรือต้องการไปท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบไปด้วย

“ขอฝากประชาสัมพันธ์ต่อๆกันไปด้วยว่าอย่าทำผิดระเบียบการเข้าเมืองของประเทศอื่นๆขณะเดียวกันหากมีคำถามที่ต้องการถามข้อสงสัยใดๆสามารถติดต่อที่กรมการกงสุลได้ที่เบอร์คอลเซ็นเตอร์ตลอด 24 ชั่วโมงหรือว่าดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นไว้ก่อนการเดินทางของท่านเพื่อจะได้มีปัญหาน้อยที่สุดและในกรณีที่มีการร้องเรียนหากตรวจพบว่ามีการปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมให้แจ้งเพื่อสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป”นางสาวบุษฎี กล่าว


ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาคนเข้าเมืองผิดกฎหมายของคนไทยในประเทศเกาหลีใต้ที่มีถึง5หมื่นกว่าคนนั้น นางสาวบุษฎีกล่าวว่า กระทรวงการต่างประเทศได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอดซึ่งในเร็วๆนี้จะหารือกับกระทรวงแรงงาน กรมการกงสุลและทางการเกาหลีใต้เพื่อหาแนวทางแก้ไขร่วมกันต่อไป ซึ่งโดยหลักการแก้ไขปัญหาจะขึ้นกับทางเกาหลีใต้เป็นผู้พิจารณาเช่นเดียวกับการให้หรือการยกเลิกการตรวจลงตราให้คนไทย แต่ส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่กระทบเพราะการยกเว้นวีซ่าเป็นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละประเทศ ส่วนตัวเลขผู้ที่พำนักในประเทศเกาหลีใต้เกินระยะเวลาที่กำหนดนั้นไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นบุคคลกลุ่มใดหรือระบุเฉพาะเจาะจงได้ว่าเป็นอาชีพใดเพราะแต่ละกรณีจะแตกต่างกันไปลักษณะของการเข้าเมืองซึ่งทางกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจและจะหาแนวทางแก้ไขและป้องกันปัญหาเหล่านี้ต่อไป.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท

ซบพรรคกล้าธรรม

“เอกราช” จ่อซบ “กล้าธรรม” ยันไม่ถึงขั้นแตกหัก “อนุทิน-ภท.”

“เอกราช” เตรียมย้ายซบ “กล้าธรรม” เพื่อความสบายใจในการทำงาน ยันไม่ถึงขั้นแตกหักกับ “อนุทิน-ภูมิใจไทย” คาดเตรียมขับออกเร็วๆ นี้ เผยผูกพันกับ “ธรรมนัส ” กว่า 10 ปี

ไฟไหม้ท้ายรถบัสทัศนศึกษา นักเรียน-ครู ปลอดภัย

หวิดเกิดเหตุสลด รถบัสทัศนศึกษากำลังกลับโรงเรียน เกิดไฟไหม้ท้าย โชคดีอพยพทัน นักเรียนชั้น ป.6 ทั้ง 35 คน กับครู 7 คน ปลอดภัย

รวบไรเดอร์-วิน จยย.รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวต่างชาติ

ไรเดอร์ร่วมกับวิน จยย. รุมทำร้ายนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันจนน่วม ตำรวจตามจับได้ 3 คน ยังอ้างรุมทำร้ายโดยไม่รู้ที่มาที่ไป คิดว่าชายต่างชาติทำร้ายคนไทย ทนไม่ได้จึงเข้าช่วย

ข่าวแนะนำ

Trump says administration is looking into Signal, thinks Waltz should not apologize

“ทรัมป์” ชี้แชทรั่วไม่มีข่าวกรองชั้นความลับ

วอชิงตัน 26 มี.ค.- ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ บอกปัดกรณีแชทรั่วไปถึงนักข่าวว่า ไม่มีข้อมูลข่าวกรองชั้นความลับ และไม่มีใครต้องขอโทษ ขณะที่ สว.เดโมแครตรุมตำหนิผู้ที่เกี่ยวข้องเรียกร้องให้ลาออก นายทรัมป์แสดงความหนุนหลังทีมงานด้านความมั่นคงของเขาด้วยการตอบคำถามสื่อในเรื่องนี้ที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่นว่า ไม่มีข้อมูลชั้นความลับถูกเปิดเผยในกลุ่มแชทสนทนาแอปพลิเคชัน ซิกนัล (Signal) ของกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง ซึ่งนายไมเคิล วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงได้เชิญนักข่าวคนหนึ่งเข้าไปรวมอยู่ด้วยโดยไม่ตั้งใจ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะพิจารณาเรื่องการใช้แอปพลิเคชันสนทนานี้และคิดว่านายวอลซ์ ไม่จำเป็นต้องขอโทษในเรื่องนี้ ขณะที่นายวอลซ์ให้สัมภาษณ์ในรายการของฟ็อกซ์นิวส์ ยืนยันขอเป็นผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องน่าอับอาย กลุ่มแชทที่เขาสร้างขึ้นมีรายละเอียดเรื่องแผนการโจมตีเยเมนจริง แต่ยืนกรานว่าไม่มีข้อมูลชั้นความลับ หลังจากนายเจฟฟรีย์ โกลด์เบิร์ก บรรณาธิการข่าวของนิตยสารดิแอตแลนติก (The Atlantic) ออกมาเปิดเผยว่า ถูกรวมอยู่ในกลุ่มแชทเข้ารหัสโดยไม่รู้ตัวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม และได้เห็นโพสต์ของนายปีเตอร์ เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมเรื่องแผนการทำสงครามก่อนสหรัฐเปิดฉากโจมตีเยเมนระลอกแรกเมื่อวันที่ 15 มีนาคม ด้านสมาชิกวุฒิสภา (สว.) พรรคเดโมแครตพากันตำหนินางทัลซี แกบบาร์ด ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติและนายจอห์น แรตคลิฟฟ์ ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองกลางหรือซีไอเอ (CIA) ที่ไปให้ปากคำต่อคณะกรรมการข่าวกรองในวุฒิสภาว่า ฉาบฉวย ไร้ความสามารถ และไม่ให้เกียรติคนทำงานข่าวกรอง นางแกบบาร์ดและนายแรตคลิฟฟ์อยู่ในกลุ่มสนทนาในแอปฯ ซิกนัลที่มีข่าวรั่วในครั้งนี้ […]

โหวตไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ

นายกฯ โพสต์ขอบคุณหลังสภาผ่านฉลุยไว้วางใจ ยัน ชี้แจงทุกประเด็น ลั่น ทั้งเสียงหนุน-เสียงไม่ไว้วางใจ จะเป็นพลังให้มุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน

ผ่านฉลุย! สภาโหวตไว้วางใจ “นายกฯ แพทองธาร” 319 เสียง

สภาโหวตไว้วางใจ “แพทองธาร” นั่งนายกฯ ต่อฉลุย 4 สส.ปชป.งดออกเสียง และไร้เงา “รตอ.เฉลิม” แต่ได้แถมเสียงงูเห่ามา 7 เสียงจากไทยสร้างไทย-พปชร.และ “ปูอัด” ขณะที่นายกฯ ไหว้ขอบคุณ สส. หลังโหวต

ทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก

รวบ “พ.อ.หญิง-แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยา รพ.ทหารผ่านศึก

ตำรวจ ปปป. และ ป.ป.ช. จับ “พ.อ.หญิง” และ “ แพทย์หญิง” เครือข่ายทุจริตยาโรงพยาบาลทหารผ่านศึก พบเส้นเงินเชื่อมโยง 10 ล้านบาท