กรุงเทพฯ 17 พ.ค. – กทท.สนับสนุนนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ เดินหน้าศึกษาความเป็นไปได้ตั้งท่าเทียบเรือสำราญที่ท่าเรือกรุงเทพและท่าเรือแหลมฉบัง มั่นใจไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางเรือของอาเซียน
เรือเอกสุทธินันท์ หัตถวงษ์ ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยว่า ตามที่ กทท.และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประชุมหารือเกี่ยวกับการบริการท่าเทียบเรือสำราญที่ท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) และ ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ล่าสุด กทท.ได้จ้างกิจการค้าร่วมดับบลิวอี แอนด์ เอ็นเอเอ ศึกษาความเป็นไปได้เบื้องต้นในการจัดตั้งท่าเทียบเรือท่องเที่ยวรองรับเรือสำราญ (Cruise Terminal) ภายในพื้นที่ท่าเรือทั้ง 2 แห่ง รวมทั้งพื้นที่อื่นในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ โดยผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางน้ำในภูมิภาคอาเซียน ช่วยสร้างรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจและรองรับการให้บริการและอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวสอดคล้องกับรูปแบบการเดินทางโดยเรือสำราญ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการคัดเลือกพื้นที่ที่มีความเป็นไปได้ คาดว่าจะทราบพื้นที่เป้าหมายภายในปี 2561
สำหรับแผนการจัดตั้งท่าเทียบเรือสำราญดังกล่าว ถือเป็นส่วนหนึ่งในการขยายกิจการท่าเรือและธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งสนับสนุนนโยบายระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ในการขับเคลื่อนและกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและรองรับการขยายตัวของธุรกิจท่องเที่ยวทางเรือระยะยาว การส่งเสริมของรัฐบาลในการเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวทางน้ำ และการเพิ่มท่าเทียบเรือสำราญให้สามารถรองรับเรือสำราญขนาดใหญ่ ทั้งในรูปแบบของท่าเรือหลัก (Home Port) และท่าเรือแวะพัก (Port of Call) นั้น ปัจจุบัน ทลฉ. มีท่าเทียบเรือ A1 และ ทกท.ใช้พื้นที่บริเวณท่าเทียบเรือ OB รองรับเรือสำราญ รวม 2 ท่าหลัก ทั้งนี้ กทท. จะศึกษาความเหมาะสมของพื้นที่โอกาสทางธุรกิจ ความคุ้มค่าในการลงทุน และการวางแผนทางธุรกิจ เพื่อประกอบการบูรณาการแผนพัฒนาการสร้างท่าเทียบเรือสำราญต่อไป
“มั่นใจท่าเทียบเรือสำราญที่จะดำเนินการในอนาคตจะมีโครงสร้างพื้นฐานเหมาะสมและสาธารณูปโภคที่สะดวกครบครัน มีความปลอดภัย เพื่อรองรับการให้บริการเรือสำราญ การขนส่งนักท่องเที่ยวเข้าสู่ กทม. ชั้นในได้อย่างรวดเร็ว เพราะสิ่งเหล่านี้ คือ ปัจจัยสำคัญที่สุดที่สายการเดินเรือจะพิจารณาคัดเลือกท่าเทียบเรือในปัจจุบัน ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวทางเรือของอาเซียนส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ” ผู้อำนวยการ กทท. กล่าว.-สำนักข่าวไทย