สถาบันทันตกรรม 15 พ.ค.-ทันตแพทยสภา โชว์ผลพิสูจน์การวัดรังสีที่แผ่มาจากเครื่องเอ็กซ์เรย์ฟัน พบว่าน้อย ต่ำกว่ามาตรฐาน หวังให้กระทรวงวิทย์ฯเข้าใจ
ทพ.ไพศาล กังวลกิจ นายกทันตแพทยสภา และทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ เลขาธิการทันตแพทยสภา นำสื่อมวลชนพิสูจน์ผลกระทบจากรังสีเครื่องเอ็กซ์เรย์ฟัน ที่สถาบันทันตกรรม โดยผลปรากฎว่า ค่ารังสีที่แผ่ออกมาต่ำกว่ามาตรฐาน 20,000 ไมโครซีเวิร์ต วัดได้แค่ 0.179 ไมโครซีเวิร์ต ในเครื่องเอ็กซ์เรย์ฟันขนาดเล็กสำหรับช่องปาก ใช้กรณีการรักษาดูช่องปากหรือฟันผุ ภายในรักษารากฟัน
ทั้งนี้ ทันตแพทยสภา ยืนยันว่าเครื่องเอ็กซ์เรย์ที่ในการทำฟันนั้น มีการค่าแผ่รังสีต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนด และหากเปรียบเทียบกับเครื่องเอ็กซ์เรย์อื่นๆ ทั้ง การเอ็กซ์เรย์ทั้งตัว จะพบว่า มีค่าน้อยมาก และไม่ได้ก่อให้เกิดอันตราย การใช้เครื่องเอ็กซ์เรย์ฟัน ทุกครั้ง ทันตแพทย์จะใช้ผู้ป่วยสวมเสื้อตะกั่วกั้นรังสี ภายในห้องก็มีฉากกั้นรังสี ทันตแพทย์ผู้ดำเนินการต้องสวมเครื่องป้องกันเช่นกัน และข้อบ่งชี้ของการใช้เครื่องเอ็กซ์เรย์ฟัน จะกระทำเฉพาะในการทำฟันบางประเภทไม่ใช้กับการทำฟันทุกครั้ง และการเอ็กซ์เรย์ฟันที่จะก่อให้เกิดอันตราย ต้องมีการใช้การเอ็กซ์เรย์ฟันแบบฟิล์มอย่างน้อย 20,000 ครั้ง ต่อปี
นพ.อรรถพร กล่าวด้วยว่า เครื่องเอ็กซ์เรย์ฟันถือเป็นเครื่องมือพื้นฐานของทันตแพทย์ ปัจจุบันประเทศไทยมีคลินิกทันตกรรมจำนวนทั้งสิ้น 6,000 แห่ง ที่มีเครื่องเอ็กซ์เรย์ฟัน การกำกับควบคุมดูแลในขณะนี้ มีอย. ขึ้นทะเบียนในฐานะเครื่องมือแพทย์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขดูแลเรื่องติดตั้ง และการใช้เครื่องมือก็มีทันตแพทยสภาดูแล แม้ว่าหลังจากเครื่องมือเสื่อมสภาพ เครื่องเอ็กซ์เรย์ฟัน ก็ไม่ได้มีรังสีแผ่ออกมา และจะนำไปทำลายเหมือนกันขยะอิเล็กทรอนิกส์. จึงอยากชี้แจงให้สังคมเข้าใจ
พร้อมยืนยันว่า ทางทันตแพทยสภาไม่ได้จะคัดค้านการควบคุม ตาม พ.ร.บ.พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ พ.ศ. 2559 ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กระทรวงวิทยาศาสตร์ แต่ต้องการให้เกิดความเข้าใจตรงกัน และก็ให้เกิดข้อตกลงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงในการควบคุม และการใช้ เครื่องเอ็กเซ์เรย์ฟันอย่างถูกต้อง .-สำนักข่าวไทย