กทม. 8 พ.ค. – รัฐบาลเดินหน้าดึงนักลงทุนจีน-ฮ่องกง เข้ามาลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ขณะที่ฮ่องกงเตรียมกว่า 100 โครงการ เข้ามาลงทุน เนื่องจากมองว่าไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค จึงได้ลงนามร่วมกันเป็นรายแรกของอีอีซี
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ยุทธศาสตร์ระหว่างไทย-ฮ่อง จีน” โดยมีนักลงทุนจีน-ฮ่องกง เข้ารับฟังเป็นจำนวนมาก นับว่าฮ่องกงเป็นนักลงทุนรายใหญ่ อันดับสองรองจากญี่ปุ่น และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ดังนั้นเพื่อเป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของภูมิภาค ไทยจึงเดินหน้าการพัฒนาเขตอีอีซี เพื่อเชื่อมโยงกับจีน ผ่านการสร้างรถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง กรุงเทพฯ-นครราชสีมา การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา การพัฒนาดิจิทัลปาร์ค โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์จะเติบโตตามเส้นทางรถไฟฟ้า นับว่าฮ่องกงเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอสังหาริมทรัพย์ และด้านเอสเอ็มอี ที่พร้อมเข้ามาลงทุนมากขึ้น จึงเชิญฮ่องกงมาตั้งสำนักงานภูมิภาคในประเทศไทย ส่วนด้านการค้า ฮ่องกงนำเข้าสินค้าจากไทยกว่า 400,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วงที่ผ่านมา
นายวินเซนต์ โล ประธานองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง กล่าวว่า ได้นำนักธุรกิจฮ่องกงมาเยือไทย 60 ราย ไทย-ฮ่องกงจึงสามารถร่วมมือกันได้ตามนโยบาย One Belt One Road ของจีน จึงเตรียมนำกว่า 100 โครงการ เข้ามาลงทุนไทยภาคตะวันออก เนื่องจากนโยบายจีนขยายการลงทุนออกไปต่างประเทศมากขึ้น หลังจากตัวเลขของการขอรับการส่งเสริมการลงทุนของฮ่องกงใน 3 อีอีซี ของไทยมากกว่า 14,000 ล้านบาท และจะเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง เนื่องจากมองว่าไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาค
นอกจากนี้ยังได้จัดพิธีลงนามร่วมกันระหว่างสำนักงานคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก กับองค์การสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง นับเป็นการลงนามครั้งแรกของอีอีซี กับองค์กรต่างประเทศ ในการร่วมลงทุนด้วยกัน
จากนั้นได้จัดเวทีสัมมนาลงรายละเอียดในแต่ละสาขา นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวชี้แจง 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคตที่ยั่งยืนว่า ไทยได้ร่วมมือกับ HKTDC ในการพัฒนาเอสเอ็มอี ทั้งบุคลากร และเป็นครั้งแรกไทยได้แก้ไขกฎหมายหลายฉบับในการอำนวยความสะดวกดำเนินธุรกิจ และได้แสดงการพัฒนาศักยภาพด้านอินเทอร์เน็ต เพื่อเป็นศูนย์กลางเครือข่ายอินเทอร์เน็ต นับเป็นการสร้างศักยภาพด้านบรอดแบนด์
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ย้ำในเวทีว่า รัฐบาลได้ร่นเวลาในการศึกษาแผนการลงทุนให้ชัดเจนเพียง 8 เดือนข้างหน้า จากเดิมใช้เวลานับปี รัฐบาลจึงเดินหน้าพัฒนาสนามบินภาคตะวันออกให้ชัดเจนอันดับแรก เพื่อเป็นศูนย์ซ่อมไม่แพ้สิงคโปร์
ในวันพรุ่งนี้ นักลงทุนจีน-ฮ่องกง ได้นัดหารือกับนักลงทุนไทยที่สนใจร่วมลงทุนระหว่างกัน และในเดือน มิ.ย. นักลงทุนฮ่องกงพร้อมเดินทางกลับมาลงพื้นที่ดูแผนการลงทุนในภาคตะวันออกอีกครั้ง. – สำนักข่าวไทย