กรุงเทพฯ 4 พ.ค. – ทีเส็บขานรับนโยบาย 4.0 ชูกลยุทธ์ “สมาร์ทไมซ์” ยกระดับสร้างศักยภาพการแข่งขันธุรกิจจัดประชุมและนิทรรศการ
นางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการสายงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ เปิดเผยว่า ภายใต้นโยบายไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมอุตสาหกรรมไมซ์ ถือว่ามีส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อน ส่งเสริมสร้างความเข้มแข็งและพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน เนื่องจากการจัดงานไมซ์ก่อให้เกิดการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าการลงทุนและการจับคู่ธุรกิจ เป็นเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และเทคโนโลยี ดังนั้นทีเส็บ ได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานไมซ์แบบเดิมไปสู่การจัดงานในแบบ “สมาร์ทไมซ์” ด้วยการสร้างแนวความคิดสร้างสรรค์และใช้เทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนกิจกรรม
ทั้งนี้ ทีเส็บกำหนดแผนแม่บทไมซ์ระยะ 20 ปี เป้าหมายหลัก 3 ด้าน คือ 1.การสร้างรายได้ให้ประเทศ 2. การพัฒนาด้วยนวัตกรรมโดยเฉพาะกลุ่มงานประชุมนานาชาติและการแสดงสินค้านานาชาติ และ 3.สร้างความเจริญอย่างทั่วถึง หรือเป็นการกระจายโอกาสทางธุรกิจสร้างอนาคตให้ประชาชนทุกพื้นที่
ขณะที่กรอบแนวคิดแบบสมาร์ทไมซ์ ซึ่งนำเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องขับเคลื่อนธุรกิจไมซ์ มีหลายประเทศนำแนวคิดนี้มาใช้ เช่น สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย สกอตแลนด์ โดยออกมาตรการส่งเสริมและประยุกต์การใช้ เพื่อสนับสนุนการจัดงานหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนเงินทุนการสนับสนุนด้านภาษี และจากการสำรวจสถิติการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดงานไมซ์ของ Meeting professionals International (MPI) พบว่าร้อยละ 63 ของผู้วางแผนการจัดงานมีการใช้เทคโนโลยีและแอพพลิเคชั่นช่วยการจัดงาน และเทคโนโลยีที่นำมาใช้มากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ เทคโนโลยีการลงทะเบียน เทคโนโลยีป้ายชื่อและผู้เข้าร่วม การเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ตของผู้เข้าร่วม การใช้อินเทอร์เน็ตไร้สายของผู้เข้าร่วมงาน และเทคโนโลยีติดตามสถานะของผู้เข้าร่วม ซึ่งระบบเหล่านี้จะเพิ่มประสิทธิภาพลดขั้นตอนการทำงานและค่าใช้จ่ายของบุคลากรที่เข้าร่วมดำเนินการได้อย่างมาก
ส่วนแผนการขับเคลื่อนสมาร์ทไมซ์ ของทีเส็บ มีโครงการจัดงานสมาร์ท ไมซ์ ไทยแลนด์ 2017 : Thailand Toward Tomorrow ซึ่งจะเป็นเวทีเผยแพร่องค์ความรู้ของผู้เชี่ยวชาญแวดวงเทคโนโลยี ดิจิทัล และวงการไมซ์ เพื่อให้เกิดความแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นและส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมในที่สุด.-สำนักข่าวไทย