กทม. 3 พ.ค. – บนสังคมออนไลน์มีการแชร์ว่า สปสช.ซึ่งรับผิดชอบโครงการบัตรทอง 30 บาท มีการใช้งบจัดซื้อยามาสำรองเกินความจำเป็น จนต้องเผาทิ้งจำนวนมาก เรื่องนี้จริงหรือไม่ ติดตามจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์. – สำนักข่าวไทย
บทสรุป : ไม่จริง ไม่ควรแชร์ต่อ
ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์ สำนักข่าวไทย อสมท ตรวจสอบกับ ทพ.อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการ และ โฆษก สปสช.ระบุ สปสช.ต้องกันงบประมาณส่วนหนึ่งจัดซื้อยาสำรอง เนื่องจากยาบางตัวราคาแพงแต่จำเป็นต้องใช้ ได้แก่ เซรุ่ม ยาต้านพิษ ยาบัญชี จ (2) ยาใช้รักษามะเร็ง และยากำพร้า คือ ยาที่หาซื้อยาก ราคาแพง แต่จำเป็นต้องมี เพราะไม่มียาอื่นใช้ทดแทนได้ เช่น ยาต้านพิษจากหน่อไม้ปี๊บ
ทั้งนี้ ยาทุกชนิดที่ซื้อจะมีวันหมดอายุ หลังจากนั้นต้องทำลายโดยนำไปเผา รวมถึงยาแก้แพ้ Diphenhydramine 5% 1 ml เป็นยาฉีดที่ใช้รักษาอาการกล้ามเนื้อกระตุกบิดเกร็งจากการแพ้ยาจิตเวช แม้จะมีอัตราการใช้น้อย แต่จำเป็นต้องมี สปสช.สั่งซื้อจากสภากาชาดไทย โดยมีจำนวนขั้นต่ำต่อการสั่งซื้อคือ 5,000 หน่วย
โฆษก สปสช.ย้ำว่า สปสช.จัดซื้อยาเพื่อความมั่นคงทางยาของประชาชน เพื่อไม่เป็นภาระทางงบประมาณของโรงพยาบาลทั่วประเทศในการจัดซื้อยาที่มีราคาแพง
วิธีการ • Add LINE ของสำนักข่าวไทย เข้าไปที่เพิ่มเพื่อน แล้วพิมพ์ @TNAMCOT ถ้าได้รับแชร์อะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาให้เราตรวจใน “ชัวร์ก่อนแชร์” พบกับสกู๊ปข่าวนี้ได้ในข่าวค่ำสำนักข่าวไทยทุกวัน
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter