สบส. 25 เม.ย.- สบส.เตือนวัยรุ่นจัดฟันใช้รีเทนเนอร์เถื่อน ระวังติดเชื้อช่องปากอักเสบได้
จากกรณีดาราโพสต์ข้อความลงในสื่อโซเชียลว่า ใช้บริการทำรีเทนเนอร์จากแล็บทันตกรรมแห่งหนึ่ง ซึ่งทันตแพทยสภาตรวจสอบเบื้องต้นแล้วพบว่า แล็บทันตกรรมดังกล่าวได้จดทะเบียนสถานประกอบการผลิตเครื่องมือแพทย์ แต่ขึ้นทะเบียนเพื่อทำอุปกรณ์ฟันเทียมและรีเทนเนอร์เท่านั้น ไม่ได้ขออนุญาตให้ช่างทันตกรรมพิมพ์ฟันในช่องปากแต่อย่างใด
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร โฆษกกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ให้สัมภาษณ์ว่า รีเทนเนอร์ คือ เครื่องมือคงสภาพฟันหลังถอดเครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่นทำด้วยโลหะ เพื่อป้องกันไม่ให้ฟันเลื่อนกลับคืนตำแหน่งเดิม เพราะสภาพกระดูกและเหงือกหุ้มฟันต้องใช้เวลาในการปรับสภาพเข้ากับตำแหน่งใหม่ อันตรายจากการใช้รีเทนเนอร์ของปลอม ซึ่งจำหน่ายตามคลินิกที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ต้องมีระบบที่ได้มาตรฐาน sterile เป็นเครื่องมือโดยเฉพาะ เน้นเรื่องความสะอาด ปลอดเชื้อ ไม่มีการปนเปื้อนเชื้อโรค
ส่วนเรื่องความสะอาด เช่น ขั้นตอนของการพิมพ์ฟันลูกค้า หากไม่ได้ฆ่าเชื้อโรค เมื่อนำมาพิมพ์ฟันลูกค้าคนถัดไป อาจเป็นการนำเชื้อโรคจากคนหนึ่งไปสู่อีกคนได้ง่ายๆ วัสดุที่นำมาทำให้ลูกค้าเป็นวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน เป็นวัสดุเลียนแบบอุปกรณ์จัดฟัน และอาจเป็นวัสดุเกรดต่ำที่มีสารปนเปื้อนจากโลหะหนักมีพิษ หรือสีที่ใช้อาจไม่ใช่สีที่ปลอดภัย หากมีการหลุดลอกหรือละลาย และกลืนเข้าไปในร่างกาย อาจกลายเป็นสารก่อโรคได้ ที่สำคัญเมื่อใส่รีเทนเนอร์แฟชั่นเข้าไปแล้วก็จะเกิดแรงกดที่ตัวฟัน ทำให้ฟันเคลื่อนที่ เหงือกอักเสบ รากฟันได้รับการกระทบกระเทือน หรือไม่แบร็กเก็ต หรือลวดที่ใส่อาจจะบาดเนื้อเยื่อในช่องปาก กลายเป็นแผล ซึ่งอาจลุกลามเป็นมะเร็งได้
นพ.ธงชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า เน้นย้ำประชาชนหากมีความประสงค์จัดฟันให้เลือกรับบริการจัดฟันและใส่รีเทนเนอร์จากสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย โดยสามารถสังเกตได้จากหลักฐานดังต่อไปนี้ 1.มีป้ายชื่อสถานพยาบาลและเลขที่ใบอนุญาตจำนวน 11 หลัก ติดไว้หน้าคลินิก 2.มีใบอนุญาตการให้ประกอบกิจการสถานพยาบาลและใบอนุญาตดำเนินการของสถานพยาบาล แสดงไว้ในที่เปิดเผยและเห็นชัดเจน 3.แสดงหลักฐานการชำระค่าธรรมเนียมประจำปีของปีปัจจุบัน และ 4.มีแผ่นป้ายสีน้ำเงิน เป็นแบบแสดงรูปถ่ายและรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประกอบวิชาชีพ หรือผู้ประกอบโรคศิลปะ ติดไว้หน้าห้องตรวจ
ด้าน ทพ.อาคม ประดิษฐสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กล่าวว่า หากผู้ใดเปิดคลินิกทันตกรรมโดยไม่ได้ขออนุญาต จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 4 พ.ศ.2559 ข้อหาเปิดคลินิกเถื่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากให้บริการทันตกรรมโดยไม่มีประกอบวิชาชีพเวชกรรม จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.วิชาชีพทันตกรรม พ.ศ.2537 ข้อหาประกอบวิชาชีพทันตกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือจากประชาชนและสื่อมวลชนเป็นอาสาสมัครด้านโซเชียลร่วมเป็นเครือข่ายให้ช่วยเป็นหูเป็นตา หากพบคลินิกทันตกรรมเถื่อน หมอเถื่อน ขอให้แจ้งที่สายด่วน สบส. 0-2193-7999 หรือเฟซบุ๊กสารวัตรสถานพยาบาล ตลอด 24 ชั่วโมง สบส.จะเร่งตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายทันที.-สำนักข่าวไทย
