คาดยอดขาย98,000 ล้านบาทงาน “THAIFEX – ANUGA ASIA 2025”

THAIFEX

กรุงเทพฯ 7 พ.ค. – งาน “THAIFEX – ANUGA ASIA 2025” เวทีการค้าอาหารระดับโลก กลับมาจัดยิ่งใหญ่ ครบวงจรที่สุดในเอเชียพร้อมจัดงาน 27-31 พ.ค. นี้ คาดขับเคลื่อนเศรษฐกิจ 98,000 ล้าน


กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ เยอรมนี ประกาศจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในเอเชีย “THAIFEX – ANUGA ASIA 2025” ในวันที่ 27-31 พฤษภาคม 2568 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี เปิดเจรจาธุรกิจทั้ง 5 วัน และเปิดให้ประชาชนเข้าชมและซื้อสินค้าในวันสุดท้าย

นางสาวสุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า รัฐบาลจึงเดินหน้านโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล พร้อมทั้งส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านอาหารของภูมิภาคในงานนี้ผู้ประกอบการไทยกว่า 700 กิจกรรม โดยตั้งเป้าสร้างมูลค่าการค้ารวมกว่า 92,000 ล้านบาท และช่วยเหลือผู้ประกอบการกว่า 260,000 ราย โดยมีทูตพาณิชย์ 58 แห่งทั่วโลกทำงานเชิงรุก ติดตามสถานการณ์ทางการค้าอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ได้ยกระดับโครงการ Thai SELECT ที่มี 1,779 แห่งทั่วโลก โดยจะปรับเกณฑ์การรับรองเป็นระบบดาวผ่านสัญลักษณ์รูปดอกกล้วยไม้


“งาน THAIFEX – ANUGA ASIA ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจของกรมฯ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้แสดงศักยภาพ เจรจาธุรกิจ และเรียนรู้แนวโน้มอุตสาหกรรมระดับโลก ภายในงานจะมีทั้งการแสดงสินค้า เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ ควบคู่กับกิจกรรมให้ความรู้ เวิร์กชอป และการแข่งขันระดับนานาชาติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีโลก” นางสาวสุนันทนา กล่าว

สำหรับ THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 มีกระแสตอบรับที่ดีมาก ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า โดยมีผู้เข้าร่วมแสดงสินค้ารวม 3,233 บริษัท 6,205 คูหา จากประเทศไทยและอีกกว่า 56 ประเทศทั่วโลก นำสินค้ามาจัดแสดงอย่างครบครัน ทั้งเครื่องดื่ม อาหารสำเร็จรูป เทคโนโลยีอาหาร อาหารแช่แข็ง ผักและผลไม้ เนื้อ ข้าว อาหารทะเล ขนมและของขบเคี้ยว โดยคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงาน (trade visitor) ตลอดทั้ง 5 วัน กว่า 90,000 ราย จากทั่วโลก คาดการณ์มูลค่าการสั่งซื้อสินค้าทันทีและการสั่งซื้อสินค้าภายใน 1 ปี รวมกว่า 98,000 ล้านบาท

ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า THAIFEX – ANUGA ASIA ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยได้ขยายตลาดอาหารและเครื่องดื่มสู่เวทีนานาชาติ โดยปัจจุบันประเทศไทยครองอันดับ 12 ของโลกด้านการส่งออกอาหาร และมีแนวโน้มว่าการส่งออกอาหารในปี 2568 จะมีมูลค่าถึง 1,750,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.8 จากปีก่อนหน้า ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย “ครัวไทยสู่ครัวโลก” ที่มุ่งผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการส่งออกอาหารของโลก


THAIFEX – ANUGA ASIA ในฐานะงานแสดงสินค้าด้านอุตสาหกรรมอาหารที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของไทย ทั้งในกลุ่มผู้ประกอบการ SME สตาร์ตอัป และบริษัทขนาดใหญ่ ให้สามารถเชื่อมโยงกับผู้นำเข้า ผู้ซื้อ และพันธมิตรทางธุรกิจจากทั่วโลก โดยในปีนี้คาดว่าจะมีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วม 1,184 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการ SME มากกว่า 500 ราย ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพของไทยในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายตลาดระหว่างประเทศ ทั้งยังมีผู้ประกอบการจากต่างประเทศเข้าร่วมอีกกว่า 2,000 ราย จากภูมิภาคต่าง ๆ อาทิ เอเชียตะวันออก อาเซียน ยุโรป สหรัฐอเมริกา ลาตินอเมริกา และแอฟริกา

สำหรับ THAIFEX – ANUGA ASIA 2025 ปีนี้ เน้นการเชื่อมโยงผู้ประกอบการไทยเข้ากับเมกะเทรนด์ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อาทิ Plant-Based, Sustainable Products, Functional Foods และสินค้าเกษตรอินทรีย์ ซึ่งเป็นหมวดหมู่ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงในตลาดยุโรปและจีน ผู้ประกอบการจะมีโอกาสนำเสนอนวัตกรรมสินค้าใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกซึ่งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และสามารถต่อยอดสู่ตลาดสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

“จากความสำเร็จในปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการ SME รายหนึ่งเข้าร่วมงานด้วยบูธขนาดเล็ก แต่สามารถคว้ารางวัล THAIFEX – ANUGA tasteInnovation Award จากงาน THAIFEX – ANUGA ASIA 2024 และได้นำตรารางวัลไปต่อยอดสร้างแบรนด์จนสามารถปิดดีลกับผู้ซื้อจากอินเดียได้สำเร็จ สะท้อนให้เห็นว่า THAIFEX – ANUGA ASIA ไม่เพียงเป็นเวทีการเจรจาธุรกิจเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่แห่งแรงบันดาลใจและโอกาสใหม่ ๆ สำหรับผู้ประกอบการไทยในการก้าวสู่เวทีโลก” ดร.กฤษณะ กล่าว

สำหรับงานปีนี้ได้รับการตอบรับจากผู้นำในอุตสาหกรรมที่กลับมาเข้าร่วมงานจากทั่วทั้งเอเชียแปซิฟิก ยุโรป อเมริกาเหนือ และตะวันออกกลาง ขณะเดียวกันยังได้ต้อนรับผู้จัดแสดงสินค้ารายใหม่จากเอเชียกลาง แอฟริกา และยุโรปตะวันออก อาทิ สโลวีเนีย คีร์กีซสถาน และสโลวาเกีย โดยบูธแสดงสินค้าทั้งหมดถูกจองเต็มล่วงหน้า พร้อมรายชื่อผู้รอคิวเข้าร่วมงานที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความต้องการที่สูงเกินกว่าพื้นที่ที่มี และตอกย้ำความสำคัญของงานในฐานะแหล่งจัดหาสินค้าและเครื่องชี้วัดเทรนด์สำคัญของภูมิภาคนี้

นอกจากนี้ ปีนี้ยังมีการเพิ่มพาวิลเลียนใหม่จากออสเตรเลีย ฮ่องกง และเนเธอร์แลนด์ เพื่อขยายโอกาสในการจัดซื้อให้แก่ผู้ซื้อจากทั่วเอเชียแปซิฟิก

สำหรับกิจกรรมพิเศษและกิจกรรมสนับสนุนในปีนี้จะเน้นการแสดงนวัตกรรมผ่านการจัดแสดงเฉพาะทาง อาทิ THAIFEX – ANUGA tasteInnovation Show, THAIFEX – ANUGA Startup, THAIFEX – ANUGA Trend Zone ที่ร่วมมือกับ Innova Market Insights, Future Food Experience+, การแข่งขัน Alternative Protein Taste & Flavour Challenge และโซนจัดแสดงผลิตภัณฑ์ฮาลาลและออร์แกนิก โดยทั้งหมดนี้สะท้อนถึงแนวโน้มของนวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยเป้าหมาย ทั้งในด้านเทคโนโลยี AI, โภชนาการจากพืช และอาหารเพื่อสุขภาพที่สนับสนุนการนอนหลับ การทำงานของสมอง และคุณภาพชีวิตโดยรวม. – 511สำนักข่าว​ไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่

ทำเนียบ 21 ส.ค.-“ภูมิธรรม” ลั่นฟ้อง “ธนพร” อยู่ที่ทนายหากขอโทษแล้วจบหรือไม่ ย้ำวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต ไม่มีข้อเท็จจริง ต้องรับผิดชอบ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมอบอำนาจทนายความยื่นฟ้อง นายธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมือง ฐานความผิดหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ถ้า นายธนพร ขอโทษ จะเลิกแล้วต่อกันหรือไม่ว่า แล้วแต่ทนายความตนได้มอบหมายไปแล้วเมื่อวานนี้ (20 ส.ค.) ส่วนจะฟ้องเฉพาะนายธนพร หรือจะมีบุคคลอื่นด้วยหรือไม่นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า อะไรที่เกินเลยเป็นการพูดที่ไม่รับผิดชอบทำลายเกียรติยศ เกียรติภูมิ ของผู้อื่น ก่อให้เกิดความสับสนเป็นภัยต่อปัญหาของประเทศก็คงฟ้อง เมื่อถามว่าที่ผ่านมาก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันแต่ไม่เคยมีการส่งฟ้องกันใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่จริง มีการฟ้องกันมาเยอะแล้ว ถ้าไปทำลายเกียรติภูมิของเขาหรือครอบครัวเขาก็ฟ้องกันทั้งนั้น ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์โดยสุจริตไม่ผิดอะไร แต่ถ้าวิพากษ์วิจารณ์โดยไม่สุจริต นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จอันนี้เป็นเรื่องที่ควรรับผิดชอบ และต้องถามผู้ที่วิจารณ์ว่า วิจารณ์ไปโดยที่ไม่มีข้อเท็จจริงเป็นที่ประจักษ์ ทำอย่างนี้ได้หรือเปล่า ต้องย้อนไปถามผู้ทำผิดอย่ามาย้อนถามผู้เสียหาย.-316.-สำนักข่าวไทย

รวบแล้ว! มือยิง “กำนันเล้น” หนีกบดานเกาะลันตา

กระบี่ 21 ส.ค. – ไล่ล่าเกือบ 20 วัน จับได้แล้วมือยิง “กำนันเล้น” กำนันคนดัง จ.ตรัง หนีกบดานเกาะลันตา จ.กระบี่ เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกดดัน 3 วัน 3 คืน สุดท้ายไม่รอด เจ้าหน้าที่บุกจับ นายธวัชชัย อายุ 33 ปี ผู้ต้องหายิง นายบัณฑิต รองพล หรือ กำนันเล้น อายุ 57 ปี กำนัน ต.นาวง อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา คดีนี้อุกอาจและสะเทือนขวัญคนในพื้นที่มาก เพราะคนร้ายไปรอดักยิงกำนันถึงหน้าบ้าน ขณะที่กำนันกำลังขับรถเข้าบ้าน และใช้อาวุธสงคราม M16 ในการก่อเหตุ ซึ่งกำนันเล้น เป็นกำนันคนดังในจังหวัด และเป็นประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด หลักฐานสำคัญในตอนนั้น คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด โดยคนร้ายใส่ชุดดำ สวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกไปก่อเหตุหน้าบ้านกำนัน […]

“ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43-44

รัฐสภา 21 ส.ค.- งงทั้งห้องประชุม! “ไชยา” สั่งปิดประชุมดื้อๆ หนีถกญัตติด่วน MOU 43 และ 44 ด้านประธานวิปรัฐบาลบอกไม่รู้เรื่อง ยันไม่ได้ส่งสัญญาณให้ปิดประชุม ขณะที่ “ไชยา” อ้างเป็นข้อตกลง 2 วิปขอปิดประชุมเอง การประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังจากการพิจารณากระทู้ถามสด และกระทู้ถามทั่วไป เสร็จสิ้นแล้ว จึงเข้าสู่วาระพิจารณารับทรารายงานการประชุม เรื่องรายงานประจำปี 2567 ของกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ โดยมีการตกลกระหว่างวิปรัฐบาลกับวิปฝ่ายแล้วว่า หลังจากจากเสร็จสิ้นวาระรับทราบการประชุมแล้ว จะเข้าสู่การประชุมลับ เพื่อพิจารณาญัตติด่วนเรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาบันทึกข้อตกลง MOU 43 และ 44 ของนายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง สส.กระบี่ พรรคภูมิใจไทย แต่ปรากฏว่าภายหลังที่ประชุมรับทราบรายงานการประชุมกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เสร็จเรียบร้อยแล้ว นายไชยากล่าวต่อที่ประชุมว่า ใช้เวลาการประชุมมาพอสมควรแล้ว และสั่งปิดประชุมดื้อๆ ในเวลา 14.59 น. สร้างความงุนงงให้กับสส. เพราะตกลงกันเรียบร้อยแล้วว่า จะพิจารณาญัตติด่วนเรื่อง MOU 43 […]

นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง

ศาล รธน. 21 ส.ค.-“แพทองธาร” นายกฯ พกยาดม เข้าไต่สวนปมคลิปเสียง ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวลา 11.34 น ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้กลับมาเผยแพร่โทรทัศน์วงจรปิดอีกครั้ง หลังจากไต่สวนนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ พยานในคดีปมคลิปเสียงสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาไต่สวนนายฉัตรชัย ประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นได้เบิกตัวนางสาวแพทองธาร มาไต่สวนต่อ โดยเริ่มจากการกล่าวสาบานตน ก่อนให้การ ซึ่งเป็นที่สังเกตว่านางสาวแพทองธาร ได้พกยาดมสีเหลืองวางไว้ใกล้มือด้วย โดยหลังสาบานตนเสร็จก็ได้มีการตัดสัญญาณถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ อีกครั้ง.-319.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มือยิงถล่ม “กำนันเล้น” สารภาพแค้นส่วนตัว

ตรัง 22 ส.ค.- ตำรวจแถลงคดียิง “กำนันเล้น” แห่งตำบลนาวง จ.ตรัง ผู้ต้องหาสารภาพยิงถล่มจนตายเพราะแค้นส่วนตัว คุมตัวฝากขังศาล พร้อมค้านประกัน ที่ สภ.ห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ผู้ว่าราชการจังหวัด พร้อมตำรวจ ร่วมกันแถลงรายละเอียดผลการจับกุมนายธวัชชัย ผู้ต้องหาคดีฆ่านายบัณฑิต หรือ “กำนันเล้น” กำนันตำบลนาวง และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอห้วยยอด ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา การสืบสวนสอบสวนแกะรอยจนรู้ตัวผู้ก่อเหตุ คือ นายธวัชชัย จึงยื่นขอศาลออกหมายจับเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม ในข้อหา”ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยผิดกฎหมาย และพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากการสืบสวนสอบสวนร่วมกันของตำรวจหลายหน่วยกระทั่งทราบแหล่งกบดาน จนนำไปสู่การจู่โจมจับกุมที่ห้องเช่าในพื้นที่ ตำบลศาลาด่าน อำเภอเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) โดยใช้เวลา 18 วันในการปิดคดี “ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยมีสาเหตุมาจากความแค้นส่วนตัวที่สะสมจนถึงจุดแตกหักและลงมือก่อเหตุ” ขณะเดียวกันวันนี้ พนักงานสอบสวน ได้ควบคุมนำตัวนายธวัชชัย ส่งขออำนาจศาลจังหวัดตรัง ฝากขังผัดแรก พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยระหว่างคุมตัวลงมาขึ้นรถ […]

บุกจับปลัด อบจ. เรียกเงินผู้รับเหมา

22 ส.ค.- รวบคาโต๊ะทำงาน ตำรวจบุกจับปลัด อบจ.มุกดาหาร เรียกรับเงินผู้รับเหมา 7 โครงการ วงเงินกว่า 12 ล้านบาท แลกอนุมัติเบิกจ่ายงบฯ เจ้าหน้าที่บุกอ่านหมายจับ ว่าที่ร้อยเอก วัทธิกร ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร ตามหมายจับของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 4 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ใช้อำนาจในตำแหน่ง โดยมิชอบ, ข่มขืนใจ บุคคลใดมอบให้ ซึ่งทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดแก่ตนเอง  และฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 148 และมาตรา 157 เป็นการเข้าทำการตรวจค้น จับกุมที่ห้องทำงานปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดมุกดาหาร  ก่อนหน้านี้ ผู้รับเหมาเข้าร้องเรียนกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 4  ว่า ในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในตำแหน่งปลัด อบจ.มุกดาหาร ปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.มุกดาหาร ระหว่างนั้น ผู้เสียหายได้เข้าเป็นคู่สัญญา รับจ้างในโครงการปรับปรุงถนนลาดยางผิวทางแอสฟัลท์ติกคอนกรีตฯ 1 โครงการ วงเงินงบประมาณ 9,780,000 บาท โครงการเสริมผิวทางแอสฟัลท์ติกคอน กรีตฯ จำนวน 6 โครงการ วงเงินงบประมาณ […]

ผบ.ทอ. บินสวีเดน ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 ส.ค.นี้

22 ส.ค.- กองทัพไทยเพิ่มแสนยานุภาพ เสริมความแข็งแกร่ง ลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” กับสวีเดน อย่างเป็นทางการ 25 สิงหาคมนี้ การลงนามครั้งนี้ นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ จะลงนามกับบริษัท SAAB AB ที่ประเทศสวีเดน ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ตามมติ คณะรัฐมนตรี ที่อนุมัติหลักการโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี Gripen E/F ระยะที่ 1 จำนวน 4 เครื่อง ( วงเงิน 19,500 ล้านบาท ) การจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีทดแทนครั้งนี้ ไม่เพียงเพิ่มขีดความสามารถด้านความมั่นคงทางทหาร ในการเสริมศักยภาพป้องกันประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของคนไทยทุกคน และยังเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และเทคโนโลยี ในการลงนามจัดซื้อ “กริพเพน” 25 สิงหาคมนี้ ทางประเทศสวีเดน จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสวีเดน เข้าร่วมในฐานะสักขีพยาน “มาริษ” ร่วมเป็นสักขีพยานจัดซื้อ “กริพเพน” […]

IOT ลุยบ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านเขมรรุกล้ำอธิปไตยไทย

22 ส.ค.- IOT ลงพื้นที่บ้านหนองจาน สำรวจหมู่บ้านกัมพูชาปลูกรุกล้ำอธิปไตยไทย ชาวบ้านบอกแค้นใจ โดนเขมรยึดแผ่นดิน เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ ต.หนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว กองทัพไทยนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว (IOT) 8 ประเทศ ลงพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ตรวจสอบข้อเท็จจริงถึงการรุกล้ำอธิปไตยแผ่นดินไทยของกัมพูชา และรายงานถึงหลักเขตที่ 46 – 48 ที่อยู่ด้านในพื้นที่ พร้อมรับทราบมาตรการควบคุมและป้องกันการกระทำผิดกฎหมายข้ามชาติ เช่น อาชญากรรมออนไลน์ และการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย ทันทีที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว เดินสำรวจพื้นที่ ได้พบกับหมู่บ้านขนาดเล็ก พร้อมซากอาคาร บ้านเรือน และโรงงานที่ชาวกำพูชาได้ลักลอบมาสร้างไว้กว่า 200 ครอบครัว โดยก่อนหน้านั้นทหารได้ผลักดันให้ออกนอกพื้นที่โดยไม่ได้มีการใช้อาวุธแต่อย่างใด หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้วได้มีการนำสแลน และวางแนวรั้วลวดหนาม เพื่อเป็นแนวป้องกัน ไม่ใช่การวางเพื่อกำหนดเส้นเขตแดน ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ช่วงที่คณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว และสื่อมวลชนลงพื้นที่ มีชาวกัมพูชาพยายามที่จะมาแอบดูตามแนวปิดกั้น ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารต้องขอความร่วมมือไม่ให้เข้าไปใกล้ในบริเวณดังกล่าวมากจนเกินไป -สำนักข่าวไทย