นนทบุรี 25 เม.ย. – อธิบดีกรมการค้าภายในเตรียมแผนรับมือปริมาณ-ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ยอมรับสินค้าเกษตรปีนี้อาจมีปัญหาบ้าง พร้อมกำหนดมาตรการรองรับผลักดันราคาให้สูงขึ้น
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในติดตามสถานการณ์สินค้าเกษตรใกล้ชิด โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มีปริมาณ 4.61 ล้านตันต่อปี ไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบอาหารสัตว์อื่นมาทดแทน เช่น ข้าวสาลี และกากข้าวโพดจากการผลิตเอทานอล (DDGS) เพื่อให้อุตสาหกรรมปศุสัตว์มีวัตถุดิบเพียงพอในราคาต้นทุนที่สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ ปัจจุบันเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เกือบครึ่งหนึ่งปลูกในพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์หรือบุกรุกพื้นที่ป่า ซึ่งผลผลิตที่ได้มีคุณภาพต่ำ นอกจากนี้ ผู้ผลิตอาหารสัตว์หลายรายไม่รับซื้อ เนื่องจากจะเป็นปัญหาในการส่งออกปศุสัตว์ เพราะประเทศผู้ซื้อกำหนด เรื่อง การรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นข้อแม้ในการซื้อด้วย กระทรวงพาณิชย์จึงเสนอแนวทางบริหารจัดการการนำเข้าวัตถุดิบทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ โดยใช้มาตรการกำหนดอัตราส่วนการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วนต่อการรับซื้อข้าวโพด 3 ส่วน มีผลตั้งแต่วันที่ 19 มกราคม 2560
ทั้งนี้ การที่มีผู้เสนอให้ระงับการนำเข้าข้าวสาลีนั้น ไม่อาจดำเนินการได้ เนื่องจากจะขัดกับพันธกรณีของไทยภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) จึงต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง โดยการรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เกษตรกรจะจำหน่ายผลผลิตให้กับพ่อค้าคนกลางในรูปฝัก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรรายย่อยไม่สามารถแปรรูปและปรับปรุงคุณภาพหรือขนส่งไปถึงโรงงาน ซึ่งอาจอยู่ห่างไกล จึงต้องผ่านกระบวนการปรับปรุงคุณภาพจากพ่อค้าคนกลางก่อนส่งให้โรงงานอาหารสัตว์ กรมการค้าภายในจึงเชื่อมโยงตลาดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้แก่เกษตรกร โดยขอความร่วมมือสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทยรับซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ จากเกษตรกรราคาไม่ต่ำกว่า กก.ละ 8.00 บาท ความชื้น 14.5% (ราคา ณ กรุงเทพฯ และปริมณฑล) รวมทั้งเปิดช่องทางพิเศษเพื่อให้เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร กลุ่มสหกรณ์ นำผลผลิตมาจำหน่ายโดยตรงทันที แต่ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์จะรับซื้อราคาต่ำ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพการปรับปรุงคุณภาพข้าวโพดและสามารถจำหน่ายให้แก่โรงงานอาหารสัตว์ได้โดยตรง กระทรวงพาณิชย์จะมุ่งเน้นที่จะส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มในรูปของสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร ปรับปรุงคุณภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เกษตรกร
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกษตรกรจำหน่ายอยู่ในเกณฑ์ดี โดยข้าวโพดชนิดเมล็ด (ความชื้น 14.5%) โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อ กก.ละ 7.90-8.00 บาท ส่วนผู้ค้าท้องถิ่นรับซื้อ กก.ละ 6.50-6.70 บาท มีเพียงบางพื้นที่ที่เพาะปลูกในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์และผลผลิตคุณภาพต่ำจะจำหน่ายได้ในราคาลดลง ซึ่งกรมการค้าภายในจะจัดตลาดนัดเชื่อมโยงให้ผู้ส่งออกและผู้รวบรวมรับซื้อข้าวโพด จากเกษตรกรในราคาที่เหมาะสมต่อไป
สำหรับสินค้าเกษตรอื่นที่สำคัญ ส่วนใหญ่มีราคาสูงขึ้น เช่น กระเทียม หอมแดง พริก ปี 2560 (เฉลี่ยเดือนเมษายน) ราคาอยู่ในเกณฑ์ดีและสูงกว่าราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 3 – 89 เช่น ราคาหอมแดงหัวกลางมัดจุกแห้ง 7-15 วัน เกษตรกรขายได้เฉลี่ย กก.ละ 24.50 บาท สูงกว่าปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ กก.ละ 20.41 บาท ราคากระเทียมสดคละที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยรายเดือน ณ วันที่ 21 เมษายน 2560 กก.ละ 26.75 บาท สูงกว่าปี 2559 ซึ่งอยู่ที่ กก.ละ 16.37 บาท ปัจจุบันอยู่ในช่วงปลายฤดู ยกเว้นถั่วเขียวที่มีราคาต่ำกว่า 3 ปีที่ผ่านมาเพียงเล็กน้อย เนื่องจากเกษตรกรปลูกทดแทนข้าวนาปรังจำนวนมาก แต่ผลผลิตยังไม่ได้คุณภาพตามความต้องการของตลาด
อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในเตรียมมาตรการรองรับหากเกิดปัญหา โดยจะเชื่อมโยงไปยังโรงงานแปรรูปเป็นหอมแดงเจียว กระเทียมเจียว พริกป่น เครื่องแกง วุ้นเส้นถั่วเขียว และส่งเสริมให้เกษตรกรแปรรูปสินค้าเพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น พริกแห้ง จัดหาตลาดให้เกษตรกร นำสินค้ามาจำหน่าย เช่น ตลาดในความส่งเสริมของกรมการค้าภายใน พร้อมประสานหน่วยงาน เช่น กรมศุลกากรให้มีการควบคุมดูแลการนำเข้าอย่างเข้มงวด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการผลิตให้เข้าไปช่วยดูแลให้ความรู้เกษตรกรในการพัฒนาคุณภาพต่อไป.-สำนักข่าวไทย