กทม.25 เม.ย.- ตร..- สกธ. บูรณาการร่วมสร้าง“สถานีตำรวจล้ำสมัย” สร้างความล้ำ 5 ด้าน 5 ประเด็น นำร่อง 3 สน.ต้นแบบ สนองนโยบาย“ปฏิรูป ตร.-ขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0” พร้อมรับอาเซียน
พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และนายวัลลภ นาคบัว ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการยุติธรรม หรือ สกธ. ร่วมแถลงข่าว “สถานีตำรวจล้ำสมัย” บูรณาการ “กระบวนการยุติธรรม” พร้อมขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 รองรับประชาคมอาเซียน
นายวัลลภ กล่าวว่า ปัจจุบัน ปัญหาสำคัญในกระบวนการยุติธรรม คือ ระบบการทำงานที่ไม่ทันสมัย มีขั้นตอนมาก บริการล่าช้า จึงต้องปรับปรุงสถานีตำรวจให้สามารถบริการประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว มีการนำเทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วยหรือเครื่องมือให้แก่เจ้าหน้าที่จึงนำมาสู่โครงการ “สถานีตำรวจล้ำสมัย” เพื่อพัฒนาการให้บริการประชาชน ด้านการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะส่งผลให้สังคมเกิดความปลอดภัย กระบวนการยุติธรรมมีความน่าเชื่อถือ สร้างความเชื่อมั่นต่อภาพรวม
ด้านพลตำรวจโทปิยะ กล่าวว่า การก้าวสู่สถานีตำรวจล้ำสมัย คือ ต้องเป็นสถานีตำรวจเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ทั้งช่องทางการให้บริการ การจัดพื้นที่พักสำหรับประชาชน การจัดห้องซักถามแยกเป็นการเฉพาะ การออกแบบอาคารและจุดบริการให้โดดเด่น มีการพัฒนาอุปกรณ์ เครื่องมือและเทคโนโลยีในการปฏิบัติงาน มีการพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศอาชญากรรม ข้อมูลคดี และการเชื่อมโยงศูนย์แลกเปลี่ยนข้อมูลกระบวนการยุติธรรมต้นแบบ (Data Exchange Center) มีงบประมาณ วัสดุอุปกรณ์ การเงินและค่าตอบแทน ให้ภาคประชาชนในพื้นที่ชุมชนเป็นหุ้นส่วน เพื่อการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในพื้นที่รับผิดชอบ และมีการพัฒนาโครงสร้างการบริหาร โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาระบบงานตำรวจระดับสถานีตำรวจ ระดับจังหวัด และระดับภูมิภาค ซึ่งการพัฒนาทั้งหมดนี้ จะความสอดคล้องกับเป้าหมายการปฏิรูปตำรวจ ที่มุ่งสู่การเป็นองค์กรบังคับใช้กฎหมายที่ยุติธรรม ประชาชนเชื่อมั่นศรัทธาและมีมาตรฐานสากล อีกทั้ง การดำเนินการตามโครงการ “สถานีตำรวจล้ำสมัย” จะช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศไทย 4.0
ด้านพันตำรวจเอกสุพีรณัฐ สัตตธนชัยภัทร รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 รักษาราชการแทนผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ กล่าวว่า สน.ภาษีเจริญ เป็น 1 ในต้นแบบสถานีตำรวจล้ำสมัย ในบริบทชุมชนเมือง ดังนั้น จึงเริ่มนำเทคโนโลยีเข้ามารองรับ เช่น การพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับแจ้งเหตุผ่านทางแอพบนสมาร์ทโฟน ชื่อว่า Police i lert u ขณะนี้ มีผู้เข้ามาใช้ประมาณ 100,000 คน ขณะเดียวกัน ตำรวจสายตรวจ ก็ต้องล้ำสมัย ต้องมีอุปกรณ์ที่พร้อม ทั้งกล้องติดหมวก วิทยุสื่อสาร กระบองกัทส์บาตอง ทำให้ตำรวจหนึ่งคน สามารถทำงานได้มากกว่าเดิม
โครงการดังกล่าวเริ่มต้นใน 3 สถานี คือ สน. ภาษีเจริญ, สน.บางแก้ว สมุทรปราการ และ สภ.พัทยา จ.ชลบุรี ทั้งการปรับปรุงสถานที่ การนำเครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆเข้ามาใช้ และจะมีการประเมินผลโครงการดังกล่าว จากเสียงสะท้อนความพอใจของประชาชนในการใช้บริการ และสถิติ ปัญหาอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากนี้ เป็นเวลา 1 ปี ก่อนขยายไปสู่โรงพักต่างๆทั่วประเทศ.-สำนักข่าวไทย