รัฐสภา 24 ต.ค. – คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจเดินหน้ายกเครื่องตำรวจ รับมืออาชญกรรมยุคไซเบอร์ เตรียมนำคณะลงพื้นโรงพักต้นแบบ ต่อยอดสร้างความมั่นคงประเทศ หลัง 10 มหันตภัยไซเบอร์ คุกคามไทยหนัก
นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานอนุกรรมการด้านสื่อสารกับสังคม ในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) เปิดเผยว่า พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ) ได้มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการประสานงาน เพื่อลงพื้นที่ดูงานโรงพักต้นแบบ “สถานีตำรวจล้ำสมัย” 3 แห่ง คือ ในเขตนครบาล ที่สถานีตำรวจนครบาลภาษีเจริญ ในเขตภูมิภาค ที่สถานีตำรวจภูธรบางแก้ว จ.สมุทรปราการ และในเขตปกครองพิเศษ ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพัทยา เพื่อนำข้อมูลมาจัดทำแผนปฏิรูปตำรวจ หลังมีข้อมูลแนวโน้มอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในอนาคตจะมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมประเทศไทย มีความเสี่ยงถึงร้อยละ 41
“เป็นความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน และเมื่อได้ลงพื้นที่ไปดูโรงพักตัวอย่างแล้ว จะได้กำหนดแผนปฏิรูปตำรวจ ผสมกับยุทธศาสตร์การปฏิรูปกิจการตำรวจ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ และจะต้องขจัดข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งมีอยู่มากมายให้หมดไป” นายมานิจ กล่าว
ทั้งนี้ ภัยคุกคามทางไซเบอร์ มีทั้งภัยคุกคามในเรื่องความมั่นคงปลัดภัยทางไซเบอร์ (cyber threats) และภัยคุกคามในเรื่องอาชญากรรมทางไซเบอร์ (cyber crime) โดยอาชญากรรมทางไซเบอร์ในประเทศไทย ที่ บก.ปอท. พบบ่อย10 อันดับ ได้แก่ 1.การหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ 2.การหมิ่นประมาทผู้อื่น 3.การเจาะระบบ 4.การนำเข้าสู่ระบบซึ่งข้อมูลปลอมหรือเป็นเท็จ 5.การเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบข้อมูลและข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ 6.การรีดเอาทรัพย์โดยขู่ว่าจะล่มระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีผู้ยินยอมจ่ายเงินไปแล้ว 7.การใช้หรือมีไว้ซี่งบัตรอีเล็คทรอนิกส์ของผู้อื่น 8.การหลอกลวงทางอีเมล์ 9.การหลอกลวงผู้หญิงในการหาคู่ ซึ่งผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไปตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงหาคู่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆและ 10.การฉ้อโกงในลักษณ์อื่นๆ .- สำนักข่าวไทย