รัฐสภา 21 ส.ค.- กก.ปฏิรูปตำรวจเตรียมชงเกณฑ์ขั้นต่ำให้ผู้กำกับและผบ.ตร.ต้องผ่านงานสืบสวนไม่น้อยกว่า 80 คดี
นายมานิจ สุขสมจิตร ประธานอนุกรรการด้านสื่อสาร คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการทำงานปฏิรูปตำรวจ ซึ่งมีพล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ เป็นประธานว่า ในวันนี้ (21 ส.ค.) คณะอนุกรรมการฯ ด้านต่าง ๆ ที่ไปศึกษา กลับมารายงานต่อที่ประชุม แต่ยังไม่ได้ข้อยุติ เพราะที่ประชุมเห็นว่าหลายเรื่องควรต้องกลับไปหาข้อมูลเพิ่มเติมให้สมบูรณ์แล้วจึงนำกลับมาหาข้อยุติอีกครั้ง คาดว่าภายในเดือนกันยายน น่าจะเห็นเป็นรูปเป็นร่าง โดยเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายจะต้องทำให้เสร็จก่อนเรื่องอื่น ทั้งนี้จากการหารือเห็นค่อนข้างตรงกันว่าข้าราชการตำรวจที่จะเลื่อนมาเป็นระดับผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่ผู้กำกับการ จนถึงผู้บัญชาการ จะต้องผ่านคดีและผ่านงานสืบสวนมาไม่น้อยกว่ากี่คดี ซึ่งมีการยกตัวอย่างว่า บุคคลที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำกับ น่าจะต้องผ่านงานสืบสวนมาไม่น้อยกว่า 80 คดี ซึ่งเมื่อได้ข้อยุติแล้วจะชัดเจนว่าจะต้องมีการปรับแก้กฎหมายในส่วนใด ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุน
นายมานิจ กล่าวว่า คณะกรรมการฯ ยังคงเดินหน้ารับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย และในวันที่ 24 ส.ค.นี้จะเปิดเวทีรับฟังความเห็นเวทีแรกที่โรงแรมเซ็นทราแกรน ศูนย์ราชการ โดยพล.อ.บุญสร้าง จะนำทีมคณะกรรมการไปร่วมรับฟังความเห็นด้วยตัวเอง ในหัวข้อ “ปฏิรูปตำรวจทำไม อย่างไร สังคมจะได้อะไร” และ “ตำรวจในฝันที่ประชาชนอยากเห็น จะเป็นอย่างไร” โดยกรรมการจะรับฟังอย่างเดียว ไม่มีการโต้แย้ง และจากนั้นจะกระจายรับฟังความเห็นในภาคต่าง ๆ รวมทั้งยังคงเปิดตู้ไปรษณีย์ 139 หรือแสดงความเห็นผ่านเว็บไซด์ www.thaipolicereform.org นอกจากนี้ทางคณะกรรมการฯ ยังได้จัดทีมเดินสายไปรับฟังความเห็นจากบุคคลที่เคยดำรงตำแหน่งผบ.ตร.หรืออธิบดีกรมตำรวจ ซึ่งได้ข้อมูลมาบ้างแล้วจากพล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธ์ เตมียเวช รวมทั้งจะขอข้อมูลจากบุคคลที่เคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ อาทิ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสปท. นายวีระ สมความคิด เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย