“มานิจ” เตรียมเสนอให้เปิดตู้ ปณ.รับฟังความคิดเห็นปฏิรูปตำรวจ

กรุงเทพฯ 8 ก.ค.-  “มานิจ” เตรียมเสนอให้เปิดตู้ไปรษณีย์รับฟังความคิดเห็นปฏิรูปตำรวจ  เชื่อ ทำงานทันกรอบ 9 เดือน  ขออย่ามองทหารปฏิรูปตำรวจ  


นายมานิจ สุขสมจิตร  กรรมการปฏิรูปประเทศ ด้านกระบวนการยุติธรรม (ตำรวจ)  เปิดเผย ถึงการประชุมร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ จะนทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ (7 ก.ค.) ว่า เป็นการรับฟังความเห็นของนายกรัฐมนตรี ในการกำหนดกรอบการทำงาน ที่แบ่งเป็น 3 ช่วง หรือ 2-3-4 ให้เหมาะสมกับระยะเวลาที่เหลืออยู่ 9 เดือน โดย 2 เดือนแรกจะเป็นการรับฟังความเห็นจากประชาชน และรวบรวมวิเคราะห์ผลการศึกษา ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปตำรวจ  จากนั้น อีก 3 เดือนจะเป็นการร่างกฎหมาย และแก้ไขปรับปรุงระเบียบ  ส่วน 4 เดือนสุดท้าย จะเป็นการรับฟังความเห็นจากประชาชน และประกาศใช้กฎหมาย และหากมีข้อติดขัด สามารถใช้กฎหมายพิเศษตามคำสั่งมาตรา 44 เพื่อให้การทำงานเร็วขึ้น  โดยจะจะมีการประชุมนัดแรกในวันที่ 12 กรกฎาคมนี้

“เชื่อว่า กรอบระยะเวลาในการรับฟังความคิดเห็นและประมวลผลการศึกษา 2 เดือนจะเพียงพอ เพราะฝ่ายเลขาฯ ได้รวบรวมผลการศึกษาจากนายคณิต ณ นคร   นพ.ประเวศ วะสี  พล.ต.อ.สิษฐ เดชกุญชร หรือแม้แต่ข้อเสนอของกลุ่ม กปปส. และนำโมเดลของต่างประเทศ มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับประเพณีและวัฒนธรรมความเป็นไทย และผมจะเสนอให้เปิดตู้ไปรษณีย์รับฟังความคิดเห็น เชื่อว่า เวลาอีก 9 เดือนจะทำให้การปฏิรูปตำรวจเสร็จทันตามกรอบเวลา” นายมานิจ กล่าว


นายมานิจ กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอที่จะให้มีการแยกงานสอบสวนและสืบสวนออกจากกันนั้น  เห็นว่า เป็นแนวคิดที่มีความเป็นไปได้ เพราะหากงาน 2 ส่วนนี้อยู่ด้วยกัน อาจมีการตั้งธงในการทำงาน และทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับประชาชน ดังนั้น เมื่อการปฏิรูปครั้งนี้ เป็นสิ่งที่ประชาชนเรียกร้อง และถูกจับตาจากสังคม จึงต้องทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด 

“ส่วนตัวเห็นว่า โครงสร้างองค์กรของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องมีความเหมาะสม ไม่ย้ายไปสังกัดกระทรวงยุติธรรมหรือกระทรวงมหาดไทยเพื่อให้ปลอดการครอบงำจากฝ่ายการเมือง และจะต้องเพิ่มรายได้ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี  ไม่ให้ใช้ช่องทางของกฎหมายไปทำในเรื่องที่ไม่ถูกต้อง” นายมานิจ กล่าว

นายมานิจ ยังขอว่า อย่าคิดว่าจะให้ทหารมาปฏิรูปการทำงานของตำรวจ เพราะคณะทำงานที่ตั้งมา ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง และถือว่าทุกคนเป็นคนธรรมดา แม้แต่ พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการ  ก็เกษียณแล้ว ถือเป็นประชาชนธรรมดา และต้องรับบริการจากตำรวจ  


  .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง