จ.ตาก 21 เม.ย.-รมว.แรงงาน ลงพื้นที่เขตเศรษฐกิจแม่สอด จ.ตาก ติดตามปัญหาด้านแรงงาน ผู้ประกอบการ ชี้ ขาดแคลนแรงงาน เหตุ ม.14 ให้สิทธิแค่แรงงานใน จ.เมียวดี
พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสังกัดกระทรวง ลงพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด จ.ตาก เพื่อติดตามผลการดำเนินงานการเตรียมความพร้อมด้านแรงงานของจังหวัดและรับฟังประเด็นปัญหา อุปสรรค ข้อเสนอแนะจากภาคเอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมชั้น 4 สำนักงานเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
ที่ประชุมฝั่งผู้ประกอบการ ได้สะท้อนปัญหาด้านแรงงาน ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานเนื่องจาก ม.14 แห่ง พ.ร.บ.การทำงานของคนต่างด้าว2551ที่ประกาศใช้เพื่อนำแรงงานเมียนมา ที่ถือบัตรข้ามแดน (Border pass)ให้เข้ามาทำงานในไทยแบบเช้ามา เย็นกลับเฉพาะในพื้นที่ อ.แม่สอด,แม่ระมาด,และพบพระ เพื่อแก้ไขปัญหาในพื้นที่ ได้กำหนดการนำเข้าเพียงแค่แรงงานในจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา เท่านั้น ทำให้แรงงานในพื้นที่ใกล้เคียง อย่างย่างกุ้ง กะเหรี่ยง ไม่สามารถเข้ามาทำงานตาม ม.14 ได้ และฝั่งเมียนมา ลำบากต้องย้ายคนนอกพื้นที่ ย้ายมาเข้าทะเบียนบ้านในเมียวดี ก่อนออกบัตรข้ามแดนให้ ทำให้ค่าใช้จ่ายฝั่งเมียนมาเพิ่มขึ้น จาก 1,500 บาท เป็น 3,000 บาท และตั้งแต่เริ่มบังคับใช้ จนถึงวันที่ 29 มีนาคม 2560 มีแรงงานได้รับอนุญาตเพียง 1,324 คน ดังนั้น จึงเสนอกระทรวงควรทำข้อตกลงกับเมียนมาใหม่ ผ่อนปรนข้อกำหนด ทำข้อตกลงใหม่ ให้แรงงานในพื้นที่ใกล้เคียงเมียวดี สามารถผ่านเข้ามาทำงานตาม ม .14 ได้ และขยายอายุการทำงานในไทยเป็น 90 วัน จากเดิมที่ทำงานอยู่ได้เพียง 30 วัน นอกจากนี้ยังเสนอให้ลดอัตราเงินสมทบประกันสังคมจากร้อยละ 5 เหลือเป็นร้อยละ 3 เพื่อช่วย เหลือผู้ประกอบการในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพอเศษ และกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย
พล.อ.ศิริชัย เปิดเผยหลังประชุมว่า สำหรับข้อเสนอ ม.14 ที่ต้องการให้ผ่อนปรนแรงงานในพืนที่ใหล้เคียง จ.เมียวดี และขยายเวลาการทำงานจาก30 เป็น 90 วันนั้น ถือเป็นเรื่องที่กระทรวงและส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันหารือมาบ้างแล้ว หลังจากนี้จะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศเป็นการภายในก่อนที่จะพูดคุยกับประเทศเมียนมา ส่วนการขอลดเงินสมทบนั้น ที่ผ่านมากระทรวงโดย สำนักงานประกันสังคม มีนโยบายลดเงินสมทบให้ผู้ประกอบการ กรณีประสบเหตุภัยพิบัติจากร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 3 และได้เพิ่มสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประกันตนมากมาย
ส่วนเรื่องที่ว่าจะลดให้ผู้ประกอบการในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษได้หรือไหมนั้น ต้องนำมาพิจารณาถึงความจำเป็นและความเหมาสมกันว่า จะลดให้ได้ไหม เพราะอัตราที่เก็บถือว่ามีความเหมาะสมอยู่แล้ว .-สำนักข่าวไทย