fbpx

เมาแล้วขับ จับคุมประพฤติปีนี้ กว่า 5,000 คน

รพ.นพรัตน์ราชธานี 19 เม.ย.- อธิบดีกรมคุมประพฤติ เผยสงกรานต์นี้มีคนเมาแล้วขับเข้าสู่กระบวนการคุมประพฤติ 5,173 คน ให้ทำงานบริการสังคมใน รพ. โดยเฉพาะช่วยงานห้องฉุกเฉิน-ห้องดับจิต เพื่อสำนึกไม่กลับ ไปทำผิดซ้ำ


พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมคุมประพฤติ รว่มกับ นพ.สมบูรณ์ ทศบวร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ร่วมแถลงข่าว “คุมประพฤติจัดหนัก ดื่มแล้วขับ เข้าห้องดับจิต” ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา


พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 3,690 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 390 ราย บาดเจ็บ 3,808 ราย มีคดีที่เข้าสู่กระบวน การคุมประพฤติจากสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศ 120 แห่ง  มีจำนวนทั้งสิ้น 5,173 คดีแบ่งเป็นขับรถขณะเมาสุรา 4,856 คดี ,เสพของมึนเมาขณะขับรถ จำนวน 278  คดี และขับรถประมาท(ตามประมวลกฎหมายอาญา) 39 คดี  

จังหวัดที่มีสถิติคดีสูงสุดคือนครพนม 402 คดี ,กรุงเทพฯ 287 คดี, สุรินทร์ 285 คดี ทั้งในส่วนของคดีที่เข้าสู่ศาลไม่ได้แค่ที่ได้รายงานเพราะอยู่ในการพิจารณาอีกหลายคดี  แต่ ณ วันนี้ ที่ศาลมีคำสั่งให้คุมประพฤติมีตามที่ได้แจ้ง โดยผู้ทำผิดในคดีจะต้องไปทำงานบริการสังคมในสถานพยาบาล แต่ละคนมากน้อยแตกต่างกันไป แต่ที่น่าจะทำให้เกิดการสำนึกคือการเข้าไปช่วยในห้องฉุกเฉินและห้องดับจิต จะได้เห็นสภาพของผู้ที่ได้รับผลจากอุบัติเหตุที่เกิดจากเมาแล้วขับ เป็นกุศโลบายที่ในต่างประเทศได้ทำกัน


“ต้องยอมรับว่าคนที่ทำผิดเมาแล้วขับ คงไม่เกิดการสำนึกเท่าไหร่ เหมือนสุภาษิตที่ว่า ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา การจะให้ไปศึกษาอบรมก็คงจะไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวด จึงต้องให้มาสัมผัสเอง”พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าว

อย่างไรก็ตามตอนนี้ยังไม่มีการรวบรวมสถิติผู้ได้เข้าโปรแกรมและกลับไปกระทำผิดซ้ำภายในระยะเวลา 1 ปี หลังจากนี้จะได้มีการรวบรวมสถิติข้อมูลอย่างสะเอียดเพื่อนำกลับไปปรับปรุงแก้ไข แต่ส่วนตัวเชื่อว่าผู้ที่เข้าโปรแกรมจะมีความสำนึก และไม่กลับไปกระทำผิดอีกไม่มากก็น้อย

ด้าน นพ.สมบูรณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันยอดผู้มาปฏิบัติบริการสังคมในโรงพยาบาลมี 2,314 ราย โรงพยาบาลจัดให้ทำงาน ตั้งแต่ ฝ่ายระเบียนเวช ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน ห้องดับจิต เป็นต้น ซึ่งในอนาคตคงต้องมีการรวบรวมสถิติผู้ที่กระทำผิดซ้ำภายใน 1 ปี เพื่อนำมาปรับปรุงให้ได้ผลมากยิ่งขึ้นในอนาคต 

ด้านจิตอาสาที่กระทำผิดในคดีเมาแล้วขับรายหนึ่ง กล่าาว่า ตนโดนจับในข้อหาเมาแล้วขับ เมื่อช่วงเทศกาลปีใหม่ เดือนมกราคมที่ผานมา โดนเป่าแอลกอฮอลล์ได้กว่า 100 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์  และถูกจำคุก 1 คืนรู้สึกว่าท้อเเท้กับชีวิตมาก ไม่กล้าบอกครอบครัว เพราะกลัวจะทำให้ผิดหวัง แต่เมื่อศาลมีคำสั่งให้คุมประพฤติและต้องทำงานบริการในโรงพยาบาลเป็นเวลา 24 ชั่วฏมง โดยแบ่งเป็นเดือนละครั้ง ครั้งละ 6 ชั่วโมง วันนี้มาปฎิบัติเป็นวันแรก เมื่อได้มาเห็นผู้ที่เสียชีวิต หรือบาดเจ็บจากเมาแล้วขับทำให้ฉุกคิดได้ และคงจะไม่กลับไปกระทำผิดซ้ำสองแล้ว และอยากจะกลับไปบอกเพื่อนฝูง ครอบครัว ลูกหลานไม่ให้กระทำผิดเเบบตนอีก ถือเป็นโครงการที่ดี เนื่องจากที่ผ่านมาไม่เคยตระหนักว่าผลที่ตามมาคืออะไร .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME