กองทัพภาคที่ 1 8 พ.ย. – สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลออกมาตรการเข้มให้ผู้จองสลากทำสัญญาใหม่ทุก 6 เดือน ปรับวันจ่ายสลากที่จองผ่านไปรษณีย์ พร้อมลงพื้นที่บุกจับผู้ค้าสลากเกินราคา
พลโทอภิรัชต์ คงสมพงษ์ ประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า สลากราคาแพง เพราะผู้ที่ได้รับสลากบางส่วนไม่ได้เป็นผู้จำหน่ายสลากรายย่อยที่แท้จริง จึงนำสลากที่ได้รับจัดสรรทั้งจากระบบโควตาเดิมและจากโครงการซื้อ-จองสลากผ่านธนาคารกรุงไทยไปขายช่วงต่อให้กับนายทุนที่เข้ามากว้านซื้อสลากจากผู้ค้ารายย่อย ซึ่งมีสัดส่วนการถือครองสลากมากถึงร้อยละ 85 ของจำนวนสลากทั้งหมด แล้วนำไปรวมชุดจำหน่ายราคาแพงมาก
ทั้งนี้ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจึงมีมาตรการแก้ปัญหา โดยการคัดกรองผู้ที่จำหน่ายสลากจริงด้วยการทำสัญญาใหม่ทุก ๆ 6 เดือน ซึ่งการทำสัญญาครั้งต่อไปจะดำเนินการระหว่างวันที่ 19 – 25 พฤศจิกายน 2559 (อายุสัญญา 16 ธันวาคม 2559 – 1 มิถุนายน 2560) พร้อมปรับข้อความในสัญญาให้รัดกุมขึ้น ทำให้สามารถตรวจสอบสลากที่จำหน่ายบนแผงจำหน่ายสลากได้ครอบคลุมมากขึ้น โดยภายหลังจากการทำสัญญาสำนักงานสลากฯ จะลงพื้นที่ตรวจสอบ สำหรับสลากที่ถูกยกเลิกสัญญาจะนำมาเข้าสู่โครงการซื้อ – จองล่วงหน้าฯ เพื่อให้ผู้จำหน่ายจริงได้มีโอกาสเข้าถึงสลากมากขึ้น
นอกจากนี้ จะดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาสลากรวมชุด ด้วยการปรับวันจ่ายสลากจองที่ไปรษณีย์ปลายทางจากเดิม วันที่ 2 และวันที่ 17 ของเดือน เปลี่ยนเป็นวันที่ 7 และ 22 ของเดือน ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ในการจำหน่ายสลากของตลาดวังสะพุง ทั้งนี้ เพื่อทำให้ยี่ปั๊วไม่มีเวลาในการนำสลากจองไปรวมชุด ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ค้ารายย่อยที่แท้จริงสามารถทำรายการสลากจองล่วงหน้าได้มากขึ้น และคาดว่าผลที่จะได้รับจากการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคาจะทำให้สามารถตัดวงจรนายทุนที่เข้ามากว้านซื้อสลากออกไปจากตลาด ทำให้การรวมชุดสลากลดลงหรือหมดไป รวมถึงคัดกรองผู้ค้าสลากรายย่อยที่แท้จริงส่งผลให้สามารถจำหน่ายสลากได้ในราคาที่กำหนด คือ 80 บาท
ขณะที่โครงการซื้อ-จองสลากล่วงหน้าผ่านธนาคารกรุงไทย ถือเป็นอีกหนึ่ง โครงการที่ช่วยแก้ไขปัญหาการจำหน่ายสลากเกินราคาได้อย่างเป็นระบบ โดยโครงการนี้ได้ดำเนินการมาแล้ว 27 ครั้ง ได้รับความสนใจจากผู้ขายสลากที่มาลงทะเบียนร่วมโครงการกว่า 172,000 ราย แต่ละครั้งที่ทำการซื้อ – จองล่วงหน้าฯ มีผู้ที่พร้อมทำรายการครั้งละกว่า 99,000 ราย มีผู้ได้รับสลากไปจำหน่ายจากโครงการนี้งวดละกว่า 67,000 ราย ซึ่งสามารถสะท้อนปริมาณสลากที่ควรจะมีจำหน่ายในตลาดที่แท้จริงและจำนวนผู้ขายจริงได้
ประธานกรรมการสลากฯ เปิดเผยว่า มีการนำสลากมารวมชุดเพื่อจำหน่ายสูงเกินราคาที่กำหนด 80 บาท ในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา มีผู้จำหน่ายสลากเกินราคาถูกจับกุมแล้วทั้งสิ้น 745 ราย ในจำนวนนี้มีตัวแทนจำหน่ายถูกยกเลิกสัญญา 153 ราย และถูกตัดสิทธิ์จากโครงการซื้อ-จองล่วงหน้าฯ 57 ราย ระหว่างวันที่ 30 – 31 ตุลาคม 2559 เจ้าหน้าที่ของกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองทัพภาคที่ 1 จับกุมผู้ที่จำหน่ายสลากเกินราคาทั้งสิ้น 592 ราย โดยผู้ถูกจับกุมทั้งหมดถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายกำหนดไว้ คือปรับรายละไม่เกิน 10,000 บาท และหากเป็นตัวแทนจำหน่ายจะถูกยกเลิกสัญญาทันที พร้อมทั้งขึ้นบัญชีรายชื่อ (Black list) ไม่ทำสัญญาครั้งต่อไป สำหรับผู้ที่ซื้อ-จองล่วงหน้า ก็จะถูกตัดสิทธิ์การลงทะเบียนทันที
ทั้งนี้ สำนักงานสลากฯ จะประสานกับเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจตรวจสอบพื้นที่ที่มีรายงานว่ามีการกระทำผิด เช่น แยกคอกวัว จรัญสนิทวงศ์ รามอินทรา พุทธมณฑล สนามบินน้ำ นครปฐม ราชบุรี เป็นต้น หากพบกระทำผิดจริงจะดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมมองว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย