เปิดใจสาวในคลิประทึกถูกคนร้ายกระชากซองกันน้ำลากไปตามถนน

สุราษฎร์ธานี 16 เม.ย.-หญิงสาวในคลิปเล่านาทีระทึก คืนวันสงกรานต์ที่เกาะสมุยโดนคนร้ายขี่ จยย. 2 คน พยายามชิงทรัพย์ ถูกลากไปกับพื้นถนนกว่า 50 เมตร 



วานนี้ (15 เม.ย.) เพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ V.4 นำคลิปวิดีโอเหตุการณ์ที่มีผู้เสียหายเป็นหญิงสาวรายหนึ่ง ถูกคนร้ายพยายามชิงทรัพย์ขณะเดินอยู่บนถนนสายเลียยหาดเฉวง ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี โดยคนร้ายมีด้วยกัน 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมาทางด้านหลังผู้เสียหาย คนซ้อนท้ายได้กระชากซองพลาสติกกันน้ำที่ห้อยอยู่กับคอของผู้เสียหาย ที่ภายในมีโทรศัพท์มือถือ เงินสด และเอกสารส่วนตัว แต่ผู้เสียหายพยายามยื้อยุดกับคนร้าย จนถูกลากไปกับพื้นถนนยาวกว่า 50 เมตร จนได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายได้หลบหนีไป


ล่าสุดวันนี้ ร.ต.อ.บุญนำ ศรีนะรัตน์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 เม.ย. เวลา 02.35 น. บริเวณยานสถานบันเทิง ถนนเลียบหาดเฉวง ม.2 ต.บ่อผุด หลังรับแจ้งได้ประสานตำรวจสายตรวจและตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี ซึ่งจากคำให้การของผู้เสียหายทราบว่า คนร้ายขี่รถจักรยานยนต์สีขาว ไม่ทราบยี่ห้อ และหมายเลขทะเบียนรถ คนซ้อนท้ายมีลักษณะรูปพรรณผมสั้นเกรียน รูปร่างอ้วน อายุประมาณ 20-25 ปี สวมเสื้อสีฟ้า และวันนี้ได้เรียก น.ส.ขนิษฐา อายุ 32 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช ผู้เสียหาย มาให้ปากคำเพิ่มเติม


ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถาม น.ส.ขนิษฐา ผู้เสียหาย เล่าว่า ในวันสงกรานต์ได้มาเที่ยวเล่นสาดน้ำกับเพื่อนที่หน้าโซโลบาร์ บริเวณหาดเฉวง และตอนกลางคืนได้เข้าไปเที่ยวต่อที่ผับกรีนแมงโก้ จนกระทั่งเวลาเกิดเหตุตนเองกำลังเดินไปหาซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อก่อนกลับห้องพัก ระหว่างที่เดินมาเรื่อยๆ ก็ได้มีชายไทย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนศรมาทางด้านหลัง อยู่ๆ ก็มีคนมากระชากกระเป๋าที่เป็นซองพลาสติกกันน้ำสำหรับเล่นน้ำสงกรานต์ ที่ภายในได้ใส่โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เงินสด 18,700 บาท บัตรประชาชน และบัตรเอทีเอ็ม พอคนร้ายกระชากไปด้วยความตกใจ จึงคว้าดึงไว้ และตะโกนบอกว่า “พี่ปล่อย พี่ปล่อย มันไม่มีอะไรในนี้” แต่คนร้ายก็ไม่ยอมปล่อยและมามองหน้าตนเอง 

ส่วนคนร้ายที่ขี่รถจักรยานยนต์ก็บิดคันเร่ง ทำให้ตนเองถูกลากไปไกลมาก “รู้สึกว่าโหดมาก” ตอนนั้นนึกถึงทุกสิ่งทุกอย่าง นึกถึงพ่อ แม่ และลูก เพราะตั้งใจว่ามาเที่ยวเล่นน้ำสงกรานต์ แล้วก็จะกลับบ้านที่ จ.นครศรีธรรมราช และยังโชคดีที่ตนเองได้รับบาดเจ็บแค่ถลอกตามร่างกาย และคนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินไป อยากให้ตำรวจเร่งจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ไวๆ เพราะลงมืออย่างป่าเถื่อน ไม่เกรงกลัวกฎหมาย และขอฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับคนอื่นๆ ขอให้อย่าได้ไว้ใจใคร และเก็บทรัพย์สินมีค่าให้มิดชิด น.ส.ขนิษฐา กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง