รวมไทยสร้างชาติ อุบชื่อแคนดิเดตนายกฯ

สุราษฎร์ธานี 22 ก.ย.- “พีระพันธุ์” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ อุบบอกแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค พร้อมชูสโลแกนสร้างสังคมที่เท่าเทียม เป็นธรรมไม่เหลื่อมล้ำ


นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรคลงพื้นที่ ประชุมจัดตั้งสาขาพรรครวมไทยสร้างชาติเขตเลือกตั้งที่3 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่โรงแรมแก้วสมุย อำเภอเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ไม่ได้เป็นการเจาะไข่แดงพรรคประชาธิปัตย์ ที่การเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาชนะการเลือกตั้งทั้ง 6 เขต แต่การเมืองเป็นเรื่องของประชาชน ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอตัวเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับประชาชน ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เท่านั้น แต่จะไปทุกพื้นที่


ส่วนที่ได้นายพงศักดิ์ จ่าแก้ว นายกฯ อบจ.สุราษฎร์ธานี เป็นแม่ทัพ จะทำให้มั่นใจในการปักธง ส.ส.พื้นที่ได้หรือไม่นั้น นายพีระพันธ์ กล่าวว่า ก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่นโยบายของพรรคจะได้รับการสื่อสารให้ประชาชนได้เข้าใจมากขึ้น ประเด็นสำคัญคือต้องการให้มีพรรคการเมืองเข้ามาช่วยเหลือและเป็นที่พึ่งของประชาชน ซึ่งความสำคัญไม่ได้อยู่ที่นำใครมาเป็นผู้สมัคร แต่มองว่าเป็นผู้ที่รู้ปัญหาชาวบ้านที่แท้จริง โดยที่ผ่านมา การเมืองภาพใหญ่ ลืมการเมืองระดับท้องถิ่น ทั้งที่เป็นชีวิตความเป็นอยู่ที่แท้จริง ไม่เคยมีใครเข้ามาช่วยเหลือดูแลประชาชนว่าเศรษฐกิจดีหรือไม่ดี หรือมีความยุติธรรมเหลื่อมล้ำในสังคม โดยเฉพาะเรื่องกฎหมาย ไม่เคยมีใครมาต่อสู้เพื่อประชาชนในการแก้ไขกฎหมาย

ทั้งนี้ ยืนยันว่านอกจากในพื้นที่ภาคใต้ ที่เปิดตัวนายกฯ อบจ. 3 จังหวัด ไม่ได้มีเป้าหมายแค่นี้ แต่ยังมีอีกหลายจังหวัด ขึ้นอยู่กับว่าจะทำให้ประชาชนสนับสนุนได้มากเท่าใด แต่ทุกพรรคการเมืองตั้งเป้าในทุกพื้นที่ รวมถึง พรรครวมไทยสร้างชาติ ที่หวังได้รับการสนับสนุนจากประชาชนเช่นกัน แต่ไม่ขอเปิดเผยตัวเลข แต่มีการตั้งเป้าไว้มาก มีผู้สมัครเยอะพอสมควรและจะส่งครบทุกเขต

นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า สำหรับแคนดิเดตนายกฯ ของพรรค ก็เป็นไปตามระบบ ซึ่งขึ้นอยู่กับที่ประชุมพรรคจะเสนอกี่คน ส่วนในอนาคต พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะมาร่วมงานกับพรรคร่วมไทยสร้างชาติ หรือไม่ นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ต้องถามพลเอกประยุทธ์ จะตอบล่วงหน้าไม่ได้ แต่เท่าที่ดูพลเอกประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์จะอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ ดังนั้นจะไปพูดก้าวล่วงไม่ได้


ขณะที่ความเคลื่อนไหวพรรคการเมืองที่ยังไม่แน่นอน ระหว่างที่รอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8 ปี ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในวันที่ 30 ก.ย.นี้นั้น นายพีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่หากเกิดอุบัติทางการเมืองก็พร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้ง และแม้จะเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้พบพลเอกประยุทธ์ ในช่วงหยุดปฏิบัติหน้าที่ ด้านสโลแกนของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือ เราสู้ได้ทุกปัญหา พึ่งพาได้ทุกเรื่อง ซึ่งต้องการสร้างสังคมที่เท่าเทียม เป็นธรรมไม่เหลื่อมล้ำ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง