แฉอีก! ผู้บริหาร ซัด “ซินแสโชกุน” อุปโลกน์เป็นกรรมการบริษัท

กรุงเทพฯ 15 เม.ย.- แฉอีก! กรรมการบริษัทเวลล์ เอฟเวอร์ ซัด “ซินแสโชกุน” ชักชวนสมัครสมาชิก จากนั้น อุปโลกน์ให้เป็นกรรมการบริษัทเมื่อ 2 เดือนก่อนจะถูกจับ   ขณะที่ รอง ผบ.ตร. สั่งเร่งรวบรวมหลักฐานออกหมายจับผู้ร่าวมกระทำผิด


ผู้บริหารบริษัท จำนวน 6 คน ได้มอบข้อมูล และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้กับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติที่กองปราบปราม ทุกคนมีตำแหน่งเป็นกรรมการบริษัท และรองประธานกรรมการบริหาร  พร้อมยืนยันสมัครใจเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ สำหรับบริษัท Wealth Ever  มีนางสาวพสิษฐ์  อริญชย์ลาภิศ หรือ “ซินแสโชกุน” ผู้ต้องหาต้มตุ๋นจัดทัวร์เที่ยวญี่ปุ่นปลอม  เป็นกรรมการบริหาร

นางสาวธัญวลัย  น้ำแก้ว  หนึ่งในกรรมการบริษัท Wealth Ever  กล่าวว่า ได้รับการชักชวนจาก “ซินแสโชกุน” ให้สมัครสมาชิกซื้ออาหารเสริม ซึ่งตัวเองเป็นสมาชิกรุ่นแรก จึงถูกชักชวนให้เป็นกรรมการบริษัทเพื่อร่วมบริหารงานเมื่อ2เดือนก่อน แต่ไม่ได้ลงทุน โดยได้รับปันผลในอนาคตหากบริษัทมีกำไร และไม่มีการเรียกประชุมผู้บริหารเพียงใช้ชื่อตัวเองเป็นกรรมการเท่านั้น    


อย่างไรก็ตาม  เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้ไปท่องเที่ยวฮ่องกงและประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากสั่งซื้อสินค้าและสะสมคะแนนครบตามยอดที่กำหนดไว้ คือ 150 พีวี หรือประมาณ  8,380 บาท  ซึ่ง “ซินแสโชกุน” อ้างว่าเป็นโปรโมชั่นพาเที่ยว โดยนำงบด้านโฆษณามาใช้ และเมื่อเดินทางไปท่องเที่ยวจะต้องถ่ายภาพคู่กับสินค้าเพื่อใช้โปรโมท  พร้อมยืนยันว่า “ซินแสโชกุน”  ไม่ได้บังคับให้หาสมาชิก หรือเครือข่ายเพิ่มขึ้น  ยอมรับด้วยว่าไม่มีการอบรมประโยชน์ของคุณสินค้าจะให้การชักชวนปากต่อปาก  ซึ่งหากมีสมาชิกเพิ่มก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่น เช่นเดียวกับ

บริษัทอื่นๆ สำหรับทริปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ ตนเองตกเป็นผู้เสียหายเช่นกันเนื่องจากถูกลอยแพที่สนามบินสุวรรณภูมิด้วย

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์  ระบุว่าทั้ง 6 คน ขณะนี้ยังอยู่ในฐานะพยานที่เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน ซึ่งจากสอบสวนพบว่าทั้งหมดได้สมัครสมาชิกเพื่อซื้ออาหารเสริมแต่มีเพียง 1 คน ที่ได้รับสินค้าครบ  


สำหรับความผิดฐานหมิ่นเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือ ข้อหาอื่น ๆ ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มกับ “ซินแสโชกุน” โดยอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน  รวมถึงออกหมายจับผู้ที่ร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติม 

ส่วนผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความกับกองปราบปรามมีจำนวนกว่า 200 คนคิดเป็นความเสียหาย มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท คาดว่าทั่วประเทศ จะมีผู้เสียหายรวมกว่า 1,000 คน โดยผู้เสียหายสามารถเข้าแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจทั่วประเทศ หากสถานีตำรวจใดไม่รับแจ้งความถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ด้าน พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ เสนาธิการผู้บังคับบัญชาฝ่ายกฎหมาย คสช. ระบุว่าพนักงานสอบสวนกองปราบปราม จะนำพยานหลักฐานยื่นต่อศาลเพื่อขออนุมัติออกหมายจังเครือข่าย “ซินแสโชกุน” ในวันที่ 17 เมายนนี้ โดยมีรายงานว่าจะเสนอออกหมายจับทั้ง 8 คน ซึ่งเป็นญาติและแม่ข่ายที่ทหารได้ควบคุมตัวไว้แล้ว  จากนั้นวันที่ 18 เมษายน ทหารจะคุมตัวทั้ง 8 คน ส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวนกองปราบปราม เพื่อสอบปากคำและข้อกล่าวหาดำเนินคดี .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ศาลตัดสินพิรงรอง

“พิรงรอง” รับกังวลใจ วันนี้ศาลตัดสิน คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช.

“พิรงรอง” ถึงศาล รับกังวลใจ คดีทรูฟ้องหลุดเก้าอี้ กสทช. ปมส่งใบเตือนทีวีดิจิทัลมีโฆษณาแทรก ยืนยันทำหน้าที่อย่างถูกต้อง

ผู้สมัคร นายก อบจ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง ร้อง ปธ.สภา

ผู้สมัคร นายก อบจ. สมุทรปราการ พรรคประชาชน หอบหลักฐานทุจริตเลือกตั้ง อบจ.ร้องประธานสภา จี้ กกต.สอบให้ความเป็นธรรม ลั่นจะไม่ปล่อยให้เรื่องเงียบ

พิรงรองคุก2ปี

คุก 2 ปี “พิรงรอง” กสทช. คดี “ทรู” ฟ้องกลั่นแกล้ง

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี “พิรงรอง” กรรมการ กสทช. ไม่รอลงอาญา ผิดมาตรา 157 ชี้มีเจตนากลั่นแกล้ง “ทรูไอดี” ให้ได้รับความเสียหาย กรณีออกหนังสือเตือนโฆษณาแทรกในทีวีดิจิทัล

บุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน

ตำรวจนครบาลบุกรวบ 2 บิ๊กบอสแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน สร้างเพจปลอมเป็นหน่วยงานตำรวจ และ ปปง. หลอกเหยื่อว่าสามารถติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกคืนได้ ค้นบ้านพบซิมบ็อกซ์โทรศัพท์ และ QR Code ปลอม จำนวนมาก

ข่าวแนะนำ

เข้าสู่คืนที่ 2 ตัดไฟฟ้าชายแดนเมียนมา ทำลายวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

เข้าสู่คืนที่ 2 สำหรับการตัดกระแสไฟฟ้า ตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ต และระงับการส่งน้ำมัน จากฝั่ง อ.แม่สอด จ.ตาก ไปเมืองเมียวดีของเมียนมา เพื่อตัดวงจรกลุ่มจีนเทา พบมีการใช้ไฟฟ้าน้อยลง

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าภายในเทศบาลตำบลรือเสาะ

คนร้ายลอบวางระเบิดรถกระเช้าจอดในอาคารจอดรถ เทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส หลังเสร็จพิธีต้อนรับนายกเทศมนตรีคนใหม่ ทำให้ไฟไหม้รถเสียหายหลายคัน

ปล้นร้านสะดวกซื้อ

รวบ 6 เยาวชน ก่อเหตุปล้นร้านสะดวกซื้อปัตตานี

รวบแล้ว 6 โจร ปล้นร้านสะดวกซื้อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ได้เงินกว่า 4,000 บาท พบผู้ก่อเหตุทั้งหมด เป็นเยาวชนอายุระหว่าง 14-16 ปี