ซาอุดีอาระเบียเริ่มฉีดวัคซีนโควิดแล้ว
ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นอีก 1 ประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนแล้ว
ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งเป็นอีก 1 ประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ได้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนแล้ว
ธนาคารกลางสหรัฐ ประกาศจะรับซื้อคืนพันธบัตรต่อไป จนกว่าจะเห็นความคืบหน้าในการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ
มะนิลา 10 ธ.ค.- ธนาคารเพื่อการพัฒนาหรือเอดีบี (ADB) ปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียว่าหดตัวลดลงจากที่ประมาณการไว้ก่อนหน้านี้ รวมถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดว่าไทยจะขยายตัวในปีหน้าลดลงจากประมาณการครั้งก่อน เอดีบีออกรายงานวันนี้ เสริมรายงานแนวโน้มการพัฒนาเอเชีย 2563 ฉบับปรับปรุงว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจในเอเชียคาดว่าจะหดตัวร้อยละ 0.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) ในปีนี้ ดีขึ้นจากที่ประมาณการในเดือนกันยายนว่าจะหดตัวร้อยละ 0.7 ก่อนจะขยายตัวสูงสุดร้อยละ 6.8 ในปีหน้า เท่ากับที่ประมาณการไว้ในเดือนกันยายน แต่หากแยกย่อยลงไป เอเชียตะวันออกมีแนวโน้มเติบโตในปีนี้ ขณะที่เอเชียอื่น ๆ หดตัว นักเศรษฐศาสตร์ของเอดีบีอธิบายว่า แนวโน้มของประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียดีขึ้น โดยมาจากเศรษฐกิจจีนและอินเดีย สองเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาคที่คาดว่าจะเติบโตขึ้น การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่ยืดเยื้อยังคงเป็นความเสี่ยงหลัก แต่ความคืบหน้าเรื่องวัคซีนจะช่วยชดเชยได้ การส่งมอบวัคซีนที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพและทันเวลาคือปัจจัยสำคัญที่จะสนับสนุนการเปิดเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของภูมิภาค อย่างไรก็ตาม การท่องเที่ยวจะยังคงฟื้นตัวล่าช้าอยู่ เอดีบีประมาณการว่า เอเชียตะวันออกจะขยายตัวร้อยละ 1.6 ในปีนี้ ดีขึ้นจากร้อยละ 1.3 ในการประมาณการเดือนกันยายนเพราะจีนและไต้หวันฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาด ส่วนปีหน้าจะขยายตัวร้อยละ 7.0 เท่ากับที่ประมาณการในเดือนกันยายน เอเชียใต้จะหดตัวร้อยละ 6.1 ในปีนี้ ลดลงจากหดตัวร้อยละ […]
คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ วงเงินกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์
รองนายกฯ ประกาศย้ำปี 64 เตรียมพลิกโฉมเศรษฐกิจไทย เป็นแม่เหล็กของการลงทุน ชวนคนไทย ออกไปท่องเที่ยว ใช้จ่ายคนละครึ่ง เพื่อผลักดันจีดีพีปีนี้หดตัวเพียงร้อยละ 6 ยืนยัน ไทยจะฟื้นกลับมาโดดเด่นหลังโควิด
ออสเตรเลียหลุดจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจครั้งแรกในรอบเกือบ 30 ปีแล้ว
กกร.เชื่อไทยมาถูกทางแม้ปีนี้จะติดลบแต่ปีหน้าเป็นบวกแน่นอน ขอให้คนไทยเชื่อมั่นรัฐบาลมาถูกทางป้องกันปัญหาโควิดได้ดี พร้อมขอให้รัฐใช้มาตรการต่างๆต่อเนื่อง
ธปท. เผยเครื่องชี้สัญญาณเศรษฐกิจไทยเดือนตุลาคมหดตัวสูง หลังปัจจัยชั่วคราวหมดลง พร้อมเตรียมชี้แจงมาตรการแก้ปัญหาค่าบาทเชิงโครงสร้างในรูปแบบแพคเกจในวันที่ 9 ธ.ค. นี้
หอการค้าไทย-จีนเชื่อปีหน้าเศรษฐกิจไทยปีหน้าโตได้ร้อยละ 2.5-3.5 ไปพร้อมกับเศรษฐกิจและจีน หนุนนักท่องเที่ยวมาไทยเพิ่ม-การค้าโลกผ่อนคลาย แต่ยังห่วงการเมืองไทยอยู่บ้าง
กัวลาลัมเปอร์ 19 พ.ย.- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีนย้ำวันนี้ว่า จีนเป็นจุดสำคัญของการค้าเสรีโลก พร้อมกับรับปากว่าจะทำให้เศรษฐกิจขนาดมหึมาแห่งนี้เปิดกว้างต่อไป และเตือนประเทศอื่นอย่าใช้นโยบายปกป้องทางการค้าในยามที่เศรษฐกิจโลกเสียหายหนักเพราะโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ประธานาธิบดีสีกล่าวสุนทรพจน์ก่อนที่ผู้นำ 21 สมาชิกกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหรือเอเปกจะประชุมผ่านระบบทางไกลในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้โดยมีมาเลเซียเป็นเจ้าภาพว่า เอเชียแปซิฟิกเป็นแนวหน้าในการขับเคลื่อนการเติบโตของเศรษฐกิจโลกที่เผชิญความท้าทายหลายอย่าง ขอเตือนประเทศที่ยืนกรานใช้อุปสรรคทางการค้าว่า จะบาดเจ็บจากสิ่งที่สร้างขึ้นมาเอง การเปิดกว้างจะส่งเสริมให้ประเทศเดินไปข้างหน้า แต่การตัดขาดจากโลกภายนอกจะรั้งให้ประเทศถอยหลัง จีนจะให้ความร่วมมืออย่างแข็งขันกับทุกประเทศ ทุกภูมิภาค และทุกธุรกิจที่ต้องการเปิดกว้าง อย่างไรก็ดี ผู้นำจีนไม่ได้กล่าวถึงนายโจ ไบเดนว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐที่จะรับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า ไบเดนเคยแสดงท่าทีแข็งกร้าวเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในจีน ตั้งแต่เรื่องปราบปรามชนกลุ่มน้อยมุสลิมในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ไปจนถึงการเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกง ยังนี้ไม่แน่ชัดว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะร่วมประชุมก่อนพ้นตำแหน่งหรือจะให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงร่วมประชุมแทน อนึ่ง เอเปกมีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพี (GDP) คิดเป็นร้อยละ 60 ของจีดีพีโลก.-สำนักข่าวไทย
โตเกียว 10 พ.ย.- นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะของญี่ปุ่น สั่งคณะรัฐมนตรีจัดทำงบประมาณเสริมก้อนที่สามสำหรับปีงบประมาณปัจจุบัน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 แพร่ระบาด แหล่งข่าวในรัฐบาลญี่ปุ่น เปิดเผยว่า งบประมาณเสริมสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันสิ้นสุดเดือนมีนาคมปีหน้า จะเป็นงบสนับสนุนโครงการให้เงินอุดหนุนในแคมเปญ “Go To Travel” หรือ “ออกไปเที่ยว” ของรัฐบาลที่คาดว่าจะขยายหลังสิ้นสุดในปลายเดือนมกราคม เพื่อสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวต่อไป ควบคู่ไปกับการกระตุ้นการบริโภค และช่วยให้ภาคธุรกิจยังคงการจ้างงานไว้ ส.ส. บางคนของพรรคเสรีประชาธิปไตย และพรรคโคเมอิโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยว่า งบประมาณเสริมดังกล่าว จะมีวงเงินระหว่าง 10-15 ล้านล้านเยน (ระหว่าง 2.88-4.33 ล้านล้านบาท) นอกจากนี้ยังจะถูกนำไปเป็นทุนส่งเสริมให้บรรดาบริษัทพัฒนาตนเองให้มีความเป็นดิจิทัลมากขึ้นและเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน ปรับปรุงการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติของประเทศ และเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินให้กับคู่รักที่กำลังเข้าโครงการส่งเสริมการมีบุตร.-สำนักข่าวไทย
ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนใน 3 เดือนข้างหน้า ยังอยู่ในเกณฑ์ซบเซาต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 พร้อมจับตาผลการเลือกตั้งสหรัฐ