กรุงเทพฯ 22 ธ.ค. – คงเป้าเงินเฟ้อปี 64 ที่ร้อยละ 1-3 เอื้อเศรษฐกิจไทยเติบโต ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวนจากโควิด-19
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีอนุมัติเป้าหมายของนโยบายการเงิน ประจำปี 2564 โดยกำหนดเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงร้อยละ 1 – 3 โดยเห็นว่าระดับที่เหมาะสมและสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลง รวมทั้งเอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับศักยภาพเศรษฐกิจไทย
ทั้งนี้ หลักการดำเนินนโยบายการเงินภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อแบบยืดหยุ่น นั้น มีเป้าหมายหลัก เพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาในระยะปานกลางควบคู่กับการดูแลเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและการรักษาเสถียรภาพระบบการเงิน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการช่วยรักษาเสถียรภาพด้านราคาและการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะยาว โดยเป้าหมายของนโยบายการเงินสำหรับระยะปานกลาง และเป้าหมายปี 64 ได้กำหนดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปแบบช่วง คือ ร้อยละ 1 – 3 ให้เป็นรูปแบบเดียวกับปี 63 เนื่องจากเป็นระดับที่เหมาะสมสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่เปลี่ยนแปลงไป ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายการเงินภายใต้โลกที่ผันผวนและมีความไม่แน่นอนสูงหลังการแพร่ระบาดของ COVID -19 โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ณ เดือน ก.ย. 63 เท่ากับ -0.9 และคาดการณ์ว่าในปี 64 อัตราเงินเฟ้อจะเท่ากับ 1.0
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีการประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในระยะต่อไปอาจมีความผันผวนจากความไม่แน่นอนของราคาพลังงานและอาหารสด ความเสี่ยงจากต่างประเทศ การกีดกันทางการค้า เป็นต้น ซึ่งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย จะร่วมกัน ติดตามความเคลื่อนไหวเป้าหมายของนโยบายการเงิน เพื่อทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะกลับเข้าสู่เป้าหมายในระยะเวลาที่เหมาะสม
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังกล่าวเพิ่มเติมว่า การกำหนดอัตราเงินเฟ้อในลักษณะนี้จะช่วยให้สามารถดูแลเป้าหมายด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายการเงิน ภายใต้เศรษฐกิจโลกที่มีความผันผวนและความไม่แน่นอนสูงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 อีกด้วย . – สำนักข่าวไทย