ผู้นำ 9 ประเทศสมาชิกอียูหนุนยูเครนเข้าร่วมนาโต

เคียฟ 3 ต.ค. – บรรดาผู้นำประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป หรืออียู 9 ประเทศในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต ลงนามในแถลงการณ์ร่วมเพื่อสนับสนุนให้ยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโต บรรดาผู้นำของสาธารณรัฐเช็ก เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิทัวเนีย นอร์ทมาซิโดเนีย มอนเตเนโกร โปแลนด์ โรมาเนีย และสโลวาเกีย ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกของอียูและนาโต ได้ลงนามในแถลงการณ์ร่วมกันที่ระบุว่า บรรดาผู้นำของทั้ง 9 ประเทศขอสนับสนุนการตัดสินใจพิจารณารับยูเครนเข้าเป็นสมาชิกของนาโต ในงานประชุมสุดยอดบูคาเรสต์ปี 2551 ทั้งยังประกาศว่า ชทั้ง 9 ประเทศไม่มีวันยอมรับการผนวกดินแดนใดๆ ก็ตามของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และขอให้ประเทศสมาชิกของอียูและนาโตเร่งให้ความช่วยเหลือด้านทหารแก่ยูเครนในทันที ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวเมื่อช่วงคืนวันอาทิตย์ว่า เขารู้สึกยินดีต่อแถลงการณ์ร่วมดังกล่าวของบรรดาผู้นำทั้ง 9 ประเทศ และหวังว่าจะมีความคืบหน้าในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกของนาโต ก่อนหน้านี้ผู้นำยูเครนได้ประกาศสมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกของนาโตเมื่อวันเสาร์ แม้มีผู้เชี่ยวชาญหลายรายออกมาเตือนว่ายูเครนอาจจะต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เนื่องจากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกของยูเครนจะต้องได้รับการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์จากสมาชิกทั้งหมดของนาโต 30 ประเทศ. -สำนักข่าวไทย

“โป๊ปฟรานซิส” วอน “ปูติน” หยุดความรุนแรงในยูเครน

วาติกัน 3 ต.ค. – สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งคริสตจักรนิกายโรมันคาทอลิก ทรงขอให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย หยุดวังวนความรุนแรงและความตายในยูเครน โดยระบุว่าพระองค์ทรงรู้สึกกังวลพระทัยที่ได้เห็นคราบเลือดและหยาดน้ำตาของประชาชน สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสตรัสที่จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ในนครรัฐวาติกันเมื่อวันอาทิตย์ว่า พระองค์ทรงขอให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน หยุดวังวนความรุนแรงและความตาย พร้อมทั้งทรงเรียกร้องให้ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน พิจารณาข้อเสนอยุติการสู้รบ พระองค์ทรงขอเรียกร้องต่อผู้นำของรัสเซียกับยูเครนโดยด่วนในนามของพระผู้เป็นเจ้าเพื่อยุติสถานการณ์ขัดแย้ง และทรงมองว่าการที่โลกต้องเสี่ยงต่อความขัดแย้งทางนิวเคลียร์นั้นเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล นอกจากนี้พระองค์ยังทรงประณามการผนวก 4 แคว้นของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดการใช้อาวุธนิวเคลียร์มากขึ้น และยังทรงเตือนประธานาธิบดีปูตินให้คำนึงประชาชนชาวรัสเซียให้มาก ก่อนหน้านี้ สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสทรงประณามการบุกโจมตียูเครนของรัสเซียอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงทรงตำหนิเหตุโจมตีรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก แต่การตรัสในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่พระองค์ทรงเอ่ยข้อเรียกร้องถึงประธานาธิบดีปูตินโดยตรง ทั้งนี้ ประธานาธิบดีปูตินได้จัดพิธีผนวกแคว้น 4 แห่งของยูเครน ได้แก่ แคว้นโดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคอร์ซอน และซาปอริชเชีย เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ หลังผู้นำของทั้งสี่แคว้นอ้างผลประชามติที่ระบุว่าประชาชนเกือบทั้งหมดเห็นด้วยกับการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างล้นหลาม ขณะที่ยูเครนและชาติตะวันตกต่างออกมาประณามว่าการผนวกแคว้นดังกล่าวเป็นเรื่องผิดกฎหมาย โดยยูเครนจะยังคงเดินหน้าบุกโจมตีรัสเซียเพื่อยึดพื้นที่เหล่านี้กลับคืนมาให้ได้. -สำนักข่าวไทย

รัสเซียใช้โดรนพลีชีพในเมืองที่เป็นบ้านของผู้นำยูเครน

รัสเซียใช้อากาศยานไร้คนขับหรือโดรนพลีชีพในเมืองครีวี รีห์ ทางใต้ของยูเครนในวันนี้ เป็นเมืองที่มีบ้านพักของประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนตั้งอยู่

ยูเครนยึดฐานที่มั่นสำคัญทางตะวันออกคืนจากรัสเซีย

เคียฟ 2 ต.ค.- กองกำลังยูเครนเผยว่า สามารถยึดเมืองลีมัน ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญในแคว้นโดเนตสก์ ทางตะวันออกของประเทศคืนจากรัสเซียได้แล้ว เป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการโต้กลับสายฟ้าแลบเมื่อเดือนก่อน ด้านพันธมิตรผู้นำรัสเซียเรียกร้องให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์ ทหารยูเครนบันทึกคลิปหน้าสภาเทศบาลเมืองลีมันและโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ว่า สามารถปลดแอกและยึดเมืองลีมันในแคว้นโดเนตสก์คืนได้เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น จากนั้นนำธงชาติรัสเซียลงจากหลังคาสภาเทศบาลและเชิญธงชาติยูเครนขึ้นไปแทน ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมงว่า กำลังถอนทหารออกจากพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากเสี่ยงถูกปิดล้อม กองกำลังยูเครนเผยว่า รัสเซียมีทหารอยู่ในเมืองนี้ราว 5,000-5,500 นายก่อนถอนกำลังออกไป รอยเตอร์ระบุว่า รัสเซียใช้เมืองลีมันเป็นศูนย์การขนส่งและโลจิสติกส์สำหรับปฏิบัติการทางทหารทางตอนเหนือของแคว้นโดเนตสก์ การยึดคืนได้ในครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่สุดของกองกำลังยูเครนที่เริ่มใช้ปฏิบัติการโต้กลับสายฟ้าแลบในแคว้นคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อเดือนกันยายน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครนกล่าวในคลิปที่บันทึกเมื่อค่ำวันเสาร์ว่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาธงของยูเครนได้โบกสะบัดในภูมิภาคดอนบาสเพิ่มมากขึ้น และจะเพิ่มขึ้นอีกภายใน 1 สัปดาห์ ภูมิภาคดอนบาสครอบคลุมแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ที่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเพิ่งประกาศผนวกทั้ง 2 แคว้นนี้ รวมถึงแคว้นเคอร์ซอนและแคว้นซาปอริชเชียเมื่อวันศุกร์ ทำให้ทั้ง 4 แคว้นซึ่งมีพื้นที่เกือบ 1 ใน 5 ของยูเครนอยู่ภายใต้หลักการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซีย ด้านนายรัมซัน กาดีรอฟ ผู้นำสาธารณรัฐเชเชนที่เป็นหนึ่งในสหพันธรัฐรัสเซียโพสต์ในเทเลแกรมก่อนที่ที่ผู้นำยูเครนเผยแพร่คลิปว่า โดยส่วนตัวแล้วเขาเห็นว่าควรใช้มาตรการที่รุนแรงมากขึ้นด้วยการประกาศกฎอัยการศึกตามพื้นที่ชายแดนและใช้อาวุธนิวเคลียร์ที่มีอำนาจทำลายต่ำ ปูตินกล่าวเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ไม่ได้ขู่ที่บอกว่าพร้อมใช้อาวุธทุกอย่างที่มีอยู่เพื่อปกป้องบูรณภาพทางดินแดน และกล่าวขณะประกาศผนวกแคว้นของยูเครนว่า แคว้นเหล่านี้อยู่ภายใต้หลักการนี้ด้วย.-สำนักข่าวไทย

ผอ.โรงไฟฟ้าซาปอริซเซียในยูเครน ถูกรัสเซียควบคุมตัว

ผู้อำนวยการใหญ่ของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริซเซียของยูเครนที่ถูกรัสเซียเข้ายึดครองถูกหน่วยลาดตระเวณของรัสเซียคาบคุมตัวไว้

ยูเครนเผยรัสเซียโจมตีขบวนรถพลเรือน ตาย 23 คน

เคียฟ 30 ก.ย. – ยูเครนระบุว่ารัสเซียได้ยิงโจมตีขบวนรถเพื่อมนุษยธรรมในเมืองซาปอริชเชีย เมืองเอกของแคว้นซาปอริชเชีย ทางตอนใต้ของยูเครน เมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 คน และบาดเจ็บ 28 คน โดยทั้งหมดเป็นพลเรือน ผู้ว่าการแคว้นซาปอริชเชียของยูเครนเผยผ่านสื่อโซเชียลมีเดียว่า รัสเซียได้ยิงจรวดโจมตีพื้นที่รอบนอกของเมืองซาปอริชเชีย ในขณะที่ขบวนรถของพลเมืองยูเครนกำลังต่อแถวเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ที่ถูกรัสเซียยึดครองชั่วคราว เพื่อรับญาติและส่งมอบความช่วยเหลือ ทั้งยังระบุว่า ขณะนี้มีรายงานผู้เสียชีวิต 23 คน และผู้บาดเจ็บ 28 คน โดยทั้งหมดเป็นพลเรือน ขณะที่เจ้าหน้าที่ของแคว้นซาปอริชเชียที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย กล่าวโทษกองทัพยูเครนว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า เหตุโจมตีดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย กำลังเตรียมลงนามในพิธีประกาศผนวกแคว้น 4 แห่งของยูเครนที่รัสเซียยึดครอง ได้แก่ แคว้นซาปอริชเชีย โดเนตสก์ ลูฮันสก์ และเคอร์ซอน ในวันนี้ หลังผู้นำแคว้นทั้งสี่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียอ้างผลประชามติที่ชี้ว่าประชาชนเกือบทั้งหมดเห็นด้วยกับการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งเป็นการกระทำที่ยูเครนและชาติตะวันตกระบุว่าเป็นเรื่องหลอกลวง. -สำนักข่าวไทย

“ปูติน” ประกาศรับรองเอกราช 2 แคว้นของยูเครน

มอสโก 30 ก.ย. – ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศกฤษฎีการับรองเอกราชแคว้น 2 แห่งของยูเครนที่รัสเซียยึดครอง ได้แก่ แคว้นซาปอริชเชียและเคอร์ซอน เมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ก่อนจัดพิธีประกาศผนวกแคว้น 4 แห่งของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างเป็นทางการในวันนี้ ประธานาธิบดีปูตินระบุในกฤษฎีกาว่า เขาขอประกาศรับรองอำนาจอธิปไตยและเอกราชของแคว้นซาปอริชเชียและเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน เช่นเดียวกับแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์ที่เคยประกาศในเดือนกุมภาพันธ์ ในขณะที่รัสเซียเตรียมจัดพิธีประกาศผนวกแคว้น 4 แห่งของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครอง ได้แก่ แคว้นซาปอริชเชีย เคอร์ซอน โดเนตสก์ และลูฮันสก์ในวันนี้ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลรัสเซียเผยว่า รัสเซียจะจัดพิธีประกาศผนวกแคว้นทั้งสี่เป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างยิ่งใหญ่ที่รัฐสภารัสเซียในวันนี้ ขณะที่นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซีย ระบุว่า ประธานาธิบดีปูตินจะกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสำคัญในพิธีดังกล่าวด้วย ทั้งนี้ ผู้นำของแคว้นทั้งสี่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียได้เดินทางถึงกรุงมอสโกในวันพฤหัสบดีเพื่อเข้าร่วมพิธีผนวกดินแดนในวันนี้เช่นกัน ในขณะเดียวกัน ยูเครนระบุว่า ชาติตะวันตกควรตอบโต้แผนการดังกล่าวของรัสเซียอย่างเหมาะสมด้วยการประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียและสนับสนุนกองทัพยูเครนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์มากขึ้น เพื่อให้ยูเครนยึดพื้นที่เหล่านี้คืนจากรัสเซีย ด้านประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เผยเมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาในสหรัฐว่า สหรัฐจะไม่มีวันยอมรับข้อกล่าวอ้างของรัสเซียเหนือดินแดนอธิปไตยของยูเครนอย่างเด็ดขาด ส่วนนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น กล่าวว่า เขาไม่ยอมรับแผนการผนวกแคว้นทั้งสี่เข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ทั้งยังประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการขยายขอบเขตสงครามที่อันตราย. -สำนักข่าวไทย

ผู้นำแคว้น 4 แห่งของยูเครนที่หนุนรัสเซียถึงกรุงมอสโกแล้ว

มอสโก 29 ก.ย. – ผู้นำแคว้น 4 แห่งของยูเครนที่มีรัสเซียหนุนหลังได้เดินทางถึงกรุงมอสโกแล้ว หลังจากเรียกร้องให้ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ประกาศผนวกแคว้นทั้งสี่เข้ากับรัสเซียอย่างเป็นทางการ นายลีโอนิด ปาเซชนิก ผู้นำของแคว้นลูฮันสก์ที่ต้องการแยกตัวออกจากยูเครน กล่าวกับสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียในวันนี้ว่า เขาเดินทางถึงกรุงมอสโกแล้ว ขณะที่นายคิริลล์ สเตรมูซอฟ เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียในแคว้นเคอร์ซอน เผยในรายการวิทยุที่เป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลรัสเซียว่า ผู้นำของแคว้น 4 แห่ง ได้แก่ แคว้นลูฮันสก์ โดเนตสก์ เคอร์ซอน และซาปอริชเชีย ได้วางแผนประชุมร่วมกับประธานาธิบดีปูติน แต่เขาไม่ทราบข้อมูลว่าการประชุมดังกล่าวจะจัดขึ้นที่ไหน เมื่อใด และหารือเกี่ยวกับเรื่องอะไร  ก่อนหน้านี้ ผู้นำของแคว้นทั้งสี่ได้อ้างว่า ประชาชนได้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียอย่างล้นหลามจากการทำประชามติ แม้ยูเครนและชาติตะวันตกได้ออกมาประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นเรื่องหลอกลวงก็ตาม ก่อนหน้านี้ นายสเตรมูซอฟได้โพสต์ภาพผ่านเทเลแกรม แอปพลิเคชั่นสนทนาออนไลน์แบบเข้ารหัส เมื่อช่วงค่ำวันพุธที่มีรูปนายเดนิส ปูชิลิน หัวหน้ากลุ่มแบ่งแยกดินแดนของแคว้นโดเนตสก์ นายวลาดิเมียร์ ซัลโด หัวหน้าแคว้นเคอร์ซอนที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย และนายเยฟเกนี บาลิตสกี หัวหน้าแคว้นซาปอริชเชียที่มีรัสเซียหนุนหลัง ทั้งยังระบุข้อความว่า ทั้งหมดได้เดินทางถึงกรุงมอสโกแล้ว และพร้อมที่จะผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในเร็ว ๆ นี้. -สำนักข่าวไทย

รัสเซียเตรียมผนวก 4 แคว้นของยูเครน

มอสโก 29 ก.ย.- รัสเซียเตรียมตัวผนวก 4 แคว้นของยูเครนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย หลังจากเผยแพร่ผลการลงประชามติที่อ้างว่าประชาชนสนับสนุนอย่างล้นหลามให้รวมกับรัสเซีย จัตุรัสแดงใจกลางกรุงมอสโกของรัสเซียติดตั้งจอขนาดใหญ่และมีถ้อยคำประกาศว่า โดเนตสก์ ลูฮันสก์ ซาปอริชเชีย และเคอร์ซอน คือรัสเซีย ประธานวุฒิสภารัสเซียเผยว่า อาจจะพิจารณาเรื่องผนวกแคว้นทั้ง 4 แห่งในยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครองบางส่วนในวันที่ 4 ตุลาคม หรือ 3 วันก่อนที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินจะมีอายุครบ 70 ปี ด้านฝ่ายบริหารที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียใน 4 แคว้นได้ยื่นคำขออย่างเป็นทางการให้ปูตินผนวกรวมกับรัสเซีย ตามที่เจ้าหน้าที่รัสเซียแนะนำว่าเป็นขั้นตอนที่ควรทำ การผนวก 4 แคว้นที่มีดินแดนคิดเป็นร้อยละ 15 ของยูเครนจะต้องมีการทำสนธิสัญญาและต้องได้รับสัตยาบันจากรัฐสภารัสเซียที่ควบคุมโดยพันธมิตรของปูติน จากนั้นทั้ง 4 แคว้นจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย และอยู่ภายใต้อำนาจการใช้อาวุธนิวเคลียร์ของรัสเซียตามที่ปูตินเคยประกาศว่า จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ปกป้องดินแดนรัสเซียจากการถูกโจมตี ชาวยูเครนที่หลบหนีออกจากพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซียไปยังพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของยูเครนเล่าว่า เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียใช้ปืนจี้บังคับให้คนออกไปลงประชามติ คลิปที่มีผู้บันทึกไว้เห็นเจ้าหน้าที่ถือกล่องลงคะแนนตระเวนไปทีละบ้านโดยมีคนถืออาวุธเดินตาม ชายคนหนึ่งในแคว้นเคอร์ซอนส่วนที่รัสเซียยึดครองเล่าว่า เจ้าหน้าที่ตระเวนไปตามบ้านแต่ไม่มีใครลงคะแนน ยกเว้นคนไม่กี่คนที่เปลี่ยนไปเลือกข้างรัสเซีย รัสเซียอ้างว่า เป็นการลงประชามติด้วยความสมัครใจ สอดคล้องกับกฎหมายสากล และมีคนลงคะแนนจำนวนมาก ด้านสหรัฐประกาศว่า จะใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่เพื่อลงโทษที่จัดการลงประชามติในยูเครน ขณะที่สหภาพยุโรปหรืออียู (EU) เสนอลงโทษรัสเซียเพิ่มเติม แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกทั้ง […]

ยูเครนจะไม่มีวันยอมรับผลประชามติของรัสเซีย

เคียฟ 28 ก.ย. – ยูเครนระบุวันนี้ว่า ผลการลงประชามติเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในดินแดน 4 แห่งของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครองเป็นโมฆะและไร้ค่า โดยยูเครนจะยังคงเดินหน้าปลดแอกดินแดนของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครองต่อไป กระทรวงต่างประเทศของยูเครนระบุในแถลงการณ์เรียกร้องให้ชาติพันธมิตรของยูเครนใช้มาตรการคว่ำบาตรที่รุนแรงขึ้นต่อรัสเซีย และส่งความช่วยเหลือทางทหารให้แก่ยูเครนมากขึ้น ทั้งยังระบุว่ายูเครนจะไม่มีวันเห็นด้วยกับผลประชามติของรัสเซียที่ยูเครนมองว่าเป็นการใช้กระบอกปืนบังคับให้ประชาชนในดินแดน 4 แห่งของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครอง ได้แก่ แคว้นลูฮันสก์ โดเนตสก์ เคอร์ซอน และซาปอริชเชีย ไปลงคะแนนเสียง การกระทำเช่นนี้ถือเป็นอีกหนึ่งอาชญากรรมที่รัสเซียก่อขึ้นในขณะรุกรานยูเครน กระทรวงต่างประเทศของยูเครนยังระบุว่า การทำประชามติของรัสเซียในดินแดนทั้ง 4 แห่ง เป็นเรื่องหลอกลวง เพราะไม่ใช่เจตนารมณ์ของประชาชน และไม่มีความหมายใดๆ ต่อการปกครองของยูเครนและดินแดนที่ได้รับการรับรองจากประชาคมโลก ยูเครนและประชาคมโลกขอประณามการกระทำดังกล่าวของรัสเซีย โดยถือว่าเป็นโมฆะและไร้ค่า ยูเครนมีสิทธิโดยชอบธรรมที่จะยึดดินแดนเหล่านี้กลับคืนมาด้วยวิธีทางทหารและการทูต และจะยังคงเดินหน้าปลดแอกดินแดนของยูเครนที่รัสเซียยึดครองอยู่ในขณะนี้. -สำนักข่าวไทย

รัสเซียอ้างประชามติในดินแดนยูเครนเห็นด้วยเข้าร่วมรัสเซีย

เคียฟ 28 ก.ย. – ดินแดน 4 แห่งของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครองได้เสร็จสิ้นการลงประชามติเพื่อเข้าร่วมกับรัสเซียแล้ว โดยอ้างว่าประชาชนเกือบทั้งหมดเห็นด้วยกับการผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ซึ่งเป็นแผนการลงประชามติที่ยูเครนและชาติพันธมิตรประณามว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่ในดินแดน 4 แห่งของยูเครนที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซียอ้างว่า ผลการลงประชามติชี้ว่าประชาชนเกือบทั้งหมดเห็นด้วยกับการผนวกเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย ขณะที่สำนักข่าวหลายแห่งที่เป็นฝ่ายสนับสนุนรัฐบาลรัสเซียในแคว้นโดเนตสก์กับแคว้นลูฮันสก์รายงานว่า ประชาชนร้อยละ 99.23 ลงประชามติเห็นด้วยกับการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย เป็นตัวเลขสูงมากที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นในการจัดทำประชามติ บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า การลงประชามติในแคว้นลูฮันสก์ โดเนตสก์ เคอร์ซอน และซาปอริชเชีย ไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมนานาชาติ เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวไม่ได้รับการตรวจสอบอย่างอิสระ นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย อาจประกาศผนวกดินแดนทั้งสี่แห่งเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียในการกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมรัฐสภารัสเซียวันศุกร์นี้ ทั้งนี้ มีประชาชนกว่า 4 ล้านคนของดินแดนทั้งสี่แห่งที่ถูกขอให้ไปลงประชามติในครั้งนี้ โดยที่ดินแดนทั้งสี่แห่งมีพื้นที่รวมกันราวร้อยละ 15 ของพื้นที่ทั้งหมดในยูเครน ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวหารัสเซียเมื่อคืนวันอังคารว่ากำลังละเมิดกฎข้อบังคับของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น โดยการพยายามที่จะผนวกดินแดนของยูเครนที่รัสเซียยึดครองเข้าเป็นส่วนหนึ่งของตน และไม่ควรเรียกแผนการดังกล่าวว่าเป็นการลงประชามติ ทั้งยังระบุว่า รัสเซียกำลังพยายามบังคับให้พลเมืองชายในดินแดนของยูเครนที่ถูกรัสเซียยึดครองเข้าร่วมกับกองทัพรัสเซียเพื่อส่งบุคคลเหล่านี้กลับมาต่อสู้กับบ้านเกิดเมืองนอนของตนเอง. -สำนักข่าวไทย

คนสนิท “ปูติน” ขู่ใช้นิวเคลียร์กับยูเครน

มอสโก 26 ก.ย.- นายดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีรัสเซีย ขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตียูเครนว่า พันธมิตรทางทหารที่นำโดยสหรัฐจะไม่เข้ามาข้องเกี่ยวโดยตรงกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน เพราะกลัวหายนะนิวเคลียร์ นายเมดเวเดฟ วัย 57 ปี รองประธานสภาความมั่นคงรัสเซียโพสต์ในเทเลแกรมว่า รัสเซียมีสิทธิที่จะปกป้องตนเองด้วยอาวุธนิวเคลียร์หากถูกกดดันจนเลยขีดจำกัด เรื่องนี้ไม่ใช่การขู่ให้กลัว ขอให้ลองนึกภาพรัสเซียถูกบีบให้ต้องใช้อาวุธที่น่ากลัวที่สุดกับระบอบยูเครนที่ดำเนินการรุกรานขนานใหญ่ที่เป็นอันตรายต่อการดำรงอยู่ของรัสเซีย เขาเชื่อว่า องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต จะไม่เข้ามาแทรกแซงความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน แม้แต่ในกรณีดังกล่าว เพราะบรรดาผู้ปลุกปั่นยุยงในยุโรปและข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกไม่อยากตายเพราะหายนะนิวเคลียร์ นายเมดเวเดฟซึ่งเป็นคนสนิทของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ย้ำว่า ขอเตือนไปถึงคนหูหนวกที่ฟังแต่เสียงของตัวเองว่า รัสเซียมีสิทธิที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์หากจำเป็น โดยจะทำล่วงหน้าและเป็นไปตามนโยบายของประเทศอย่างเคร่งครัด ประธานาธิบดีปูตินประกาศระดมพลเมื่อวันพุธ ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 และสนับสนุนการลงประชามติขอรวมกับรัสเซียในดินแดนยูเครนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย พร้อมกับเตือนชาติตะวันตกว่า เขาไม่ได้ขู่ให้กลัวเมื่อพูดว่าพร้อมจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ปกป้องรัสเซีย ทั้งนี้รัสเซียมีหลักการเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์ว่า ประธานาธิบดีอาจใช้อาวุธนิวเคลียร์หากประเทศเผชิญภัยที่มีอยู่จริง รวมถึงภัยจากอาวุธทั่วไป ปัจจุบันหัวรบนิวเคลียร์ร้อยละ 90 ของทั้งโลกอยู่ในความครอบครองรัสเซียและสหรัฐ.-สำนักข่าวไทย

1 61 62 63 64 65 157
...