ไฟฟ้า-น้ำประปาในกรุงเคียฟของยูเครนกลับมาเป็นปกติแล้ว

เคียฟ 2 พ.ย. – เจ้าหน้าที่ทางการกรุงเคียฟของยูเครนระบุว่า ระบบไฟฟ้าและน้ำประปาในเมืองหลวงของยูเครนกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่มีพื้นที่บางแห่งที่ยังคงประสบปัญหาไฟดับอยู่ หลังกรุงเคียฟถูกรัสเซียโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานได้เพียง 1 วัน นายวิตาลี คลิตช์โก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ เผยเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า ระบบไฟฟ้าและน้ำประปาในกรุงเคียฟกลับมาเป็นปกติแล้ว แต่มีบางพื้นที่ยังคงประสบปัญหาไฟดับ เนื่องจากจำเป็นต้องบริหารจัดการไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ก่อนหน้านี้ มีพื้นที่ร้อยละ 80 ของกรุงเคียฟที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำประปา และมีครัวเรือนจำนวนมากต้องใช้ชีวิตท่ามกลางไฟดับ จนทำให้ประชาชนต้องออกมาต่อแถวยาวเหยียดเพื่อรองน้ำจากเครื่องปั๊มน้ำจากบ่อน้ำ นายคลิตช์โกยังระบุว่า กรุงเคียฟจะกลับมาเปิดให้บริการรถประจำทางทั่วไป ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้า ตั้งแต่วันพุธ และจะจัดตั้งจุดบริการความอบอุ่นราว 1,000 แห่งทั่วกรุงเคียฟในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ ทางการกรุงเคียฟยังขอความร่วมมือให้ประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงานโดยใช้ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น โดยเฉพาะในช่วงเวลา 06.00 น. 11.00 น. 17.00 น. และ 23.00 น. ขณะที่ร้านอาหาร ร้านค้า และภาคธุรกิจอื่น ๆ ถูกกำหนดให้ใช้แสงไฟจากภายนอกอาคาร.-สำนักข่าวไทย

รมว.จีนบอกสหรัฐให้เลิกกดจีน

นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน บอกกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐว่า สหรัฐควรเลิกหาทางจำกัดและกดจีนได้แล้ว รวมทั้งหลีกเลี่ยงการสร้างอุปสรรคให้แก่ความสัมพันธ์ของ 2 ประเทศ

รัสเซียอาจส่งทหาร 40,000 นายไปยังเคอร์ซอน

รัสเซียอาจเคลื่อนย้ายกำลังพลหลายหมื่นนายไปยังเมืองเคอร์ซอน ขณะที่กองกำลังยูเครนเปิดฉากตอบโต้อย่างรุนแรงทางตะวันออกและทางใต้ของประเทศ

เกิดเหตุระเบิดเสียงดังหลายครั้งในกรุงเคียฟของยูเครน

เคียฟ 31 ต.ค. – เกิดเหตุระเบิดเสียงดังขึ้นหลายครั้งที่กรุงเคียฟของยูเครนเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่เจ้าหน้าที่ของยูเครนระบุว่า มีหลายเมืองที่ถูกจรวดยิงโจมตีโดยมุ่งเป้าทำลายระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของยูเครน สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานอ้างแหล่งข่าวไม่เผยนามในกรุงเคียฟที่ระบุว่า เกิดเหตุระเบิดเสียงดังกว่า 10 ครั้งในเมืองหลวงของยูเครน ทำให้เห็นกลุ่มควันลอยอยู่เหนือท้องฟ้าในกรุงเคียฟ เหตุดังกล่าวยังทำให้ระบบไฟฟ้าดับและสัญญาณโทรศัพท์มือถือล่มในหลายพื้นที่ของกรุงเคียฟ ขณะที่นายอิฮอร์ เตเรคอฟ นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับสอง ทางตะวันออกเฉียงหนือของยูเครน เผยว่า เมืองคาร์คีฟถูกจรวด 2 ลูกโจมตี โดยมุ่งทำลายระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ นอกจากนี้ ยังมีรายงานเหตุระเบิดขึ้นที่เมืองซาปอริชเชีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ และเมืองเชอร์กาซี ทางตอนกลางของยูเครน อีกด้วย ในขณะเดียวกัน นายอังดรีย์ เยอร์มัก หัวหน้าสำนักงานประธานาธิบดียูเครน  ระบุผ่านเทเลแกรม แอปพลิเคชั่นสนทนาออนไลน์แบบเข้ารหัส ว่า กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้ รอยเตอร์สรายงานว่า รัสเซียได้ยิงจรวดโจมตียูเครนหนักหน่วงขึ้นในรอบไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา หลังกล่าวหาว่ายูเครนอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดบนสะพานที่เชื่อมรัสเซียกับคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งรัสเซียผนวกเป็นส่วนหนึ่งของตน. -สำนักข่าวไทย

รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงให้ยูเครนส่งออกธัญพืช

รัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงที่สหประชาชาติหรือยูเอ็นเป็นคนกลางให้ยูเครนสามารถส่งออกธัญพืชจากท่าเรือริมทะเลดำแล้ว สร้างความกังวลให้แก่ความพยายามคลี่คลายวิกฤตอาหารโลกที่เกิดขึ้นตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์

“เซเลนสกี” เผยรัสเซียใช้โดรนกว่า 30 ลำโจมตียูเครนใน 2 วัน

เคียฟ 28 ต.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า รัสเซียได้ใช้โดรนกว่า 30 ลำโจมตียูเครนในเวลาเพียง 2 วัน โดยรัสเซียยิงจรวดโจมตียูเครนทั้งหมด 4,500 ลูก และใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกว่า 8,000 ครั้ง ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวในกรุงเคียฟขณะยืนอยู่ข้างอากาศยานที่ดูเมือนโดรนชาเฮด (Shahed) ของอิหร่านที่ถูกยิงตกว่า รัสเซียได้ใช้โดรนกว่า 30 ลำโจมตียูเครนในช่วงเวลาเพียง 2 วันที่ผ่านมา โดยรัสเซียยิงจรวดโจมตียูเครนทั้งหมด 4,500 ลูก และใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกว่า 8,000 ครั้ง ทั้งยังให้คำมั่นว่า ยูเครนจะหาทางจำกัดขีดความสามารถในการโจมตีทางอากาศของรัสเซียให้ได้ การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวของประธานาธิบดีเซเลนสกีมีขึ้นในขณะที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ เรียกการใช้โดรนโจมตียูเครนของรัสเซียว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจ ทั้งยังกล่าวหาผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียว่าเป็นผู้สั่งการให้ใช้โดรนเหล่านี้สังหารพลเรือนและทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าและระบบส่งน้ำของยูเครน ทั้งนี้ สหรัฐกับแคนาดาจะทำงานร่วมกับชาติพันธมิตรเพื่อเปิดโปง ขัดขวาง และต่อต้านอิหร่านในการจัดหาโดรนเหล่านี้ให้แก่รัสเซีย บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ชาติตะวันตกได้กล่าวหาอิหร่านว่าเป็นผู้จัดส่งโดรนที่ผลิตขึ้นเองให้แก่รัฐบาลรัสเซีย รวมถึงส่งผู้เชี่ยวชาญด้านทหารของอิหร่านลงพื้นที่คาบสมุทรไครเมียที่ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเพื่อให้ความรู้ด้านเทคนิคแก่นักบิน อย่างไรก็ดี รัฐบาลอิหร่านได้ออกมาปฏิเสธหลายครั้งว่าไม่ได้ทำข้อตกลงขายโดรนให้รัสเซีย ส่วนรัฐบาลรัสเซียก็ปฏิเสธว่าไม่เคยใช้โดรนของอิหร่าน.-สำนักข่าวไทย

ผู้นำเกาหลีใต้ยืนยันไม่ได้จัดหาอาวุธให้ยูเครน

ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ กล่าววันนี้ว่า รัฐบาลโซลไมได้จัดหาอาวุธอันตรายใด ๆ ให้กับยูเครน หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวว่า หากเกาหลีใต้ตัดสินใจเช่นนั้นจะเป็นการทำงานความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเกาหลีใต้กับรัสเซีย

ชี้วิกฤติพลังงานจากสงครามยูเครนเร่งการใช้พลังงานสีเขียว

องค์การพลังงานระหว่างประเทศ หรือ ไออีเอ กล่าววันนี้ว่า การที่รัสเซียส่งออกพลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิลลดลงหลังจากที่บุกรุกรานยูเครนในปีนี้ จะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ด้านพลังงานของโลกที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายทศวรรษไปจากเดิมและจะช่วยเร่งให้มีการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสีเชียวรวดเร็วมากขึ้น

ยูเครนวอนผู้อพยพอย่ากลับประเทศเหตุพลังงานไม่พอใช้

เคียฟ 26 ต.ค. – ยูเครนขอให้ประชาชนที่อพยพออกจากประเทศตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ พำนักอาศัยอยู่ในต่างประเทศต่อไปจนสิ้นสุดฤดูหนาว เนื่องจากยูเครนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ไฟดับที่เกิดจากการที่รัสเซียโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในยูเครน ไอรีนา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรีของยูเครน กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของยูเครนเมื่อวันอังคารว่า เธอขอให้ประชาชนที่อพยพออกนอกประเทศพำนักอาศัยอยู่ในต่างประเทศไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิก่อนที่จะเดินทางกลับมายูเครน และไม่ควรเดินทางกลับประเทศในตอนนี้ เนื่องจากยูเครนกำลังประสบปัญหาด้านพลังงานไม่เพียงพอในช่วงฤดูหนาว โดยที่ในขณะนี้มีชาวยูเครนกว่า 1 ล้านคนที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางไฟดับหลังถูกรัสเซียโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทั่วประเทศ ยูเครนระบุว่า รัสเซียได้เปิดฉากยิงจรวดและใช้โดรนโจมตีทางอากาศใส่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน จนทำให้ยูเครนเผชิญกับปัญหาไฟดับและระบบส่งน้ำขัดข้อง นับตั้งแต่ที่เกิดเหตุระเบิดบนสะพานเชื่อมรัสเซียกับคาบสมุทรไครเมียเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งรัสเซียเชื่อว่าเป็นฝีมือของกองทัพยูเครน ยูเครนยังระบุว่า รัสเซียได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนไปแล้วร้อยละ 40 ขณะที่เจ้าหน้าที่ในกรุงเคียฟเตือนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ชาวยูเครนต้องเตรียมรับมือกับเหตุไฟดับที่อาจเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ทั้งนี้ เหตุโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในยูเครนของรัสเซียมีขึ้นในขณะที่หลายประเทศในทวีปยุโรปที่ชาวยูเครนอพยพไปพำนักอาศัยกำลังเผชิญกับปัญหาด้านพลังงาน อาหาร และค่าครองชีพอื่น ๆ ที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ผู้อพยพชาวยูเครนยิ่งประสบปัญหาหนักขึ้นจากเดิมที่ต้องการหางานประจำที่มีรายได้ดีในประเทศใหม่. -สำนักข่าวไทย

รัสเซียอ้างยูเครนอาจใช้ระเบิดกัมมันตรังสี

มอสโก 24 ต.ค.- รัสเซียอ้างว่า ยูเครนอาจใช้ระเบิดกัมมันตรังสี (dirty bomb) ขณะที่ชาติตะวันตกพันธมิตรยูเครนไม่เชื่อข้ออ้างนี้ นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียกล่าวเรื่องนี้ระหว่างสนทนาทางโทรศัพท์กับนายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษว่า รู้สึกกังวลเรื่องยูเครนอาจจะยั่วยุด้วยการใช้ระเบิดกัมมันตรังสี เขายังพูดเรื่องเดียวกันนี้ในการสนทนาทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ฝรั่งเศสและตุรกีเมื่อวันอาทิตย์ โดยไม่ได้แสดงหลักฐานสนับสนุนการกล่าวหาแต่อย่างใด ด้านนายวอลเลซเผยว่า ได้เตือนนายชอยกูไปว่าอย่านำข้ออ้างนี้มาใช้บังหน้าการขยายขอบเขตสงคราม รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ สหรัฐและฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า รัฐบาลของทั้ง 3 ประเทศไม่เชื่อข้ออ้างเท็จของรัสเซียที่ว่า ยูเครนเตรียมใช้ระเบิดกัมมันตรังสีในดินแดนของยูเครนเอง และจะเดินหน้าสนับสนุนยูเครนที่เผชิญกับการทำสงครามรุกรานที่โหดร้ายของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนตอบโต้ว่า รัสเซียพูดเรื่องนี้เพราะอาจกำลังเตรียมใช้ระเบิดแบบนี้ก่อเหตุโจมตี รัสเซียคือแหล่งของความสกปรกทุกอย่างที่สามารถเกิดขึ้นได้ในสงครามนี้ และคุกคามโลกด้วยภัยพิบัติกัมมันตรังสีที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่รัสเซียยึดไว้ นอกจากนี้รัสเซียยังเคยขู่จะระเบิดเขื่อนใหญ่ทางตอนใต้ของยูเครนด้วย ทั้งโลกจึงควรตอบโต้รัสเซียอย่างรุนแรงที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ผู้ประกาศทีวีรัสเซียบอกให้โยนเด็กยูเครนลงน้ำ

มอสโก 24 ต.ค.- ผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์ทางการรัสเซียถูกสั่งพักงานหลังจากกล่าวในรายการว่า เด็กชาวยูเครนที่มองว่ารัสเซียเป็นผู้ยึดครองควรถูกจับโยนลงแม่น้ำ ขณะที่ยูเครนตราหน้าสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ว่ายุยงให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ นายอันตอน คราสซอฟสกี วัย 47 ปี ผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์อาร์ที (RT) แสดงความเห็นในรายการที่ออกอากาศเมื่อสัปดาห์ก่อนเรื่องที่นายเซอร์เก ลุกยาเนนโก นักแต่งนวนิยายวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียเล่าว่า ช่วงที่ไปยูเครนครั้งแรกราวคริสต์ทศวรรษปี 1980 เด็ก ๆ ยูเครนบอกกับเขาว่า พวกเขาคงมีชีวิตที่ดีกว่านี้หากประเทศไม่ถูกรัสเซียยึดครองในสมัยสหภาพโซเวียต นายคราสซอฟสกีกล่าวว่า เด็กที่วิจารณ์รัสเซียควรถูกจับโยนลงไปในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว เด็กพวกนี้ควรถูกจับถ่วงแม่น้ำทีสซีนา หรือไม่ก็ยัดเข้าไปในกระท่อมแล้วเผาทิ้ง บทสัมภาษณ์บางส่วนในรายการดังกล่าวที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เห็นเขาหัวเราะเมื่อพูดถึงข่าวทหารรัสเซียข่มขืนสตรียูเครนสูงวัยในช่วงที่บุกเข้าไปในยูเครน บรรณาธิการบริหารของสถานีโทรทัศน์อาร์ทีสั่งพักงานนายคราสซอฟสกี โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากเขาแสดงความเห็นที่น่ารังเกียจ ขอยืนยันว่าคนในสถานีไม่มีความเห็นแบบเขา และได้กล่าวถึงเด็กชาวยูเครน รวมถึงเด็กในภูมิภาคดอนบาส และเด็ก ๆ ทุกคนว่า ขอให้เรื่องทั้งหมดยุติลงโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เด็ก ๆ ได้กลับไปมีชีวิตและเรียนหนังสืออย่างสันติสุขอีกครั้ง โดยเรียนเป็นภาษาที่คิดว่าเป็นภาษาบ้านเกิดของตนเอง ด้านนายดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนทวีตว่า รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ที่ยังไม่แบนอาร์ทีจะต้องดูบทสัมภาษณ์นี้ เป็นการยุยงให้มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างก้าวร้าว ไม่ใช่เสรีภาพในการแสดงออกแม้แต่น้อย ขอให้ทั่วโลกแบนอาร์ที.-สำนักข่าวไทย

1 62 63 64 65 66 163
...