
ยูเครนประกาศขับไล่รัสเซีย
ผู้นำยูเครนประกาศท่ามกลางความมืดในกรุงเคียฟ ลั่นจะขับไล่รัสเซียออกไปให้พ้นเหมือนเคยไล่นาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว
ผู้นำยูเครนประกาศท่ามกลางความมืดในกรุงเคียฟ ลั่นจะขับไล่รัสเซียออกไปให้พ้นเหมือนเคยไล่นาซีเยอรมันในสงครามโลกครั้งที่ 2 มาแล้ว
เคียฟ 28 ต.ค. – ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน เผยว่า รัสเซียได้ใช้โดรนกว่า 30 ลำโจมตียูเครนในเวลาเพียง 2 วัน โดยรัสเซียยิงจรวดโจมตียูเครนทั้งหมด 4,500 ลูก และใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกว่า 8,000 ครั้ง ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวในกรุงเคียฟขณะยืนอยู่ข้างอากาศยานที่ดูเมือนโดรนชาเฮด (Shahed) ของอิหร่านที่ถูกยิงตกว่า รัสเซียได้ใช้โดรนกว่า 30 ลำโจมตียูเครนในช่วงเวลาเพียง 2 วันที่ผ่านมา โดยรัสเซียยิงจรวดโจมตียูเครนทั้งหมด 4,500 ลูก และใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศกว่า 8,000 ครั้ง ทั้งยังให้คำมั่นว่า ยูเครนจะหาทางจำกัดขีดความสามารถในการโจมตีทางอากาศของรัสเซียให้ได้ การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวของประธานาธิบดีเซเลนสกีมีขึ้นในขณะที่นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของสหรัฐ เรียกการใช้โดรนโจมตียูเครนของรัสเซียว่าเป็นเรื่องที่น่าตกใจ ทั้งยังกล่าวหาผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียว่าเป็นผู้สั่งการให้ใช้โดรนเหล่านี้สังหารพลเรือนและทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าและระบบส่งน้ำของยูเครน ทั้งนี้ สหรัฐกับแคนาดาจะทำงานร่วมกับชาติพันธมิตรเพื่อเปิดโปง ขัดขวาง และต่อต้านอิหร่านในการจัดหาโดรนเหล่านี้ให้แก่รัสเซีย บรรษัทแพร่ภาพกระจายเสียงอังกฤษ หรือบีบีซี รายงานว่า ชาติตะวันตกได้กล่าวหาอิหร่านว่าเป็นผู้จัดส่งโดรนที่ผลิตขึ้นเองให้แก่รัฐบาลรัสเซีย รวมถึงส่งผู้เชี่ยวชาญด้านทหารของอิหร่านลงพื้นที่คาบสมุทรไครเมียที่ถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเพื่อให้ความรู้ด้านเทคนิคแก่นักบิน อย่างไรก็ดี รัฐบาลอิหร่านได้ออกมาปฏิเสธหลายครั้งว่าไม่ได้ทำข้อตกลงขายโดรนให้รัสเซีย ส่วนรัฐบาลรัสเซียก็ปฏิเสธว่าไม่เคยใช้โดรนของอิหร่าน.-สำนักข่าวไทย
ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล ของเกาหลีใต้ กล่าววันนี้ว่า รัฐบาลโซลไมได้จัดหาอาวุธอันตรายใด ๆ ให้กับยูเครน หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวว่า หากเกาหลีใต้ตัดสินใจเช่นนั้นจะเป็นการทำงานความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างเกาหลีใต้กับรัสเซีย
องค์การพลังงานระหว่างประเทศ หรือ ไออีเอ กล่าววันนี้ว่า การที่รัสเซียส่งออกพลังงานเชื้อเพลิงจากฟอสซิลลดลงหลังจากที่บุกรุกรานยูเครนในปีนี้ จะเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ด้านพลังงานของโลกที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายทศวรรษไปจากเดิมและจะช่วยเร่งให้มีการเปลี่ยนผ่านไปสู่การใช้พลังงานสีเชียวรวดเร็วมากขึ้น
เคียฟ 26 ต.ค. – ยูเครนขอให้ประชาชนที่อพยพออกจากประเทศตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ พำนักอาศัยอยู่ในต่างประเทศต่อไปจนสิ้นสุดฤดูหนาว เนื่องจากยูเครนกำลังเผชิญกับสถานการณ์ไฟดับที่เกิดจากการที่รัสเซียโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในยูเครน ไอรีนา เวเรชชุก รองนายกรัฐมนตรีของยูเครน กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของยูเครนเมื่อวันอังคารว่า เธอขอให้ประชาชนที่อพยพออกนอกประเทศพำนักอาศัยอยู่ในต่างประเทศไปจนถึงฤดูใบไม้ผลิก่อนที่จะเดินทางกลับมายูเครน และไม่ควรเดินทางกลับประเทศในตอนนี้ เนื่องจากยูเครนกำลังประสบปัญหาด้านพลังงานไม่เพียงพอในช่วงฤดูหนาว โดยที่ในขณะนี้มีชาวยูเครนกว่า 1 ล้านคนที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางไฟดับหลังถูกรัสเซียโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานทั่วประเทศ ยูเครนระบุว่า รัสเซียได้เปิดฉากยิงจรวดและใช้โดรนโจมตีทางอากาศใส่โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครน จนทำให้ยูเครนเผชิญกับปัญหาไฟดับและระบบส่งน้ำขัดข้อง นับตั้งแต่ที่เกิดเหตุระเบิดบนสะพานเชื่อมรัสเซียกับคาบสมุทรไครเมียเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ซึ่งรัสเซียเชื่อว่าเป็นฝีมือของกองทัพยูเครน ยูเครนยังระบุว่า รัสเซียได้ทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนไปแล้วร้อยละ 40 ขณะที่เจ้าหน้าที่ในกรุงเคียฟเตือนเมื่อสัปดาห์ก่อนว่า ชาวยูเครนต้องเตรียมรับมือกับเหตุไฟดับที่อาจเกิดขึ้นเป็นเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ ทั้งนี้ เหตุโจมตีระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานในยูเครนของรัสเซียมีขึ้นในขณะที่หลายประเทศในทวีปยุโรปที่ชาวยูเครนอพยพไปพำนักอาศัยกำลังเผชิญกับปัญหาด้านพลังงาน อาหาร และค่าครองชีพอื่น ๆ ที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งทำให้ผู้อพยพชาวยูเครนยิ่งประสบปัญหาหนักขึ้นจากเดิมที่ต้องการหางานประจำที่มีรายได้ดีในประเทศใหม่. -สำนักข่าวไทย
มอสโก 24 ต.ค.- รัสเซียอ้างว่า ยูเครนอาจใช้ระเบิดกัมมันตรังสี (dirty bomb) ขณะที่ชาติตะวันตกพันธมิตรยูเครนไม่เชื่อข้ออ้างนี้ นายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียกล่าวเรื่องนี้ระหว่างสนทนาทางโทรศัพท์กับนายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมอังกฤษว่า รู้สึกกังวลเรื่องยูเครนอาจจะยั่วยุด้วยการใช้ระเบิดกัมมันตรังสี เขายังพูดเรื่องเดียวกันนี้ในการสนทนาทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ฝรั่งเศสและตุรกีเมื่อวันอาทิตย์ โดยไม่ได้แสดงหลักฐานสนับสนุนการกล่าวหาแต่อย่างใด ด้านนายวอลเลซเผยว่า ได้เตือนนายชอยกูไปว่าอย่านำข้ออ้างนี้มาใช้บังหน้าการขยายขอบเขตสงคราม รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ สหรัฐและฝรั่งเศสออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า รัฐบาลของทั้ง 3 ประเทศไม่เชื่อข้ออ้างเท็จของรัสเซียที่ว่า ยูเครนเตรียมใช้ระเบิดกัมมันตรังสีในดินแดนของยูเครนเอง และจะเดินหน้าสนับสนุนยูเครนที่เผชิญกับการทำสงครามรุกรานที่โหดร้ายของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ด้านประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีของยูเครนตอบโต้ว่า รัสเซียพูดเรื่องนี้เพราะอาจกำลังเตรียมใช้ระเบิดแบบนี้ก่อเหตุโจมตี รัสเซียคือแหล่งของความสกปรกทุกอย่างที่สามารถเกิดขึ้นได้ในสงครามนี้ และคุกคามโลกด้วยภัยพิบัติกัมมันตรังสีที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาปอริชเชียที่รัสเซียยึดไว้ นอกจากนี้รัสเซียยังเคยขู่จะระเบิดเขื่อนใหญ่ทางตอนใต้ของยูเครนด้วย ทั้งโลกจึงควรตอบโต้รัสเซียอย่างรุนแรงที่สุด.-สำนักข่าวไทย
มอสโก 24 ต.ค.- ผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์ทางการรัสเซียถูกสั่งพักงานหลังจากกล่าวในรายการว่า เด็กชาวยูเครนที่มองว่ารัสเซียเป็นผู้ยึดครองควรถูกจับโยนลงแม่น้ำ ขณะที่ยูเครนตราหน้าสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ว่ายุยงให้เกิดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ นายอันตอน คราสซอฟสกี วัย 47 ปี ผู้ประกาศของสถานีโทรทัศน์อาร์ที (RT) แสดงความเห็นในรายการที่ออกอากาศเมื่อสัปดาห์ก่อนเรื่องที่นายเซอร์เก ลุกยาเนนโก นักแต่งนวนิยายวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียเล่าว่า ช่วงที่ไปยูเครนครั้งแรกราวคริสต์ทศวรรษปี 1980 เด็ก ๆ ยูเครนบอกกับเขาว่า พวกเขาคงมีชีวิตที่ดีกว่านี้หากประเทศไม่ถูกรัสเซียยึดครองในสมัยสหภาพโซเวียต นายคราสซอฟสกีกล่าวว่า เด็กที่วิจารณ์รัสเซียควรถูกจับโยนลงไปในแม่น้ำที่ไหลเชี่ยว เด็กพวกนี้ควรถูกจับถ่วงแม่น้ำทีสซีนา หรือไม่ก็ยัดเข้าไปในกระท่อมแล้วเผาทิ้ง บทสัมภาษณ์บางส่วนในรายการดังกล่าวที่เผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์เห็นเขาหัวเราะเมื่อพูดถึงข่าวทหารรัสเซียข่มขืนสตรียูเครนสูงวัยในช่วงที่บุกเข้าไปในยูเครน บรรณาธิการบริหารของสถานีโทรทัศน์อาร์ทีสั่งพักงานนายคราสซอฟสกี โดยให้เหตุผลว่า เนื่องจากเขาแสดงความเห็นที่น่ารังเกียจ ขอยืนยันว่าคนในสถานีไม่มีความเห็นแบบเขา และได้กล่าวถึงเด็กชาวยูเครน รวมถึงเด็กในภูมิภาคดอนบาส และเด็ก ๆ ทุกคนว่า ขอให้เรื่องทั้งหมดยุติลงโดยเร็วที่สุด เพื่อให้เด็ก ๆ ได้กลับไปมีชีวิตและเรียนหนังสืออย่างสันติสุขอีกครั้ง โดยเรียนเป็นภาษาที่คิดว่าเป็นภาษาบ้านเกิดของตนเอง ด้านนายดมิโตร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนทวีตว่า รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ที่ยังไม่แบนอาร์ทีจะต้องดูบทสัมภาษณ์นี้ เป็นการยุยงให้มีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างก้าวร้าว ไม่ใช่เสรีภาพในการแสดงออกแม้แต่น้อย ขอให้ทั่วโลกแบนอาร์ที.-สำนักข่าวไทย
ยูเครนแจ้งว่า เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ เนื่องจากถูกรัสเซียระดมยิงขีปนาวุธถล่มสาธารณูโภคด้านไฟฟ้าและอื่น ๆ เมื่อวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น ด้านรัสเซียที่ยึดครองเมืองทางใต้ของยูเครนสั่งพลเรือนเร่งอพยพออก
กระทรวงต่างประเทศอิหร่านกล่าววันนี้ว่า อิหร่านขอประณามอย่างรุนแรงกรณีที่มีการเรียกร้องจากฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ ให้สหประชาชาติสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่ารัสเซียใช้โดรนที่ผลิตในอิหร่านโจมตียูเครน
เคียฟ 21 ต.ค. – ยูเครนกล่าวหาว่ารัสเซียกำลังวางแผนทำลายเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในพื้นที่ทางตะวันออกของแคว้นเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน ในขณะที่ทหารยูเครนยังคงเดินหน้าปฏิบัติการรุกคืบอย่างต่อเนื่องจนทำให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับแต่งตั้งจากรัสเซียต้องเริ่มอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าว ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวกับบรรดาผู้นำของสหภาพยุโรป หรืออียู ในการประชุมสภาอียูผ่านระบบวิดีโอคอลเมื่อวันพฤหัสบดีว่า กองทัพรัสเซียได้วางระเบิดเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำที่เมืองคาคอฟกา ทางตะวันออกของแคว้นเคอร์ซอน โดยมีเจตนาให้เขื่อนแตกและทำให้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่จากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เป็นอันตรายต่อประชาชนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตอนล่างของแม่น้ำดนิโปร ทั้งยังระบุว่า การใช้กลยุทธ์ตัดน้ำของรัสเซียในพื้นที่ตอนใต้ของยูเครนอาจส่งผลกระทบต่อระบบหล่อเย็นของโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ซาปอริชเชีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดใหญ่ที่สุดของทวีปยุโรป และอาจทำให้คลองไครเมียนเหนือได้รับความเสียหายเช่นกัน ในขณะเดียวกัน นายมิไคโล โปโดเลียก ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ระบุว่า ขณะนี้ กองทัพรัสเซียตั้งเป้าขัดขวางปฏิบัติการรุกคืบของยูเครนในแคว้นเคอร์ซอนและปกป้องทหารรัสเซีย ทั้งนี้ หลายเมืองของยูเครนเริ่มเข้าสู่มาตรการจำกัดการใช้ไฟฟ้าก่อนถึงฤดูหนาวตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดี เนื่องจากเจ้าหน้าที่ของยูเครนระบุว่าเครือข่ายพลังงานของยูเครนกำลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากการโจมตีของรัสเซีย ซึ่งอาจทำให้เกิดคลื่นผู้อพยพออกนอกประเทศระลอกใหม่อีกครั้ง.-สำนักข่าวไทย
เคียฟ 20 ต.ค.- ยูเครนจำกัดการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศเป็นครั้งแรกในวันนี้ หลังจากถูกรัสเซียใช้ขีปนาวุธและอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนยิงถล่มโรงไฟฟ้าบางแห่งขณะที่ยูเครนกำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาว เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนและอูเครเนอร์โอ (Ukrenergo) บริษัทดูแลระบบส่งไฟฟ้าแห่งเดียวของยูเครนแถลงวันนี้ว่า จะจำกัดการส่งไฟฟ้าตั้งแต่เวลา 07:00-23:00 น.ของวันนี้ และอาจต้องขอความร่วมมือจากประชาชนถี่ขึ้นเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาว ที่ปรึกษาประธานาธิบดีเตือนว่า อาจต้องดับไฟเป็นการชั่วคราวหากประชาชนไม่ช่วยกันประหยัดไฟฟ้า ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครนกล่าวในคลิปที่เผยแพร่เมื่อคืนที่ผ่านมาว่า โครงสร้างพื้นฐานสำคัญเสียหายครั้งใหม่ ศัตรูได้ทำลายสาธารณูปโภคด้านพลังงาน 3 แห่ง ยูเครนกำลังเตรียมตัวรับมือกับทุกความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวนี้ และคาดว่ารัสเซียจะมุ่งหน้าทำลายสาธารณูปโภคด้านพลังงานของยูเครนต่อไป จนกว่ายูเครนจะสามารถยิงทำลายขีปนาวุธและโดรนของรัสเซียได้หมดสิ้น โดยรับความช่วยเหลือจากหุ้นส่วนของยูเครน ผู้นำยูเครนกล่าวเมื่อต้นสัปดาห์ว่า โรงไฟฟ้า 1 ใน 3 ของประเทศตกเป็นเป้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย รัสเซียได้โหมใช้ขีปนาวุธและโดรนโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าและน้ำประปาของยูเครนหนักหน่วงขึ้นในช่วงหลายวันมานี้ ผู้นำยูเครนอ้างว่า ยูเครนยิงโดรนรัสเซียที่ผลิตในอิหร่านตกไปแล้วทั้งหมด 233 ลำ ยูเครนกล่าวหารัสเซียว่าใช้โดรนชาเฮด-136 ของอิหร่านเป็นโดรนพลีชีพด้วยการพุ่งชนเป้าหมายแล้วปลดชนวนระเบิด แต่รัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้ และอิหร่านปฏิเสธว่าไม่ได้จัดส่งโดรนดังกล่าวให้รัสเซีย.-สำนักข่าวไทย
เจ้าหน้าที่ของแคว้นเคอร์ซอนที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัสเซีย ประกาศแจ้งให้พลเรือนอพยพออกจากแคว้นเคอร์ซอน ทางตอนใต้ของยูเครน โดยเร็วที่สุด เนื่องจากกองทัพยูเครนอาจเริ่มปฏิบัติการโต้กลับรัสเซียได้ทุกเมื่อ